ผลต่างระหว่างรุ่นของ "พระเจ้าคาโรลที่ 1 แห่งโรมาเนีย"
เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
ล แทนที่คำผ่านการค้นหา: 'ทรงมีพระ'→'มีพระ' |
|||
บรรทัด 26:
ในช่วงรัชกาลของพระองค์ พระองค์ทรงบัญชาการรบกองทัพโรมาเนียด้วยพระองค์เองในช่วงสงครามรัสเซีย-ตุรกีและทรงร่วมบัญชาการกองทัพโรมาเนียและรัสเซียระหว่าง[[การปิดล้อมที่เปลฟนา]] โรมาเนียได้รับเอกราชโดยสมบูรณ์จาก[[จักรวรรดิออตโตมัน]]([[สนธิสัญญาเบอร์ลิน (1878)]])และได้รับแคว้น[[แคว้นโดบรูยาใต้|คาเดรียเลเทอร์]]จาก[[บัลแกเรีย]]ในปีพ.ศ. 2456 ในบทบาททางด้านการเมือง พระองค์ยังคงปกครองประเทศท่ามกลางการแข่งขันของ[[พรรคเสรีภาพแห่งชาติ(โรมาเนีย)|พรรคเสรีภาพแห่งชาติ]]กับ[[พรรคอนุรักษนิยม(โรมาเนีย)|พรรคอนุรักษนิยม]] ที่ซึ่งก่อให้เกิดการลุกฮือของชาวนาใน[[วัลลาเซีย]]เดือนเมษายน พ.ศ. 2431 และใน[[มอลเดเวีย]]เดือนมีนาคม พ.ศ. 2450
พระองค์อภิเษกสมรสกับ[[เอลิซาเบธแห่งวีด สมเด็จพระราชินีแห่งโรมาเนีย|เจ้าหญิงเอลิซาเบธแห่งวีด]] ณ เมือง[[เนาวีด]] ในวันที่ 15 พฤศจิกายน พ.ศ. 2412 ทั้งสองพระองค์
การที่พระราชาธิบดีคาโรลทรงไร้รัชทายาททำให้พระเชษฐาของพระองค์คือ [[เจ้าชายลีโอโปลด์แห่งโฮเฮนโซลเลิร์น]]เป็นรัชทายาทลำดับถัดไปแห่งโรมาเนีย ในเดือนตุลาคม พ.ศ. 2423 เจ้าชายลีโอโปลด์ทรงสละสิทธิ์ในราชบัลลังก์แก่พระโอรสองค์โปรดคือ [[เจ้าชายวิลเฮล์มแห่งโฮเฮนโซลเลิร์น]]ซึ่งเจ้าชายวิลเฮล์มทรงสละสิทธิ์ในราชบัลลังก์แก่พระอนุชาองค์โปรดซึ่งต่อมาได้ครองราชย์เป็น[[สมเด็จพระราชาธิบดีเฟอร์ดินานด์ที่ 1 แห่งโรมาเนีย]]
บรรทัด 54:
สมเด็จพระราชาธิบดีคาโรลทรงได้รับการกล่าวถึงพระอุปนิสัยที่เยือกเย็น พระองค์ทรงยึดมั่นอย่างถาวรในเกียรติยศของพระราชวงศ์ที่พระองค์ทรงสถาปนาขึ้น สมเด็จพระราชินีเอลิซาเบธ ผู้ทรงเป็นพระมเหสีของพระองค์ทรงกล่าวว่า "พระองค์ทรงสวมมงกุฎแม้กระทั่งทรงพระบรรทม" พระองค์ทรงเป็นผู้ที่ละเอียดมากและทรงพยายามสงวนท่าทีของพระองค์ต่อหน้าข้าราชบริพารทุกๆคน อย่างไรก็ตามแม้พระองค์จะอุทิศพระองค์แก่พระราชกรณียกิจในฐานะองค์อธิปัตย์หรือกษัตริย์แห่งโรมาเนียแต่พระองค์ก็ไม่ทรงลืมเลือนเชื้อชาติเยอรมันที่เป็นรากเหง้าของพระองค์
