ผลต่างระหว่างรุ่นของ "มนุษย์หมาป่า"

เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
Nullzerobot (คุย | ส่วนร่วม)
ลบลิงก์ที่ซ้ำซ้อน wikidata
ไม่มีความย่อการแก้ไข
บรรทัด 3:
[[ไฟล์:Loup-garou.jpg|thumb|250px|right|พิมพ์ไม้ในคริสต์ศตวรรษที่ 18 แสดงภาพมนุษย์หมาป่า]]
 
'''มนุษย์หมาป่า''' ({{lang-en|Werewolf, Lycanthrope}}) เป็น[[ผี]]ตามความเชื่อของชาวยุโรปใน[[ยุคกลาง]] จัดเป็นผีจำพวกเดียวกับ[[แวมไพร์]]หรือผีดิบดูดเลือดชนิดหนึ่ง คือ เป็นผีที่สามารถแปลงร่างเป็นทั้งมนุษย์และ[[หมาป่า]]ได้ อาหารของมนุษย์หมาป่าก็คือ เนื้อและเลือดสด ๆ ของมนุษย์ โดยจะออกหากินในเวลากลางคืน เหยื่อโดยมากจะเป็นเหยื่อที่มาเพียงคนเดียว
'''มนุษย์หมาป่า''' ({{lang-en|werewolf หรือ lycanthrope}}) เป็นมนุษย์ ซึ่งตาม[[เทพปกรณัม]]หรือ[[คติชนวิทยา|คติชน]]ว่า มีความสามารถ[[เปลี่ยนร่าง]]ตนเองเป็นหรือคล้าย[[สุนัขป่า]] เพราะถูกมนุษย์หมาป่าตนอื่นขบกัดเข้า หรือเพราะต้องคำสาป [[Gervase of Tilbury|เชอร์แวสแห่งทิวเบรี]] (Gervase of Tilbury) นักกฎหมายใน[[medieval|มัชฌิมยุค]] ตลอดจน[[Petronius Arbiter|เกเอิส เพโทรนิเอิส อาร์บีเทอร์]] (Gaius Petronius Arbiter) ข้าราชการสมัยกรีกโบราณ บันทึกว่า การเปลี่ยนร่างของมนุษย์หมาป่านั้นมักเกี่ยวเนื่องกับการปรากฏขึ้นของ[[จันทร์เพ็ญ|เดือนเพ็ญ]]
 
มนุษย์หมาป่ามีทั้งที่เป็นกึ่งมนุษย์กึ่งหมาป่า และกลายร่างเป็นหมาป่าทั้งตัว เชื่อกันว่ามนุษย์หมาป่าสามารถกลับหนัวของตนเข้าข้างในเพื่อหลบซ่อนขนหมาป่าเมื่อกลายร่างเป็นมนุษย์ได้ ผู้ที่ถูกกล่าวหาว่าเป็นมนุษย์หมาป่าจะถูกถลกหนังออกเพื่อล่าเอาหนังหมาป่าไว้ วิธีทดสอบว่าผู้ใดเป็นมนุษย์หมาป่าหรือไม่นั้นสามารถจำแนกได้จากรูปลักษณ์ภายนอก ผู้ที่เป็นมนุษย์หมาป่านั้นจะมีขนระหว่างคิ้วหนาและยาวจนเกือบจรดกันตรงระหว่างคิ้ว ใบหูเล็กและปลายเรียวแหลม นิ้วกลางทั้งสองข้างมักสั้นเกือบเท่านิ้วชี้ และที่สำคัญคือ มีขนที่ฝ่ามือด้วย
ว่ากันว่า มนุษย์หมาป่ามีพละกำลังและประสาทสัมผัมเป็นเลิศผิดทั้งมนุษย์และสุนัขป่าทั้งปวง และมนุษย์หมาป่านั้น จำเดิมมักปรากฏในปรัมปราของยุโรป ต่อมาจึงแพร่หลายทั่วไป ส่วนการเปลี่ยนร่างจากมนุษย์เป็นสัตว์เดรัจฉาน ปรากฏในคติชนทั่วไปทั่วโลกอยู่แล้ว และเป็นที่โดดเด่นมากในคติ[[ชนพื้นเมืองอเมริกัน]] ปัจจุบัน มนุษย์หมาป่าเป็นหัวเรื่องยอดนิยมในนวนิยาย ภาพยนตร์ และสื่อบันเทิงต่าง ๆ โดยมีเค้าโครงแตกต่างจากคติโบราณเป็นอันมาก เฉพาะอย่างยิ่ง ในเรื่องสรรพคุณของ[[กระสุน]][[เงิน (โลหะ)|เงิน]]ในการพิชิตมนุษย์หมาป่าซึ่งโบราณไม่มี และการนำเสนอมนุษย์หมาป่าให้มีภาพลักษณ์ดุร้ายยิ่งขึ้น
 
