ผลต่างระหว่างรุ่นของ "ปีเตอร์ รีด"

เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
ไม่มีความย่อการแก้ไข
บรรทัด 1:
{{ต้องการอ้างอิง}}
 
{{Football player infobox
| playername = ปีเตอร์ รีด
เส้น 28 ⟶ 27:
ปีเตอร์ รีด เกิดเมื่อวันที่ [[20 เมษายน]] [[ค.ศ. 1956]] ที่แขวงฮายตัน เมืองลิเวอร์พูล [[ประเทศอังกฤษ]] ขึ้นทะเบียนเป็นนักฟุตบอลอาชีพกับสโมสร[[สโมสรฟุตบอลโบลตัน วันเดอเรอร์ส|โบลตัน วันเดอเรอร์ส]]ในปี 1974 โดยได้รับเหรียญรางวัลครั้งแรกเมื่อสโมสรโบลตันคว้าแชมป์ ดิวิชั่น2ในปี 1978 และได้เลื่อนชั้นแต่ปีเตอร์ รีดได้เล่นในลีกสูงสุดกับสโมสรแค่ 2 ฤดูกาล ก่อนที่โบลตันจะตกชั้นในเวลาต่อมา
 
หลังจากนั้นเขาได้ย้ายไปร่วมทีม[[สโมสรฟุตบอลเอฟเวอร์ตัน|เอฟเวอร์ตัน]]ในปี 1982 ภายใต้การคุมทีมของโฮเวิร์ด เคนดัลล์ ด้วยค่าตัว 6 แสนปอนด์และประสบความสำเร็จกับสโมสรใหม่อย่างมากเมื่อเป็นส่วนหนึ่งของทีมชุดที่ได้แชมป์เอฟเอคัพและแชมป์[[ยูฟ่า คัพ วินเนอร์สคัพ]]ในปี 1985 ก่อนจะพาสโมสรได้แชมป์ลีกสูงสุดในปี 1987
 
[[ไฟล์:Peter_reid_everton.jpg|left|thumb|ปีเตอร์ รีดในชุดเอฟเวอร์ตัน]]
 
ในช่วงที่ประสบความสำเร็จนั้น รีดได้ชื่อว่าเป็นมิดฟิลด์ที่มากความสามารถและได้รับการยอมรับในยุโรป โดยได้รับเลือกให้เป็น[[นักฟุตบอลยอดเยี่ยมของพีเอฟเอ]]ในปี 1985 และทำสถิติลงสนามให้[[สโมสรฟุตบอลเอฟเวอร์ตัน|เอฟเวอร์ตัน]]ถึง 159 นัด ซึ่งภายหลังในปี 2003 รีด ได้รับการโหวตจากแฟนของสโมสรให้ติดอยู่ในทีม Greatest Everton XI และ รางวัล Everton Giants ในปี 2006 อีกด้วย
 
ในทีมชาติอังกฤษ ปีเตอร์ รีดลงสนามให้ทีมชาติชุดใหญ่ทั้งสิ้น 13นัด เป็นส่วนหนึ่งของทีมชาติอังกฤษชุดฟุตบอลโลก ปี 1986 ที่เม็กซิโกและเป็นหนึ่งในผู้เล่นที่อยู่ในเกมส์ที่อังกฤษแพ้อาร์เจนติน่าจากลูกยิงของดีเอโก้ มาราโดน่า
 
หลังจากออกจากสโมสร[[สโมสรฟุตบอลเอฟเวอร์ตัน|เอฟเวอร์ตัน]]เขาได้ย้ายไปสู่สโมสรควีนส์ปาร์ค เรนเจอร์สและเล่นอยู่หนึ่งฤดูกาลก็ย้ายไปเล่นให้[[สโมสรฟุตบอลแมนเชสเตอร์ ซิตี้|แมนเชสเตอร์ ซิตี้]]ภายใต้การคุมทีมของโฮเวิร์ด เคนดัลล์ เจ้านายเก่าสมัยเล่นให้[[สโมสรฟุตบอลเอฟเวอร์ตัน|เอฟเวอร์ตัน]]
 
