ผลต่างระหว่างรุ่นของ "การเล่นกีฬาของพระบาทสมเด็จพระมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร"
เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
ไม่มีความย่อการแก้ไข |
ไม่มีความย่อการแก้ไข |
||
บรรทัด 6:
== เรือใบ ==
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงสนพระราชหฤทัยในกีฬาเรือใบเป็นพิเศษ เนื่องจากพระองค์ท่านโปรดปรานการช่างอยู่แต่เดิมแล้ว เรือใบของพระองค์จะทรงต่อด้วยพระองค์เอง และจะทรงทดลองแล่นในสระน้ำภายใน[[พระตำหนักจิตรลดารโหฐาน]] เรือใบฝีพระหัตถ์ลำแรกที่ทรงต่อด้วยพระองค์เองเป็นเรือใบพระที่นั่งเอ็นเตอร์ไพรส์ โดยพระราชทานชื่อเรือว่า "ราชปะแตน" และต่อมาทรงต่อเรือใบประเภท โอ เค ขึ้นอีก พระราชทานชื่อว่า "นวฤกษ์" ซึ่งเรือนวฤกษ์นี้เอง ทรงนำมาใช้ในการแข่งขันกีฬาเรือใบในกีฬาแหลมทอง ครั้งที่
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ยังทรงต่อเรือขึ้นมาอีกลำหนึ่งเป็นเรือใบประเภท โอ เค พระราชทานชื่อเรือว่า "VEGA" หรือ [[เวกา (ดาวฤกษ์)|เวคา]] (ชื่อ[[ดาวฤกษ์]]ดวงหนึ่งที่สุกสว่างมาก) ทรงใช้เรือลำนี้เสด็จฯ ข้าม[[อ่าวไทย]]จาก[[พระราชวังไกลกังวล]][[หัวหิน]] ไปขึ้นฝั่งที่หาดเตยงามใน[[นาวิกโยธินแห่งราชอาณาจักรไทย|หน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน]]ด้วยลำพังพระองค์เอง เมื่อวันที่ [[19 เมษายน]] [[พ.ศ. 2509]] ซึ่งในการต่อมาทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานหางเสือเรือเวคา เพื่อเป็นรางวัลนิรันดรในการแข่งขันเรือใบระยะทางไกลของประเทศไทย นอกจากนี้ยังทรงก่อตั้งสโมสรเรือใบส่วนพระองค์ขึ้นคือสโมสรเรือใบจิตรลดา ทั้งยังมีพระมหากรุณาธิคุณรับสโมสรเรือใบต่าง ๆ มาไว้ในพระบรมราชูปถัมภ์เช่น สโมสรเรือใบราชวรุณ สโมสรเรือใบ[[กรมอู่ทหารเรือ]] สโมสรเรือใบ[[ฐานทัพเรือสัตหีบ]] สโมสรเรือใบนาวิกโยธิน และสโมสรเรือใบ[[กองเรือยุทธการ]] เป็นต้น
ด้วยเหตุที่โปรดการต่อเรือใบประเภทต่าง ๆ ดังกล่าว [[หม่อมเจ้าภีศเดช รัชนี]] ได้ทรงเล่าถึงพระราชดำรัสขององค์ท่านในหนังสือ อสท. เรื่องทรงเรือใบ ฉบับวันที่ [[5 ธันวาคม]] [[พ.ศ. 2534]] ไว้ว่า "ปีใหม่คนอื่น ๆ เขาไปฉลองกัน เสียเงินมาก แต่เราเสีย
จากพระราชดำรัสที่กล่าวข้างต้นจะเห็นได้ว่าพระองค์ท่านทรงให้ความสนพระทัยในการกีฬาเรือใบนี้ด้วยพระราชหฤทัยอย่างแท้จริง จึงได้ทรงต่อเรือใบด้วยพระหัตถ์ของพระองค์เอง ซึ่งมีเพียงแต่พระองค์ท่านที่เป็นพระประมุขของชาติไทยพระองค์เดียวในโลกนี้เท่านั้นที่มีพระปรีชาสามารถในด้านเรือใบ