มนุษย์หมาป่า จะกลับร่างกลายเป็นมนุษย์ธรรมดาเมื่อได้รับบาดเจ็บ ซึ่งนักล่าแวมไพร์สามารถที่จะตามรอยเลือดได้ วิธีการฆ่ามนุษย์หมาป่า คือ การยิงด้วยลูกปืนหรือแทงด้วยใบมีดที่ทำมาจาก[[เงิน (โลหะ)|เงิน]] และจะต้องเป็นเงินที่หลอมมาจาก[[กางเขน]]เงินด้วย ศพของมนุษย์หมาป่าควรนำไปเผาดีกว่าฝัง เพราะนำไปฝังอาจทำให้มนุษย์หมาป่าฝืนกลับคืนร่างมาเป็นแวมไพร์หรือมนุษย์หมาป่าได้อีกครั้ง
มนุษย์มักพยายามแยกตัวเองออกจากสิ่งมีชีวิตชนิดอื่น อะไรก็ตามที่ทำให้ขอบเขตระหว่าง มนุษย์กับสัตว์เลือนรางมักเป็นสิ่งที่น่ากลัวและสับสนเลื่อนลอย ความไม่แน่ชัดในขอบเขตของคนและสัตว์มีให้เห็น ดังเช่นในเรื่องของสิ่งมีชีวิตที่เป็นทั้งคนและสัตว์ มันสามารถกลายร่างไปเป็นอย่างใดอย่างหนึ่งได้
โดยอาศัยอำนาจของปิศาจสิ่งมีชีวิตที่ว่านี้มักมีลักษณะความชั่วร้ายของทั้งสองฝ่ายมารวมกัน เชื่อกันว่า แม่มดสามารถแปลงร่างเป็นสัตว์ได้ อย่างเช่น หมี หรือหมาป่า เสียงหมาหอนเป็นสัญลักษณ์ของภาพยนตร์สยองขวัญทำให้เราขนลุกได้ทุกครั้งที่ได้ยินเสียงมันจะเห็นว่าเป็นอิทธิพลของภาพยนตร์อีกเหมือนกันที่มีส่วนช่วยสร้างภาพลักษณ์ที่น่ากลัวของสัตว์ชนิดนี้
แม้จะมีการทำสารคดีถ่ายทอดชีวิตความเป็นอยู่ของหมาป่าที่แท้จริงว่า มันไม่ได้มีความลึกลับที่ทำให้น่ากลัวแต่อย่างใด สารคดีช่วยนำเสนอธรรมชาติของหมาป่าที่รักสงบ ล่าเพื่อเป็นอาหารเท่านั้น และมีลักษณะเป็นสัตว์สังคม
 
เชื่อกันว่า ผู้ที่กลายร่างเป็นมนุษย์หมาป่าเป็นเพราะถูกสาปหรือเกิดจากอุบัติเหตุที่น่าสยดสยอง บุคคลนั้นต้องกลายร่างเป็นมนุษย์หมาป่าทุกค่ำคืน หรือในทุก[[จันทร์เพ็ญ|วันพระจันทร์เต็มดวง]]อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ วิธีเดียวที่จะหยุดการกลายร่างเป็นมนุษย์หมาป่าได้ คือ ความตายเท่านั้น
 
