ผลต่างระหว่างรุ่นของ "ศาลาเฉลิมกรุง"

เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
BotKung (คุย | ส่วนร่วม)
เก็บกวาดบทความด้วยบอต
บรรทัด 13:
โรงภาพยนตร์สยามในสมัยนั้น มักเป็นโรงภาพยนตร์ขนาดเล็ก ลักษณะคล้ายอาคารโรงไม้ หลังคามุงสังกะสี ไม่มีโรงขนาดใหญ่และหรูหรา จนกระทั่ง [[พ.ศ. 2475]] ปีแห่งมหามงคลสมัยเฉลิมฉลองพระนครมีอายุครบ 150 ปี พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว มีพระราชดำริให้จัดสร้างโรงมหรสพขนาดใหญ่ขึ้น เนื่องด้วย พระองค์โปรดภาพยนตร์เป็นพิเศษ โรงภาพยนตร์แห่งใหม่ที่ทันสมัยและโอ่โถงหรูหรา ขนาดจุผู้ชมได้มากว่า 2,000 คน และนับเป็นโรงมหรสพแห่งแรกในเอเชียที่มีเครื่องปรับอากาศระบบไอน้ำ (Chilled Water System)
 
ตัวอาคารรูปสี่เหลี่ยมสูงแบบโมเดิร์นสไตล์ (Modern Style) ตั้งอยู่บริเวณหัว[[ถนนเจริญกรุง]]ตัดกับ[[ถนนตรีเพชร]] ออกแบบและควบคุมงานก่อสร้างโดย [[หม่อมเจ้าสมัยเฉลิม กฤดากร]] และ นารถ โพธิปราสาท เป็นวิศวกร ภายในออกแบบตกแต่งเรียบง่าย ระหว่างตะวันตกผสมผสานกับไทย และได้รับพระราชทานนามว่า "'''ศาลาเฉลิมกรุง'''" เปิดฉายปฐมฤกษ์ด้วยเรื่อง "มหาภัยใต้ทะเล" เมื่อวันที่ [[2 กรกฎาคม]] [[พ.ศ. 2476]] มีรายงานว่าคนดูล้นหลามออกมาถีงถนนหน้าโรงจนรถรางยวดยานต่างๆ ติดขัดหยุดชะงักชั่วคราว <ref>หนังสือพิมพ์ศรีกรุง ฉบับวันพุธ 5 กรกฎาคม พ.ศ. 2476</ref> นอกจากนี้ยังมีภาพยนตร์ไทยที่ได้รับความนิยมสูงในโปรแกรมถัดๆมา เช่นหนังพูด "[[ปู่โสมเฝ้าทรัพย์]]" ,"[[เลือดทหารไทย]]" และ "[[เพลงหวานใจ]]" ของบริษัท[[ภาพยนตร์เสียงศรีกรุง]] เป็นต้น
 
ในช่วง [[สงครามมหาเอเซียบูรพา]] ทางโรงเปลี่ยนเป็นโรงละครเวที จนสงครามสงบแล้วระยะหนึ่ง จึงกลับมาฉายภาพยนตร์อีกครั้ง เริ่มด้วย "[[สุภาพบุรุษเสือไทย]]" หนังไทย 16 มม. พากย์สด เมื่อปลายเดือนมิถุนายน พ.ศ. 2492 ทำรายได้มากกว่า 3 แสนบาท สูงสุดกว่าเรื่องใดๆในเวลานั้น