== อาชีพผู้จัดการทีม ==
ปีเตอร์ รีด เริ่มงานผู้จัดการทีมครั้งแรกเมื่อรับตำแหน่งผู้เล่น-ผู้จัดการทีม[[สโมสรฟุตบอลแมนเชสเตอร์ ซิตี้|แมนเชสเตอร์ ซิตี้]]ในปี 1990 โดยรับงานต่อจากโฮเวิร์ด เคนดัลล์ ที่ลาออกไป และนำทีมจบอันดับที่5ในลีกโดยอันดับสูงกว่า[[สโมสรฟุตบอลแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด|แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด]] ฤดูกาล 1992-1993พรีเมียร์ พรีเมียร์ลีกเริ่มต้นเป็นฤดูกาลแรกหลังจากเปลี่ยนชื่อมาจากดิวิชั่น 1 ปีเตอร์ รีด พา[[สโมสรฟุตบอลแมนเชสเตอร์ ซิตี้|แมนเชสเตอร์ ซิตี้]]จบฤดูกาลด้วยอันดับ 9ด้วยสไตล์การเล่นบอลโยนยาวอันเป็นเอกลักษณ์ แต่หลังจากนั้นเขาก็ถูกปลดออกจากตำแหน่งเมื่อทีมมีผลงานตกต่ำลง
 
ต่อมาปีเตอร์รีดย้ายมาเล่นให้สโมสรเซาธ์แฮมป์ตันในช่วงสั้นๆภายใต้การคุมทีมของเอียน แบรนฟุตโดยลงเล่นแค่ 7 นัด และย้ายไปเล่นให้กับ[[สโมสรน็อตต์ส เคาน์ตี้]]และ[[สโมสรฟุตบอลบิวรี่|สโมสรบิวรี่]]ก่อนจะเลิกเล่นฟุตบอลอย่างเป็นทางการ
ปีเตอร์ รีด เริ่มงานผู้จัดการทีมครั้งแรกเมื่อรับตำแหน่งผู้เล่น-ผู้จัดการทีม[[สโมสรฟุตบอลแมนเชสเตอร์ ซิตี้|แมนเชสเตอร์ ซิตี้]]ในปี1990 โดยรับงานต่อจากโฮเวิร์ด เคนดัลล์ ที่ลาออกไป และนำทีมจบอันดับที่5ในลีกโดยอันดับสูงกว่า[[สโมสรฟุตบอลแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด|แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด]] ฤดูกาล1992-1993พรีเมียร์ ลีกเริ่มต้นเป็นฤดูกาลแรกหลังจากเปลี่ยนชื่อมาจากดิวิชั่น 1 ปีเตอร์ รีด พา[[สโมสรฟุตบอลแมนเชสเตอร์ ซิตี้|แมนเชสเตอร์ ซิตี้]]จบฤดูกาลด้วยอันดับ 9ด้วยสไตล์การเล่นบอลโยนยาวอันเป็นเอกลักษณ์ แต่หลังจากนั้นเขาก็ถูกปลดออกจากตำแหน่งเมื่อทีมมีผลงานตกต่ำลง
 
รีดเริ่มต้นงานผู้จัดการทีมแบบเต็มตัวในฤดูกาล 1995-1996 เมื่อได้รับแต่งตั้งให้เป็นผู้จัดการทีม[[สโมสรฟุตบอลซันเดอร์แลนด์|ซันเดอร์แลนด์]]ในดิวิชั่น1(ปัจจุบันคือ ลีกแชมเปี้ยน ชิพ)ซึ่งเป็นทีมที่ต้องดิ้นรนหนีการตกชั้นแต่ปีเตอร์ รีดกลับพาทีมได้แชมป์และคว้าสิทธิ์เลื่อนชั้นขึ้นไปเล่น[[เอฟเอ พรีเมียร์ลีก|พรีเมียร์ ลีก]]แบบพลิกความคาดหมายทำให้เขาเป็นที่ชื่นชอบของแฟนบอล[[สโมสรฟุตบอลซันเดอร์แลนด์|ซันเดอร์แลนด์]]อย่างมาก แม้จะเลื่อนชั้นขึ้นมาปีเดียวแล้วสโมสรตกชั้นก็ตาม
ต่อมาปีเตอร์รีดย้ายมาเล่นให้สโมสรเซาธ์แฮมป์ตันในช่วงสั้นๆภายใต้การคุมทีมของเอียน แบรนฟุตโดยลงเล่นแค่7นัด และย้ายไปเล่นให้กับ[[สโมสรน็อตต์ส เคาน์ตี้]]และ[[สโมสรฟุตบอลบิวรี่|สโมสรบิวรี่]]ก่อนจะเลิกเล่นฟุตบอลอย่างเป็นทางการ
 