ความเชื่อเรื่องมนุษย์หมาป่ามีอยู่ทั่วโลก มีอาการป่วยทางประสาทประเภทหนึ่งที่หาได้ยาก เรียกว่า "Lycanthrophy" (/ไล-เคน-โทร-ฟี่/) ซึ่งเป็นอาการที่เป็นที่รู้จักกันมานานตั้งแต่สมัยโบราณ เป็นอาการที่ผู้ป่วยมักคิดว่าตนเองสามารถกลายร่างเป็นหมาป่าได้ ทั้งที่ไม่สามารถทำได้ แต่ก็มีกิริยาอาการแบบเดียวกับหมาป่า เที่ยวฆ่าผู้อื่นและกินเนื้อที่เหยื่อที่ตนฆ่าทิ้ง
สารคดีอาจทำให้มุมมองเปลี่ยนไปบ้าง แต่ก็ไม่อาจลบภาพความลึกลับที่หมาป่า อาจกลายร่างเป็นสิ่งมีชีวิตครึ่งมนุษย์และออกทำร้ายผู้คนไปได้หมดสิ้น ถิ่นใดที่มีหมาป่า ก็มักจะเชื่อว่า ต้องมี มนุษย์หมาป่า อยู่อย่างแน่นอน
คำว่า มนุษย์หมาป่า มาจากคำภาษาอังกฤษว่า werewolf เราคงจะพอคุ้นกับคำนี้ เพราะเมื่อไม่นานมานี้ก็มีภาพยนตร์เรื่องหนึ่งที่เกี่ยวกับมนุษย์หมาป่า ชื่อว่า The American Werewolves in Paris แม้จะเป็น ภาพยนตร์แนวตลกแต่ก็มีพื้นฐานมาจากความเชื่อจริง ๆ were เป็นคำอังกฤษดั้งเดิมแปลว่ามนุษย์ และ wolf ก็แปลว่า หมาป่า รวมกันแล้วเป็น มนุษย์หมาป่า
ส่วนในท้องถิ่นอื่นที่ไม่มี หมาป่าก็จะมีมนุษย์กึ่งสัตว์ที่มีในท้องถิ่น เช่น มนุษย์สิงโตในแอฟริกา มนุษย์เสือดำในอเมริกาใต้ และมนุษย์เสือ หรือเสือสมิงในอินเดียในไทยก็มีเรื่องราวเล่าขานเกี่ยวกับ เสือสมิง เช่นกัน สอบถามได้จากนายพราน หรือพนักงานป่าไม้ ที่คลุกคลีใกล้ชิดกับป่าและสัตว์ ธรรมชาติมักมีสิ่งที่น่าพิศวงแอบแฝงอยู่เสมอ เชื่อกันว่า พระจันทร์เต็มดวงมีอิทธิพลกับการเป็นมนุษย์หมาป่ามากคนธรรมดาไม่ควรอยู่นอกบ้านในคืนพระจันทร์เต็มดวงเพราะอาจมีอันตรายจาก มนุษย์หมาป่าได้ มนุษย์หมาป่าถ่ายทอดได้จากการดื่มน้ำจากแก้วเดียวกับแก้วที่มนุษย์หมา
 
