ผลต่างระหว่างรุ่นของ "เจ้าพระรามราชรามางกูรขุนโอกาส (ราม รามางกูร)"

เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
JBot (คุย | ส่วนร่วม)
ย้อนการแก้ไขที่อาจเป็นการทดลอง หรือก่อกวนด้วยบอต ไม่ควรย้อน? แจ้งที่นี่
บรรทัด 54:
 
“ .........พญาสุมิตธรรมจึงตรัสสั่งแก่พลเทวอำมาตย์ ให้ไปบอกกล่าวแก่คนทั้งหลายว่า บุคคลเหล่าใดยังพอใจในการพระราชศรัทธา เราจะให้รับราชการเป็นข้าอุปัฏฐากพระมหาธาตุเจ้า เราจะอภัยโทษให้เว้นเสียจากราชการบ้านเมือง และยังให้ที่ดินไร่นาไว้แก่เขาเหล่านั้น .........และให้เขาหาลูกเมีย ญาติพี่น้องวงศ์วานเข้ามาตั้งบ้าน'''สร้างเมือง'''อยู่ในที่นั้น......... ”<ref>พระธรรมราชานุวัตร (แก้ว อุทุมมาลา), ''อุรังคธาตุนิทาน : ตำนานพระธาตุพนม (พิศดาร)'', 110-111.</ref>
 
ในหนังสือนิทานขุนบรมราชาธิราช ได้กล่าวถึงชื่อเมืองแห่งนี้ ว่าเป็นเมืองสำคัญอันเป็นที่ประดิษฐานของพระบรมสารีริกธาตุ และเป็นเมืองสำคัญมานานแล้วก่อนที่หัวเมืองลาวอีสานสมัยก่อนรัตนโกสินทร์หลายเมืองจะถือกำเนิด ดังนี้
 
" .........ธาตุอันมาตกเมืองสุวรรณภูมิประเทศ ที่หลักหินเป็นเค้า เมื่อพระยาศรีธรรมาอโศกราช ให้พระอรหันตาเจ้าทั้งหลายเอาธาตุมาตกในเมืองอันนี้ที่ ๑ ว่าคู่พระนาง ที่นี่เป็นเค้า ที่ ๑ พระนารายณ์ ที่ ๑ พระสาด ที่ ๑ พระสะเขียน ที่ ๑ พระนาเทียน ๒ ที่นี้อยู่เมืองขวาง โลกะบาล '''ที่ ๑ ว่าพนม''' ที่ ๑ ว่าโพนผิงแดด อันที่ปากป่าสัก เจ้ารัสสีใส่อูบธาตุไม้จันทน์ไว้นั้น ธาตุพระเค้าทั้ง ๔ อยู่ในอูบแก้วทั้ง ๔ ลูก จึงอธิษฐานไว้หั่นแล ........."
 
ราวพุทธศักราช 2184 นายเกอร์ริต วอน วูลทอฟฟ์ ทูตการค้าชาวฮอลลันดาได้เดินทางตามลำน้ำโขงจากเมืองละแวกของกัมพูชา ไปเข้าเฝ้าสมเด็จพระเจ้าสุริยวงศาธรรมิกราชที่นครเวียงจันทน์ นายเกอร์ริต วอน วูลทอฟฟ์ ได้เดินทางผ่านบริเวณพระธาตุพนมและเมืองศรีโคตรบูรพร้อมได้บันทึกไว้ว่า