ฤดูกาลต่อมาในดิวิชั่น1[[สโมสรฟุตบอลซันเดอร์แลนด์|ซันเดอร์แลนด์]]พลาดโอกาสเลื่อนชั้นกลับไปเล่น[[เอฟเอ พรีเมียร์ลีก|พรีเมียร์ ลีก]]อย่างน่าเสียดายเมื่อแพ้การดวลจุดโทษในรอบเพล์-ออฟแก่ชาร์ลตัน แอธเลติกหลังจากเสมอกันในเวลา 4-4 อย่างไรก็ตามปีเตอร์ รีดพาทีมเลื่อนชั้นกลับไป[[เอฟเอ พรีเมียร์ลีก|พรีเมียร์ ลีก]]สำเร็จเมื่อคว้าแชมป์ดิวิชั่น 1 ได้อีกครั้งในฤดูกาล 1998-1999 พร้อมทำสถิติใหม่เมื่อได้แต้มถึง 105 คะแนน
รีดเริ่มต้นงานผู้จัดการทีมแบบเต็มตัวในฤดูกาล1995-1996เมื่อได้รับแต่งตั้งให้เป็นผู้จัดการทีม[[สโมสรฟุตบอลซันเดอร์แลนด์|ซันเดอร์แลนด์]]ในดิวิชั่น1(ปัจจุบันคือ ลีกแชมเปี้ยน ชิพ)ซึ่งเป็นทีมที่ต้องดิ้นรนหนีการตกชั้นแต่ปีเตอร์ รีดกลับพาทีมได้แชมป์และคว้าสิทธิ์เลื่อนชั้นขึ้นไปเล่น[[เอฟเอ พรีเมียร์ลีก|พรีเมียร์ ลีก]]แบบพลิกความคาดหมายทำให้เขาเป็นที่ชื่นชอบของแฟนบอล[[สโมสรฟุตบอลซันเดอร์แลนด์|ซันเดอร์แลนด์]]อย่างมาก แม้จะเลื่อนชั้นขึ้นมาปีเดียวแล้วสโมสรตกชั้นก็ตาม
 
ฤดูกาลต่อมาในดิวิชั่น1[[สโมสรฟุตบอลซันเดอร์แลนด์|ซันเดอร์แลนด์]]พลาดโอกาสเลื่อนชั้นกลับไปเล่นเริ่มต้นใน[[เอฟเอ พรีเมียร์ลีก|พรีเมียร์ ลีก]]ฤดูกาล 1999-2000 อย่างน่าเสียดายตื่นตาตื่นใจเมื่อแพ้การดวลจุดโทษในรอบเพล์-ออฟแก่ชาร์ลตันมีลุ้นทำอันดับไปเล่นฟุตบอลยุโรปแต่เมื่อจบฤดูกาลก็ต้องผิดหวังเมื่อได้อันดับที่ แอธเลติกหลังจากเสมอกันในเวลา4-47 อย่างไรก็ตามพลาดโอกาสอย่างน่าเสียดาย ฤดูกาลดังกล่าวทีมของปีเตอร์ รีดพาสร้างสถิติใหม่อีกครั้งโดยเป็นทีมที่เลื่อนชั้นกลับไปขึ้นมาแล้วได้อันดับสูงที่สุดคืออันดับ 7 และ[[เควิน ฟิลลิปส์]]กองหน้า[[ฟุตบอลทีมชาติอังกฤษ|ทีมชาติอังกฤษ]]ของสโมสรก็เป็นดาวซัลโวอันดับ1ของ[[เอฟเอ พรีเมียร์ลีก|พรีเมียร์ ลีก]]สำเร็จเมื่อคว้าแชมป์ดิวิชั่นและของยุโรปด้วยผลงาน 1ได้อีกครั้ง30 ประตูในฤดูกาล1998-1999[[เอฟเอ พร้อมทำสถิติใหม่เมื่อได้แต้มถึง105คะแนนพรีเมียร์ลีก|พรีเมียร์ลีก]]
 