นอกจากนี้แล้ว การกลายร่างเป็นมนุษย์หมาป่ายังเกิดจากผู้ที่ต้องการจะกลายร่างเพื่อความแข็งแกร่งและอยู่ยงคงกระพัน ตามความเชื่อของรัสเซีย เชื่อว่า การที่จะกลายร่างเป็นหมาป่าได้นั้นต้องกระโดดข้ามต้นไม้ใหญ่ที่ล้มอยู่ในป่า แล้วเอามีดทองแดงเล่มเล็ก ๆ แทงต้นไม้แล้วท่องคาถา แล้วดื่มน้ำจากรอยเท้าบนดินของหมาป่า และกินสมองของสัตว์ที่ถูกหมาป่าฆ่าตาย หากทำดังนี้แล้วจะกลายร่างเป็นหมาป่าได้ และยังมีอีกวิธีการหนึ่ง คือ ในเวลาเที่ยงคืนของคืนวันพระจันทร์เต็มดวง ให้ปรุงน้ำมันชนิดหนึ่งขึ้นมาที่ทำมาจากต้นไม้ชนิดหนึ่งที่เรียกว่า หนังหมาป่า และต้นถุงมือหมาจิ้งจอก ฝิ่น ผสมกับเลือดค้างคาวและไขมันของเด็กที่ถูกฆ่าตาย เอาของทั้งหมดนี้มาต้มรวมกันในหม้อ เมื่อผสมเข้ากันดีแล้วก็ให้ทาตามตัวแล้วเอาหนังหมาป่ามาคลุมร่าง พร้อมกับท่องคาถาขอให้เปลี่ยนร่างเป็นหมาป่า ซึ่งจะกลายเป็นหมาป่าเองโดยอัตโนมัติในทุก ๆ คืน และกลับคืนร่างเป็นมนุษย์ในเวลาเช้า คาถานี้จะถูกทำลายลงก็ต่อเมื่อบุคคลนั้นตายหรือถูกแทงเข้า 3 ครั้งที่หน้าผาก
 
นักรบนอร์ดิก หรือที่รู้จักกันดีในนามของ [[เบอร์เซอร์เกอร์]] เป็นพวกที่สร้างความเชื่อเรื่องมนุษย์หมาป่าให้น่ากลัวยิ่งขึ้ เนื่องจากนิยมไว้ผสมและหนวดเครายาวรุงรังเพื่อให้น่ากลัว ข่มขวัญศัตรู พวกชาวบ้านที่อยู่ห่างไกลเมื่อถูกชนกลุ่มนี้ทำร้าย มักจะเชื่อว่าพวกเบอร์เซอร์เกอร์สามารถกลายร่างเป็นกึ่งมนุษย์กึ่งสัตว์ร้าย อย่าง หมี หรือหมาป่าได้ ขณะทำการต่อสู้ ซึ่งในเทพปกรณัมของเบอร์เซอร์เกอร์บทหนึ่งเล่าว่า มี[[แม่มด]]ร่ายเวทมนตร์ไว้บนหนังหมาป่า 2 ผืน ใครที่ได้สวมหนังหมาป่านี้จะกลายร่างเป็นหมาป่าไปทั้งหมด 10 วัน มีนักรบ 2 คนไปพบหนังหมาป่า 2 ผืนนี้โดยบังเอิญในป่า จึงขโมยมาขณะที่เจ้าของยังหลับอยู่ ด้วยความรู้ไม่ถึงการณ์นักรบทั้ง 2 ก็นำหนังหมาป่านี้มาสวมดู แต่ไม่สามารถถอดออกได้ นักรบทั้ง 2 หอนโหยหวนและเข้าทำร้ายซึ่งกันและกัน และยังทำร้ายเจ้าของหนังหมาป่าด้วย เมื่อ 10 วันผ่านไป เมื่อทั้งคู่กลายร่างเป็นมนุษย์แล้วก็เอาหนังหมาป่าทั้ง 2 ผืนนี้ไปเผาไฟทำลายทิ้งเสีย
การเป็นมนุษย์หมาป่า นั้นเชื่อว่า ถ่ายทอดได้หลายทาง ทางหนึ่ง คือ การดื่มน้ำจากแก้วเดียวกับแก้วที่มนุษย์หมาป่าดื่ม บางครั้งคนธรรมดาก็โดนคำสาปให้เป็น มนุษย์หมาป่า เชื่อกันว่า มนุษย์หมาป่า ถ่ายทอดถึงลูกหลานได้ นักปราชญ์ชาว สวิส ชื่อ พาราเซลซุส เป็นการกลับมาของดวงวิญญาณของคนที่มีบาป และเคยทำความชั่วไว้ในขณะมีชีวิตอยู่
ลักษณะของคนที่เป็น มนุษย์หมาป่า สังเกตได้ คือ มีขนตามร่างกายมากผิดปกติ หรือมีลักษณะการเดินแปลก ๆ บางคนอยากเป็น มนุษย์หมาป่าและใช้เวทมนตร์คาถาที่มีเฉพาะให้กลายเป็นมนุษย์หมาป่าต้องประกอบพิธีกรรมเริ่มด้วยการเปลื้องผ้าร่ายมนต์ สวมใส่เข็มขัดและหน้ากากขนหมาป่า ไม่ว่าการกลายร่างเป็น มนุษย์หมาป่าจะเป็นไปโดยตั้งใจหรือไม่ มันก็จะเกิดขึ้นเฉพาะเวลากลางคืนในคืนพระจันทร์เต็มดวง เหยื่อที่ถูกล่ามีทั้งมนุษย์และสัตว์ โดยมากจะเป็นเพศหญิงที่ยังอยู่ในวัยแรกรุ่น
 
