ผลต่างระหว่างรุ่นของ "อาหารแมว"

เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
Ek nonae (คุย | ส่วนร่วม)
Ek nonae (คุย | ส่วนร่วม)
บรรทัด 28:
มีอยู่หลายชนิดด้วยกัน ช่วยในการสร้างกระดูก [[ฟัน]] และ[[เลือด]] ช่วยควบคุมการทำงานของอวัยวะต่าง ๆ อาหารแต่ละอย่างก็ให้แร่ธาตุแต่ละชนิดมากน้อยต่างกัน แร่ธาตุที่สำคัญ คือ แคลเซียมและฟอสฟอรัส เป็นแร่ธาตุที่ช่วยเสริมให้กระดูกแข็งแรง ถ้าขาดไปจะทำให้แมวเป็น[[โรคกระดูกอ่อน]]โค้งงอ
 
== ความต้องการสารอาหารของแมวในวัยต่าง ๆ ==
ในแต่ละช่วงอายุต่าง ๆ ของแมวมีความต้องการสารอาหารแตกต่าง ผู้เลี้ยงแมวจึงควรคำนึงถึงลักษณะอาหารที่เหมาะสมกับแมวในแต่ละช่วงอายุนั้น ๆ ด้วย
 
=== อาหารลูกแมว ===
ลูกแมวอายุต่ำกว่า 45 วันควรให้กินนมแม่ไปกว่าจะหย่านม ไม่ควรให้ลูกแมวหย่านมก่อนเพราะจะทำให้สุขภาพของแมวไม่สมบูรณ์ในภายหลังได้ ถ้าลูกแมวกำพร้าโดยเฉพาะอย่างยิ่งที่ยังไม่หย่านม ต้องให้การดูแลอย่างใกล้ชิด หากไม่สามารถนำไปกินนมแม่แมวตัวอื่นได้ ต้องชงนมให้กินแทนนมแม่ ซึ่งควรระวังเกี่ยวกับความสะอาดและคุณภาพของนมเป็นสิ่งสำคัญ เพราะอาจทำให้ลูกแมวเกิดติดเชื้อจากนมที่สกปรกนมบูด ทำให้ท้องร่วงถึงตายได้
นมที่ใช้เลี้ยงลูกแมวกำพร้าอาจใช้นมผงเลี้ยงทารก นมวัวสด หรือนมสดยู.เอช.ที ผสมน้ำและวิตามิน นำมาอุ่นอุณหภูมิประมาณ 98-100 องศาฟาเรนไฮท์ หรือ อังพออุ่นมือจับได้กรอกใส่ขวดยางป้อนลูกแมว
 
หลังจากหย่านมแล้ว นมก็ยังเป็นอาหารที่สำคัญและจำเป็นต่อลูกแมวอยู่จนกว่าอายุจะเลย 9 เดือนไปแล้ว อาหารอย่างอื่นจึงจะสำคัญและจำเป็นกว่า แต่ควรให้แมวกินนมวันละครั้งหรือเป็นครั้งคราวเท่านั้น และต้องคอยสังเกตว่าแมวมีอาการท้องร่วงท้องเสียจากการกินนมหรือไม่ ถ้ามีควรงด
 
ลูกแมวอายุประมาณ 3 เดือนควรตั้งต้นให้กินอาหารเนื้อได้แล้ว แต่ควรเป็นเนื้อที่สับละเอียดและให้เพียงเล็กน้อย ลูกแมวอายุ 5 ถึง 7 อาทิตย์ควรจัดให้กินวันละ 4 มื้อ พออายุ 7 ถึง 12 อาทิตย์ให้ลดลงเหลือ 3 มื้อ
 
=== อาหารแมวโต ===
ลูกแมวที่กำลังโตหรือหย่านมแล้วผู้เลี้ยงสามารถจัดอาหารให้กินน้อยลงได้ คือให้วันละ 3 มื้อ และเมื่อโตเต็มที่อาจลดจำนวนอาหารเหลือเพียง 2 มื้อ คือเช้าและเย็นก็พอ ที่สำคัญคือควรฝึกให้แมวกินอาหารเป็นเวลา ไม่ควรทิ้งอาหารไว้ในจานให้แมวกินตลอดทั้งวัน เพราะเป็นการเสียนิสัย อาหารอาจมีแมลงวันตอมนำเชื้อโรคมาให้ หรืออาจบูดเสียส่งผลให้แมวท้องร่วงได้
 
=== อาหารแมวตั้งครรภ์ ===
อาหารที่ใช้เลี้ยงแมวกำลังตั้งครรภ์จะต้องมีคุณภาพสูง ประกอบด้วยโปรตีนในปริมาณมาก แต่ไขมันน้อย ขนาดและปริมาณที่ใช้ในระยะครรภ์ 5 ถึง 6 อาทิตย์แรกนั้นเท่ากับขนาดและปริมาณใช้เลี้ยงดูแมวโตเต็มวัยประจำวัน แต่จะเพิ่มปริมาณอาหารให้มากขึ้นตามน้ำหนักตัวแมวในระยะครรภ์ 3 อาทิตย์สุดท้ายก่อนคลอด โดยจะเพิ่มอาหารให้ปริมาณ 10 ถึง 20 เปอร์เซ็นต์ ก่อนคลอด 1 ถึง 2 วัน แม่แมวบางตัวมักไม่ค่อยกินอาหารหรือไม่กินเลยเพราะมัวตั้งหน้าตั้งตาหาสถานที่หรือกังวลอยู่กับสถานที่คลอด โดยเฉพาะอย่างยิ่งแม่แมวสาวท้องแรกซึ่งถือเป็นเรื่องปกติ หลังคลอดลูกแมวแล้วก็จะกลับมากินอาหารตามเดิม ข้อพึงระวังคืออย่าให้อาหารแมวจนแมวอ้วนเกินไปทำให้คลอดลูกแมวลำบาก หรือควบคุมอาหารเสียจนแมวผอมไปไม่มีแรงในการคลอด หลังจากคลอดลูกแมวแล้ว อาหารที่ใช้เลี้ยงแม่แมวในช่วงนี้ไม่ได้ให้เฉพาะแต่แม่เท่านั้น เพราะแม่แมวต้องถ่ายทอดสารอาหารไปยังลูกแมวทางน้ำนมด้วย ฉะนั้นปริมาณอาหารที่แม่แมวกินจะต้องมีปริมาณเพียงพอเหมือนช่วงตั้งครรภ์
 
=== อาหารแมวแก่ ===
แมวแก่หรือแมวสูงอายุ เป็นช่วงที่ร่างกายต้องการพลังงานน้อยลง จึงควรให้อาหารน้อยลง โดยหลักการแล้วอาหารสำหรับแมวแก่ต้องมีลักษณะย่อยง่าย เช่น เนื้อที่ไม่มีผังผืด อาหารที่ไม่มีไขมันหรือน้ำตาลที่จะทำให้อ้วน พวกแป้ง วิตามิน รวมทั้งแร่ธาตุต่าง ๆ เพื่อบำรุงร่างกายปริมาณที่ให้ก็ไม่ควรมากเกินไป เพราะแมววัยนี้แล้วไม่กระฉับกระเฉง การวิ่งเล่นออกกำลังกายย่อมน้อยลงตามอายุ ระบบย่อยอาหารและขับถ่ายเริ่มย่อนประสิทธิภาพ ฉะนั้นอาหารที่กินเข้าไปมาก ๆ นอกจากจะไม่ก่อให้เกิดประโยชน์แล้วยังทำให้เกิดโทษ เช่น แน่นท้องและท้องอืดได้
 
== ชนิดของอาหารแมว ==