ผลต่างระหว่างรุ่นของ "ความไร้สัญชาติ"
เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
Tiemianwusi (คุย | ส่วนร่วม) ไม่มีความย่อการแก้ไข |
Tiemianwusi (คุย | ส่วนร่วม) ไม่มีความย่อการแก้ไข |
||
บรรทัด 7:
เหตุผลที่บุคคลไร้สัญชาตินั้นมีอยู่มากมายทั่วโลก<ref>{{cite web|title=Statelessness|url=http://www.fmreview.org/statelessness|work=Forced Migration Review|publisher=Refugee Studies Centre}}</ref> ปรกติแล้ว สัญชาติได้มาโดยหลักสองประการ คือ [[หลักดินแดน]] (jus soli) กับ[[หลักสืบสายโลหิต]] (jus sanguinis) หลักดินแดนระบุว่า บุคคลเกิดในดินแดนของรัฐใด ย่อมได้สัญชาติของรัฐนั้น ส่วนหลักสืบสายโลหิตว่า บิดามารดาถือสัญชาติใด บุคคลย่อมถือสัญชาติตามนั้นด้วย ปัจจุบัน รัฐส่วนใหญ่ใช้หลักทั้งสองนี้ควบคู่กัน และการขัดกันของกฎหมายสัญชาติก็เป็นสาเหตุหนึ่งของความไร้สัญชาติ เป็นต้นว่า แม้รัฐหลายรัฐจะเปิดให้บุคคลได้สัญชาติตามบุพการี ไม่ว่าบุคคลนั้นจะเกิดที่ใดก็ตาม แต่หลายรัฐก็ยังไม่ยอมรับให้บุคคลได้สัญชาติจากมารดาซึ่งถือสัญชาติของตน<ref>{{cite web|title=Remarks on Statelessness and Gender Discrimination|url=http://www.state.gov/g/176132.htm|publisher=US Department of State}}</ref> ความขัดข้องนี้ส่งผลให้เกิด[[อนุสัญญาว่าด้วยการขจัดการเลือกปฏิบัติต่อสตรีในทุกรูปแบบ]] (Convention on the Elimination of All Forms of Discrimination Against Women) ซึ่งห้ามเลือกปฏิบัติในการให้สัญชาติเพราะเหตุแห่งเพศ<ref>{{cite web|title=Convention on the Elimination of All Forms of Discrimination against Women (CEDAW)|url=http://www.un.org/womenwatch/daw/cedaw/cedaw.htm}}</ref>
อีกเหตุหนึ่งของความไร้สัญชาติ คือ [[การสืบทอดของรัฐ]] (state succession)<ref>{{cite web|title=International Observatory on Statelessness|url=http://www.nationalityforall.org/state-succession}}</ref> ประวัติศาสตร์สมัยใหม่ปรากฏว่า บุคคลกลายเป็นไร้สัญชาติ เพราะรัฐที่
อนึ่ง ยังมีกรณีที่บุคคลสละสัญชาติของตนเองโดยสมัครใจ จึงเป็นเหตุให้บุคคลนั้นไร้สัญชาติ เช่น [[แกรี เดวิส]] (Garry Davis) ที่เรียกตนเองว่า "พลเมืองโลก" (world citizen) แต่ปรกติแล้ว กฎหมายของรัฐส่วนใหญ่ในโลกนี้จะยอมให้ราษฎรของตนสละสัญชาติตนก็ต่อเมื่อได้สัญชาติใหม่แล้ว
|