ในเทพปกรณัมของชาวไอริชเล่าว่า มีนักบวชผู้หนึ่งหลงทางอยู่ในป่า พบหมาป่านั่งอยู่ข้างกองไฟ หมาป่าตัวนี้สามารถพูดเป็นภาษามนุษย์ได้ หมาป่าได้ขอให้นักบวชอวยพรให้กับภรรยาของตนซึ่งกำลังใกล้จะตาย หมาป่าอธิบายว่า ครอบครัวขงตนถูกสาปให้ทั้งหญิงและชายอย่างละหนึ่งคน จะต้องกลายร่างเป็นหมาป่าทั้งหมด 7 ปี ถ้าว่าถ้าครบ 7 ปีแล้วยังมีชีวิตอยู่ก็จะกลายร่างเป็นมนุษย์ดังเดิม แต่นักบวชไม่เชื่อ จนกระทั่งมหาป่าตัวเมียจึงฉีกหนังหมาป่าออกเผยให้เห็นเป็นร่างของหญิงสาวที่อยู่ภายใน<ref>หน้า 32-37, ''มนุษย์หมาป่า''. "คืนสยองขวัญ ตำนาน..ผีดิบ โดย เจี๊ยบอังคาร. นิตยสาร มิติพิศวง ปีที่ 3 ฉบับที่ 28: สิงหาคม 2535 ISSN 0858-1533</ref>
 
เรื่องราวของมนุษย์หมาป่า ถูกอ้างอิงถึงในวัฒนธรรมร่วมสมัยหลากหลายประการเช่นเดียวกับแวมไพร์ เช่น ภาพยนตร์เรื่อง ''[[An American Werewolf in Paris]]'' เป็นต้น<ref>[http://www.imdb.com/title/tt0118604/trivia "An American Werewolf in Paris - Trivia"]. [[Internet Movie Database]].</ref>
ในคืนนั้นจะมีการล่าเกิดขึ้นเหยื่อที่ถูกล่ามีทั้งมนุษย์และสัตว์ โดยมากจะเป็นเพศหญิงที่ยังอยู่ในวัยแรกรุ่น เหยื่อถูกทำร้ายและถูกประทุษร้ายทางเพศด้วย มนุษย์หมาป่า ที่ถูกจับได้จะเปลี่ยนร่างเป็นมนุษย์เมื่อถูกฆ่าตายแล้ว แต่ถ้าการเป็น มนุษย์หมาป่า นั้นไม่ได้เต็มใจจะเป็นก็สามารถรักษาให้หายได้ โดยการเสียเลือด 3 หยดหรือถูกเรียกชื่อจริงในขณะที่ยังเป็น หมาป่า อยู่ เชื่อว่าไม้บางชนิดสามารถป้องกัน มนุษย์หมาป่าได้ เช่น กิ่งมะกอก แต่โดยส่วนใหญ่แล้วไม่มีอะไรหยุดพวกมันได้ ปี โทษคือ ประหาร โดยการเผา
 