ในฤดูกาล 2000-2001 ทีมมีโอกาสไปเล่นถ้วย[[ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก]]เมื่อทำผลงานดีในช่วงต้นแต่ฟอร์มของทีมยังไม่สม่ำเสมอทำให้จบฤดูกาลด้วยอันดับ7อีกครั้งและหลังจากนั้นลูกทีมของปีเตอร์ รีดก็กลับมีฟอร์มตกต่ำลงอย่างน่าใจหาย โดยอยู่เหนือโซนตกชั้นแค่1อันดับในฤดูกาล 2001-2002 โดยยิงประตูได้แค่ 28 ประตูจาก 38 นัดน้อยกว่าทุกทีมในลีก และถึงขนาดเสี่ยงอย่างยิ่งต่อการตกชั้นจาก[[เอฟเอ พรีเมียร์ลีก|พรีเมียร์ลีก]]ในฤดูกาล 2002-2003 ทำให้ปีเตอร์ รีดแยกทางกับสโมสรที่เขาอยู่มาเกือบ8ปีก่อนสิ้นฤดูกาล และหลังจบฤดูกาลสโมสรก็มีอันต้องตกชั้น โดยมีคะแนนเพียง19คะแนน
[[สโมสรฟุตบอลซันเดอร์แลนด์|ซันเดอร์แลนด์]]เริ่มต้นใน[[เอฟเอ พรีเมียร์ลีก|พรีเมียร์ลีก]]ฤดูกาล1999-2000อย่างน่าตื่นตาตื่นใจเมื่อมีลุ้นทำอันดับไปเล่นฟุตบอลยุโรปแต่เมื่อจบฤดูกาลก็ต้องผิดหวังเมื่อได้อันดับที่7พลาดโอกาสอย่างน่าเสียดาย ฤดูกาลดังกล่าวทีมของปีเตอร์ รีดสร้างสถิติใหม่อีกครั้งโดยเป็นทีมที่เลื่อนชั้นขึ้นมาแล้วได้อันดับสูงที่สุดคืออันดับ7 และ[[เควิน ฟิลลิปส์]]กองหน้า[[ฟุตบอลทีมชาติอังกฤษ|ทีมชาติอังกฤษ]]ของสโมสรก็เป็นดาวซัลโวอันดับ1ของ[[เอฟเอ พรีเมียร์ลีก|พรีเมียร์ลีก]]และของยุโรปด้วยผลงาน30ประตูใน[[เอฟเอ พรีเมียร์ลีก|พรีเมียร์ลีก]]
 
ในฤดูกาล2000-2001ทีมมีโอกาสไปเล่นถ้วย[[ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก]]เมื่อทำผลงานดีในช่วงต้นแต่ฟอร์มของทีมยังไม่สม่ำเสมอทำให้จบฤดูกาลด้วยอันดับ7อีกครั้งและหลังจากนั้นลูกทีมของปีเตอร์ รีดก็กลับมีฟอร์มตกต่ำลงอย่างน่าใจหาย โดยอยู่เหนือโซนตกชั้นแค่1อันดับในฤดูกาล2001-2002โดยยิงประตูได้แค่ 28ประตูจาก38นัดน้อยกว่าทุกทีมในลีก และถึงขนาดเสี่ยงอย่างยิ่งต่อการตกชั้นจาก[[เอฟเอ พรีเมียร์ลีก|พรีเมียร์ลีก]]ในฤดูกาล2002-2003 ทำให้ปีเตอร์ รีดแยกทางกับสโมสรที่เขาอยู่มาเกือบ8ปีก่อนสิ้นฤดูกาล และหลังจบฤดูกาลสโมสรก็มีอันต้องตกชั้น โดยมีคะแนนเพียง19คะแนน
 
[[ไฟล์:Peter_reid_leeds.jpg|left|thumb|ปีเตอร์ รีด สมัยคุมลีดส์ ยูไนเต็ด]]
 
