ผลต่างระหว่างรุ่นของ "อัชเชอร์"

เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
OctraBot (คุย | ส่วนร่วม)
แทนที่คำผ่านการค้นหา: 'อัลบัม'→'อัลบั้ม'
OctraBot (คุย | ส่วนร่วม)
แทนที่คำผ่านการค้นหา: 'ดาว์น'→'ดาวน์'
บรรทัด 50:
หลังจากห่างหายจากการออกอัลบั้มเพลงถึง 4 ปี อัชเชอร์กลับมาในปี พ.ศ. 2551 กับอัลบั้ม ''Here I Stand'' แต่โปรดิวเซอร์ของเขา Polow da Don แอบปล่อยซิงเกิ้ลแรก ‘Love In This Club’ มาก่อนซึ่งประสบความสำเร็จอย่างดีสามารถขึ้นอันดับ 1 บนชาร์ทบิลบอร์ด และเป็นเหตุให้ต้องเลื่อนออกอัลบั้มเร็วขึ้นมาเป็นช่วงกลางปีแทน มิวสิกวิดีโอแรก ‘Love In This Club’ กำกับโดย Brothers Strause (Red Hot chili Peppers, [[Linkin Park]], A Perfect Circle) ซึ่งเคยฝากผลงานไว้ในภาพยนตร์เรื่อง 300 ในส่วนของ animation ทั้งหมด และยังกำกับเพลง ‘Moving Mountains’ ซึ่งจะเป็นซิงเกิ้ลที่ 2 อีกด้วย<ref>[http://www.sonybmg.co.th/album/pop/viewans.asp?id=1319 Usher – Here I Stand] sonybmg.co.th</ref>
 
พ.ศ. 2553 อัชเชอร์ ทำอัลบั้มในระยะเวลาที่เร็วขึ้น เพียง 2 ปี เป็นสตูดิโออัลบั้มลำดับที่ 6 อัลบั้ม Raymond v. Raymond ได้ลำดับที่ 1 US ด้วยยอดขาย 329,000 ในสัปดาห์แรก และมียอดขาย 1.3 ล้านก๊อปปี้ในสหรัฐ (2 ล้านก๊อปปี้ทั่วโลก) ซึ่งมีเพลง Papers และ There Goes My Baby ที่ได้ลำดับที่ 1 US R&B/Hip-Hop Chart ตามด้วย Hey Daddy (Daddy's Home) และ Lil Freak ได้ Nicki Minaj มาแจมด้วย หลังจากนั้นมีซิงเกิ้ลที่ได้ลำดับที่ 1 US Chart นั้นคือ OMG หรือ Oh My God ได้ will.i.am จาก The Black Eyed Peas มาโปรดิวเซอร์และเขียนเพลง และมียอดดาว์นโหลดถึงดาวน์โหลดถึง 7 ล้านก๊อปปี้ทั่วโลก
หลังจากนั้น อัชเชอร์ได้ปล่อย EP ที่ชื่อว่า Versus ตามติดกัน หรือ Raymond v. Raymond (Deluxe edition) มีซิงเกิ้ลสุดเจ็งเอาใจสาวกแดนซ์อย่าง DJ Got Us Fallin' in Love ได้แร็ปเปอร์เชื้อสายลาตินอย่าง Pitbull มาแจม ได้โปรดิวเซอร์ป๊อปตลอดกาลอย่าง Max Martin (Backstreet Boys, Britney Spears, Pink และ Katy Perry) และประสบความสำเร็จในระดับหนึ่ง และตามด้วย Hot Tottie ได้ Jay-Z มาแจม และ Polow da Don มาโปรดิวเซอร์ แถมด้วย Ester Dean มาร่วมเขียนเพลงนี้ด้วย
และต่อด้วยซิ้งเกิ้ลพิเศษ นั้นคือ More ซึ่งความจริง RedOne โปรดิวแล้ว แต่ยังไม่สะใจพอ Jimmy Joker ขออาสารีมิกซ์เพลงนี้ และประสบความสำเร็จทั่วโลกในเวลาต่อมา