 
ที่[[ประเทศฝรั่งเศส]] ชีลส์ การ์นิเยร์ (Gilles Farnier) ถูกกล่าวหาว่าเป็นมนุษย์หมาป่าที่จู่โจมทำร้ายผู้คน มีพยานเห็นเขาทำร้ายผู้คนขณะอยู่ในร่าง มนุษย์หมาป่า ลีลส์ ถูกจับและถูกทรมานจนยอมรับสารภาพในที่สุดว่า เขาเป็นมนุษย์หมาป่า เขาสารภาพรายละเอียดการทำร้ายและกล่าวว่าเขาได้กินเนื้อของเหยื่อด้วย โทษของเขา คือ ประหาร โดยการเผา การล่าหมาป่า อาจเป็นไปได้ว่า มนุษย์หมาป่า เป็นตัวแทนของพฤติกรรมแฝงด้านมืดที่มีอยู่ในมนุษย์ทุกคน ใทำให้จำนวนของหมาป่าลดลงและเรื่องของ มนุษย์หมาป่า ก็เลยน้อยลงตามไปด้วย มีการพยายามที่จะอธิบายและหาสาเหตุของความเชื่อเรื่องมนุษย์หมาป่าแต่ก็มีเพียงสมมุติฐานเท่านั้น หาข้อเท็จจริงไม่ได้ มีการสันนิษฐานว่า สภาพมนุษย์หมาป่า อาจเป็นอาการป่วยทางจิตที่บางคนคิดว่า ตนเป็นมนุษย์หมาป่า และพยายามปฏิบัติตัวว่าเป็นจริง ไม่ว่าข้อสันนิษฐานจะเป็นอย่างไรก็ไม่มีใครหาข้อพิสูจน์ได้ว่า เหตุใดมนุษย์จึงเชื่องมงายเกี่ยวกับ มนุษย์หมาป่า ไม่มีที่สิ้นสุด อาจเป็นไปได้ว่า มนุษย์หมาป่า เป็นตัวแทนของพฤติกรรมแฝงด้านมืดที่มีอยู่ในมนุษย์ทุกคน
 
== อ้างอิง ==
{{รายการอ้างอิง}}
{{เริ่มอ้างอิง}}
* [http://www.thairath.co.th/column/life/sundayspecial/63427 มนุษย์หมาป่า จาก[[เว็บไซต์]][[ไทยรัฐ]] : [[7 กุมภาพันธ์]] [[พ.ศ. 2553]]]
{{จบอ้างอิง}}
 
== แหล่งข้อมูลอื่น ==
{{วิกิพจนานุกรม}}
{{คอมมอนส์-หมวดหมู่|Werewolves|มนุษย์หมาป่า}}
* [http://www.primitivism.com/hellhounds.htm Arby Stones, "Hellhounds, Werewolves and the Germanic Underworld"]
* [http://books.google.ca/books?id=MrAz3l7VrqMC&lpg=PT7&dq=sabine%20baring-gould%20the%20book%20of%20werewolves&pg=PP1#v=onepage&q=&f=true ''The Book of Were-Wolves'', by Sabine Baring-Gould, 1865] (Google online books)
เส้น 41 ⟶ 35:
* [http://www.fairytalechannel.org/2009_06_21_archive.html A Translation of Grimm's Saga No. 213 The Werewolf]
* [http://www.fairytalechannel.org/2009_06_24_archive.html A Translation of Grimm's Saga No. 215 The Werewolf Stone]
* [http://www.thairath.co.th/column/life/sundayspecial/63427 มนุษย์หมาป่า จาก[[เว็บไซต์]][[ไทยรัฐ]] : [[7 กุมภาพันธ์]] [[พ.ศ. 2553]]]
 
[[หมวดหมู่:ตำนานผีดูดเลือด]]