}}
'''พระทีปังกรพุทธเจ้า''' เป็น[[พระพุทธเจ้า]]ที่ตรัสรู้ในโลกเมื่อ 4 [[อสงไขย]]แสน[[กัป]]ที่แล้ว<ref>[http://84000.org/tipitaka/pitaka_item/r.php?B=33&A=6874&w=%BE%D8%B7%B8%C7%A7%C8%EC ทีปังกรพุทธวงศ์ที่ ๑1]. พระไตรปิฎก เล่มที่ ๓๓33 พระสุตตันตปิฎก เล่มที่ ๒๕25 ขุททกนิกาย อปทาน ภาค ๒2 -พุทธวังสะ</ref> ถือเป็นพระพุทธเจ้าพระองค์แรกใน[[พุทธวงศ์]]ของ[[พระโคตมพุทธเจ้า]] เรื่องราวของพระองค์ปรากฏทั้งในหลักฐานฝ่าย[[เถรวาท]]และ[[มหายาน]] นามของพระองค์หมายถึงผู้ยังแสงสว่างให้เกิดขึ้น ชื่ออื่น ๆ ของพระองค์ได้แก่ พระสมันตประภาพุทธเจ้า พระประทีปประภาพุทธเจ้า พระสมาธิประภาพุทธเจ้า หรือพระปัจฉิมพุทธะทีปังกร
ในอดีตกาลมีพระพุทธเจ้าพระนามว่า '''ทีปังกร''' ๒2 พระองค์ จึงเรียกพระองค์แรกว่า '''พระปุราณทีปังกร''' (ปุราณ แปลว่า เก่า) และเรียกพระองค์หลังว่า '''พระปัจฉิมทีปังกร'''
== พระประวัติ ==
ในทางเถรวาทได้กล่าวถึงประวัติของพระทีปังกรพุทธเจ้าไว้ว่า เมื่อศาสนาพระสรนังกรพุทธเจ้าอันตรธานไป ในสารมัณฑกัปเดียวกัน มีพระพุทธเจ้ามาอุบัติเป็นองค์ที่ ๔4 และเป็นองค์สุดท้ายของ[[กัป]]นั้น พระนามว่า "ทีปังกร"
พระทีปังกรพุทธเจ้าประสูติเป็นทีปังกรราชกุมาร แห่งราชวงศ์แห่งรัมมวดีนคร พระบิดาทรงพระนามว่าพระเจ้าสุเทพและพระมารดาทรงพระนามว่าพระนางสุเมธาเทวี ทีปังกรราชกุมารทรงเกษมสำราญอยู่ ๑๐10,๐๐๐000 ปี ในปราสาท ๓3 หลัง ชื่อว่า หังสา โกญจา และมยุรา เหมาะสมตาม[[ฤดู]]ทั้ง ๓3 มีพระมเหสีนามว่า ปทุมาเทวี และทรงมีสนมนารีแวดล้อมอีก ๓๐๐300,๐๐๐000 นาง วันหนึ่ง ทีปังกรราชกุมารเสด็จประพาสอุทยาน ทอดพระเนตรเห็นเทวทูตทั้งสี่ คือ คนแก่ คนเจ็บ คนตาย และนักบวช พระองค์จึงมีพระทัยน้อมไปทางบรรพชา
เมื่อพระนางปทุมาเทวีประสูติพระโอรส พระนามว่า อุสภักขันธกุมาร จึงได้เสด็จออกบรรพชาในราชอุทยานนั้นด้วยคชยาน ๘๔84,๐๐๐000 เชือก มีผู้ออกบรรพชาตามจำนวนโกฏิหนึ่ง หลังจากทรงบำเพ็ญความเพียรอยู่เป็นเวลา ๑๐10 เดือน ในวันเพ็ญเดือนวิสาขะ พระองค์ก็นำบริษัทเข้าไปบิณฑบาตข้าวปายาสในนคร ตอนเย็นทรงปลีกจากคณะ ทรงรับหญ้า ๘8 กำ จากอาชีวกชื่อ อานันทะ และนำมาปูลาดเป็นโพธิบัลลังก์ใต้ต้นเลียบ (ต้น[[มะกอก]]) ปราบพระยามารกับพลมารนับอสงไขย และได้ตรัสรู้เป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้าในคืนนั้น พระทีปังกรพุทธเจ้าทรงแสดงปฐมเทศนา แก่พระภิกษุผู้บรรพชาตามจำนวนโกฏิหนึ่ง ที่สุนันทาราม ทำให้พระภิกษุโกฏิหนึ่งนั้นสำเร็จเป็นพระอริยบุคคล
ธรรมาภิสมัยในพุทธกาลของพระทีปังกรพุทธเจ้าบังเกิดขึ้น ๓3 วาระ คือ
* '''วาระที่ ๑1 แสดงปฐมเทศนา''' ธรรมาภิสมัยบังเกิดแก่มนุษย์และเทวดา ๑๐๐100 โกฏิ
* '''วาระที่ ๒2''' แสดงธรรมแก่ อุสภักขันธกุมาร ราชโอรส ธรรมาภิสมัยบังเกิดแก่มนุษย์และเทวดา ๑๐๐100,๐๐๐000 โกฏิ
* '''วาระที่ ๓3''' แสดงธรรมบนดาวดึงส์เทวโลกโปรดพุทธมารดา ธรรมาภิสมัยบังเกิดแก่เทวดา ๙๐90,๐๐๐000 โกฏิ
พระทีปังกรพุทธเจ้า ทรงประชุมสาวกสันนิบาต ๓3 ครั้ง
* '''ครั้งที่ ๑1''' ทรงแสดงโอวาทปาฏิโมกข์แก่พระสงฆ์สาวกและเทวดา ๑๐๐100,๐๐๐000 โกฏิ ณ สุนันทาราม
* '''ครั้งที่ ๒2''' ทรงแสดงโอวาทปาฏิโมกข์แก่พระสงฆ์สาวก ๑๐๐100 โกฏิ ณ นารทกูฏ ซึ่งเป็นสถานที่ที่พระองค์ทรมานนารทยักษ์พร้อมบริวารหมื่นหนึ่ง ให้อยู่ในโสดาปัตติผล และทรงบวชมนุษย์ ๑๐๐100 โกฏิที่นำมาพลีกรรมยักษ์ด้วยเอหิภิกขุอุปสัมปทา ภิกษุเหล่านั้นสำเร็จเป็นพระอรหันต์ทั้งหมดภายใน ๗7 วัน
* '''ครั้งที่ ๓3''' ทรงแสดงโอวาทปาฏิโมกข์แก่พระสงฆ์สาวก ๙๐90,๐๐๐000 โกฏิ ณ ภูเขาสุทัสสนะ
พระทีปังกรพุทธเจ้ามีพระสาวกองค์สำคัญ คือ
* '''พระอุปัฏฐาก''' คือ พระสาคตะเถระ
พระทีปังกรพุทธเจ้ามีพระวรกายสูง ๘๐80 ศอก เมื่อพระชนมายุได้ ๑๐๐100,๐๐๐000 ปี จึงปรินิพพานที่นันทาราม หลังจากนั้นพุทธศาสนาของพระองค์ก็ดำรงอยู่ต่อมานานถึง ๑๐๐100,๐๐๐000 ปี จึงอันตรธานไป
== ความเกี่ยวข้องกับพระโคตมพุทธเจ้า ==
|