บรรทัด 16:
นอกจากนี้แล้ว ในพิธีเปิดการแข่งขัน[[ฟุตบอลโลก 2006|ฟุตบอลโลกครั้งที่ 18]] ที่[[ประเทศเยอรมนี]] ซึ่งตรงกับ[[งานฉลองสิริราชสมบัติครบ ๖๐ ปี พุทธศักราช ๒๕๔๙|พระราชพิธีฉลองสิริราชสมบัติครบ 60 ปี]] นาย[[ฟรานซ์ เบคเคนบาวร์]] (Franz Beckenbauer) ประธานจัดการแข่งขันได้กล่าวสดุดีพระเกียรติยศในด้านการกีฬาของพระองค์ท่านด้วย
ด้วยพระราชกรณียกิจที่ทรงพระปรีชาสามารถทางการกีฬาจนเป็นที่เลื่องลือ และได้มีการจารึกไว้ในประวัติศาสตร์วงการกีฬาอันเป็นที่ประจักษ์แก่ชาวโลก [[คณะกรรมการโอลิมปิกสากล]]จึงได้มีมติเป็นเอกฉันท์ และได้ขอพระราชทานทูลเกล้าฯ ถวายเหรียญทองดุษฏีกิตติมศักดิ์ของ โอลิมปิก คือ "อิสริยาภรณ์โอลิมปิกสูงสุด (ทอง)
== ทรงร่วมแข่งขันกีฬาแหลมทอง ==
บรรทัด 23:
และทรงชนะเลิศการแข่งขันเมื่อวันที่ 16 ธันวาคม โดยทรงขึ้นรับเหรียญทองบนแท่นเหมือนนักกีฬาทั่วไป ในพิธีปิด ณ [[สนามศุภชลาศัย]] ซึ่งจากเหตุการณ์นี้ ต่อมา[[คณะรัฐมนตรี]]มีมติเห็นชอบกำหนดให้วันที่ 16 ธันวาคม ของทุกปี เป็น[[วันกีฬาแห่งชาติ]]
นอกจากนี้แล้วยังทรงรับการแข่งขันกีฬา[[เอเชียนเกมส์ 1966|เอเชียนเกมส์ครั้งที่ 5]], [[เอเชียนเกมส์ 1970|6]] และ [[เอเชียนเกมส์ 1978|8]] รวมทั้ง[[กีฬาแหลมทอง 1967|กีฬาแหลมทองครั้งที่ 4]], [[กีฬาแหลมทอง 1975|8]] และ [[
=== แบดมินตัน ===
กีฬาแบดมินตันเป็นกีฬาอีกประเภทหนึ่ง ที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวโปรดปรานมาก เมื่อครั้งที่พระราชภารกิจยังไม่มากมายเหมือนเช่นปัจจุบันนี้ พระองค์ทรงนิยมเล่นหลายประเภท ทั้งประเภทคู่ และประเภทสามคน ในช่วงเวลานั้น กีฬาแบดมินตันของประเทศ ไทยยังไม่เป็นที่แพร่หลาย แต่ด้วยสายพระเนตรอันยาวไกลของ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มีรับสั่งกับผู้ใกล้ชิดว่า กีฬาแบดมินตันเป็นกีฬาหนึ่งในไม่กี่ประเภทที่[[คนไทย]]สามารถที่จะไต่เต้าไปสู่ระดับโลกได้ เพราะไม่เสียเปรียบ ทางด้านรูปร่าง และพละกำลังมากจนเกินไป มีรับสั่งถึงประเด็นนี้หลายครั้งและต่อมา ได้พระราชทานพระบรมราชูปถัมภ์ให้กับ[[สมาคมกีฬาแบดมินตันแห่งประเทศไทย]] เมื่อ [[พ.ศ.
ซึ่งในเรื่องพระจริยวัตรในกีฬาแบดมินตันตรงนี้ ในหนังสือของ [[ศาสตราจารย์]][[เจริญ วรรธนะสิน]] อดีตนักแบดมินตันทีมชาติไทย ความว่า
|