หลังออกจาก[[สโมสรฟุตบอลซันเดอร์แลนด์|ซันเดอร์แลนด์]]เขารับงานคุมทีมลีดส์ ยูไนเต็ด ใน[[เอฟเอ พรีเมียร์ลีก|พรีเมียร์ลีก]]หลังสโมสรปลดเทอรรี่ เวนาเบิ้ลส์ออกจากตำแหน่งในปี 2003 และมีเควิน แบล็คเวลล์เป็นผู้ช่วย โดยขณะนั้นสโมสรตกต่ำอย่างหนักและมีความเสี่ยงต่อการตกชั้นสูง สโมสรมีหนี้สินมากกว่า 80 ล้านปอนด์จากการใช้เงินอย่างฟุ่มเฟือยในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา แต่กลับไม่สามารถคว้าแชมป์ใดๆได้ ปีเตอร์ รีดดูเหมือนจะช่วยกู้สถานการณ์ของทีมไว้ได้ช่วงหนึ่งเมื่อพาทีมบุกชนะชาร์ลตัน แอธเลติกถึงถิ่น 6-1 และชนะอาร์เซน่อล 3-2 และพาทีมรอดจากการตกชั้นได้สำเร็จ
 
หลังจากเอาตัวรอดได้ในฤดูกาล 2002-2003 แฟนบอลเริ่มมีความหวังต่อทีมมากขึ้น แต่สถานะการเงินของสโมสรยังคงย่ำแย่อย่างหนัก และถึงขนาดต้องขายดาราประจำทีมออกไปหลายราย รวมถึงแฮรี่ คีเวลล์มิดฟิลด์ทีมชาติออสเตรเลียหนึ่งในขวัญใจของแฟนบอล ต่อจากนั้นปีเตอร์ ริดส์เดลผู้บริหารของสโมสรก็ลาออกพร้อมทิ้งปัญหาไว้มากมาย สโมสรมีความเป็นไปได้ที่จะตกชั้นเมื่อปีเตอร์ รีดพาทีมออกไปแพ้พอร์ทสมัธที่เพิ่งเลื่อนชั้นขึ้นมาถึง 6-1 ทำให้หลังจากนั้นไม่นานเขาถูกปลดจากตำแหน่ง และเอ็ดดี้ เกรย์หนึ่งในทีมงานโค้ชต้องทำหน้าที่ผู้จัดการทีมชั่วคราวจนจบฤดูกาลซึ่งสุดท้ายสโมสรก็ตกชั้นในฤดูกาล 2003-2004
 
เดือนพฤษภาคม ปี2004 เขารับงานคุมทีมระดับล่างโดยการทำหน้าที่คุมทีมโคเวนทรี ซิตี้ในดิวิชั่น 1 (ลีก แชมเปี้ยนชิพในปัจจุบัน) สโมสรมีเป้าหมายที่จะเลื่อนชั้นขึ้นไปเล่นใน[[เอฟเอ พรีเมียร์ลีก|พรีเมียร์ลีก]] แต่ปีเตอร์ รีดมีโอกาสอยู่กับทีมแค่8เดือนเท่านั้น เมื่อโดนปลดในเดือนมกราคม ปี 2005 ก่อนจบฤดูกาล เมื่อพาทีมรั้งอันดับ 20 ของตารางและเกือบตกชั้น ต่อมาในปี 2006 มีกระแสข่าวว่าปีเตอร์ รีด จะได้ทำหน้าที่ผู้อำนวยการฟุตบอลของ[[สโมสรฟุตบอลซันเดอร์แลนด์|ซันเดอร์แลนด์]]ภายใต้การบริหารของไนออล ควินน์ ประธานสโมสรคนใหม่ซึ่งเคยเป็นลูกทีมของปีเตอร์ รีดสมัยคุมทีม[[สโมสรฟุตบอลแมนเชสเตอร์ ซิตี้|แมนเชสเตอร์ ซิตี้]]และ[[สโมสรฟุตบอลซันเดอร์แลนด์|ซันเดอร์แลนด์]] แต่สุดท้ายรีดก็ไม่ได้รับงานนี้
 
ในปี2007 ปีเตอร์ รีด ตัดสินใจรับงานคุมทีมชาติชุดใหญ่เป็นครั้งแรกเมื่อรับงานคุม[[ฟุตบอลทีมชาติไทย|ทีมชาติไทย]]โดยเซ็นสัญญา4ปี และได้ค่าจ้างปีละ1ล้านปอนด์ (ประมาณ 63ล้านบาท) วันที่28 ตุลาคม ปี 2008 รีดประเดิมคุมทีมชาติไทยอย่างเป็นทางการนัดแรกคือนัดที่ไทยชนะเกาหลีเหนือ 1-0 ในศึกทีแอนด์ที คัพที่[[ประเทศเวียดนาม]] ก่อนที่จะถูกปลดออกจากตำแหน่งในวันที่ [[9 กันยายน]] ปีถัดมา
เส้น 65 ⟶ 63:
 
== บทบาทอื่น ==
ปีเตอร์ รีด เป็นเอเยนต์นักฟุตบอลที่ได้รับการจดทะเบียนอย่างถูกต้องโดยทำงานร่วมกับฌอน รีดน้องชายของเขา และเคยเป็นผู้วิเคราะห์เกมส์ทางโทรทัศน์กับ[[บีบีซี]]ในช่วงฟุตบอลโลก 2006 ร่วมกับลี ดิ๊กซั่นอดีตกองหลังทีมชาติอังกฤษ นอกจากนี้ยังเคยทำงานกับสกาย สปอร์ตในปี 2007
 
ปีเตอร์ รีด เป็นเอเยนต์นักฟุตบอลที่ได้รับการจดทะเบียนอย่างถูกต้องโดยทำงานร่วมกับฌอน รีดน้องชายของเขา และเคยเป็นผู้วิเคราะห์เกมส์ทางโทรทัศน์กับ[[บีบีซี]]ในช่วงฟุตบอลโลก2006 ร่วมกับลี ดิ๊กซั่นอดีตกองหลังทีมชาติอังกฤษ นอกจากนี้ยังเคยทำงานกับสกาย สปอร์ตในปี2007
 
== ผลงาน ==
เส้น 76 ⟶ 73:
'''[[สโมสรฟุตบอลเอฟเวอร์ตัน|เอฟเวอร์ตัน]]'''
*'''[[เอฟเอ คัพ]]''' แชมป์: ปี 1984
*'''[[เอฟเอ พรีเมียร์ลีก|ดิวิชั่น 1(เดิม) ปัจจุบันคือ พรีเมียร์ลีก]]''' แชมป์: ฤดูกาล 1984-1985, 1986-1987
*'''[[เอฟเอ คัพ]]''' รองแชมป์: ปี 1985
*'''[[ยูฟ่า คัพ วินเนอร์สคัพ]]''' แชมป์: 1985
เส้น 83 ⟶ 80:
=== สมัยเป็นผู้จัดการ ===
'''[[สโมสรฟุตบอลซันเดอร์แลนด์|ซันเดอร์แลนด์]]'''
*'''ดิวิชั่น 1 (ปัจจุบันคือ ลีก เดอะ แชมเปี้ยนชิพ)''' แชมป์: ฤดูกาล 1995-1996, 1998-1999
'''[[ฟุตบอลทีมชาติไทย|ทีมชาติไทย]]'''
*'''[[เอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพ 2008|ซูซูกิ คัพ]]''' รองแชมป์:2008
เส้น 107 ⟶ 104:
{{รายการอ้างอิง}}
 
{{ผู้จัดการทีมฟุตบอลทีมชาติไทย}}
{{เริ่มกล่อง}}
{{สืบตำแหน่ง |ก่อนหน้า= [[ทองสุข สัมปหังสิต]] |ตำแหน่ง=ผู้ฝึกสอน[[ฟุตบอลทีมชาติไทย]]| ปี=[[พ.ศ. 2551]]- [[พ.ศ. 2552]]| ถัดไป= [[สตีฟ ดาร์บี]]<br><small>(รักษาการ)</small>}}
{{จบกล่อง}}
 
{{lifetime|1956}}
[[หมวดหมู่:นักฟุตบอลชาวอังกฤษ]]
[[หมวดหมู่:ผู้จัดการทีมฟุตบอลชาวอังกฤษ]]
เส้น 116 ⟶ 112:
[[หมวดหมู่:บุคคลจากลิเวอร์พูล]]
[[หมวดหมู่:ผู้จัดการทีมฟุตบอลทีมชาติไทย]]
{{alive}}{{birth|1956}}