ตลอดระยะเวลา 48 ปีของรัชกาล(ทรงเป็นพระประมุขที่ครองราชย์ยาวนานที่สุดในประวัติศาสตร์โรมาเนีย)พระองค์ทรงช่วยให้โรมาเนียได้รับเอกราชโดยสมบูรณ์ พระองค์ทรงเพิ่มพูนชื่อเสียงแก่โรมาเนีย ทรงช่วยปรับปรุงเศรษฐกิจของโรมาเนียและสถาปนาพระราชวงศ์ขึ้น บนเทือกเขาคาร์เปเทียน พระองค์ทรงสร้าง[[ปราสาทเปเรส]]ซึ่งปัจจุบันเป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงที่สุดในโรมาเนีย ปราสาทสร้างตามสถาปัตยกรรมแบบเยอรมัน เพื่อให้ระลึกถึงสถานที่ที่พระองค์ประสูติ หลังจากสงครามรัสเซีย-ตุรกี พระองค์ทรงรวม[[แคว้นโดบรูยา]]มาเป็นส่วนหนึ่งของอาณาจักรและ
==สิ้นสุดรัชกาล==
ในรัชสมัยที่ยาวนานของสมเด็จพระราชาธิบดีคาโรลได้นำไปสู่การพัฒนารัฐโรมาเนียอย่างรวดเร็ว แต่การสิ้นสุดรัชกาลของพระองค์และเกิด[[สงครามโลกครั้งที่ 1]]ในเวลาต่อมา พระองค์ซึ่งเป็นชาวเยอรมันทางสายพระโลหิตมีพระราชประสงค์ให้โรมาเนียเข้าร่วมสงครามโดยอยู่[[ฝ่ายมหาอำนาจกลาง]] ในขณะที่ชาวโรมาเนียต้องการเข้าร่วมฝ่าย[[ไตรภาคี]] พระราชาธิบดีคาโรลทรงลงพระปรมาภิไธยในสนธิสัญญาลับปีพ.ศ. 2426 โดยเชื่อมสัมพันธไมตรีกับฝ่าย[[ไตรพันธมิตร (พ.ศ. 2425)]] แม้ว่าสนธิสัญญาได้ถูกบังคับใช้ในการป้องกันการรุกรานของ[[จักรวรรดิรัสเซีย]]ของหนึ่งในประเทศสมาชิกผู้ลงนาม พระองค์ทรงถูกโน้มน้าวใจที่ซึ่งเป็นเกียรติอย่างมากที่โรมาเนียจะสนับสนุน[[จักรวรรดิเยอรมัน]]
ได้มีการประชุมฉุกเฉินของสมาชิกในรัฐบาลซึ่งพระองค์ทรงเสนอรัฐบาลเกี่ยวกับสนธิสัญญาลับและแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกัน พระองค์ต้องยอมรับกับข้อขัดแย้งของรัฐบาลที่มีน้ำหนักมากกว่า ส่งผลให้พระองค์เสียพระทัยอย่างมากและเสด็จสวรรคตอย่างกะทันหันในวันที่ 10 ตุลาคม พ.ศ. 2457 (27 กันยายน พ.ศ. 2457 ตามปฏิทินฉบับเก่า) พระราชนัดดาได้สืบราชสมบัติต่อโดย
==พระชนม์ชีพและพระราชวงศ์==
[[ไฟล์:Regele Carol si Regina Elisabeta - Foto02.jpg|300px|thumb|สมเด็จพระราชาธิบดีคาโรลที่ 1 และพระราชินีเอลิซาเบธในบั้นปลายพระชนม์ชีพ]]
[[ไฟล์:King Carol I of Romania with his nephew and great nephew.jpg|left|thumb|จากซ้าย:[[สมเด็จพระราชาธิบดีเฟอร์ดินานด์ที่ 1 แห่งโรมาเนีย|เจ้าชายเฟอร์ดินานด์]] พระนัดดา,สมเด็จพระราชาธิบดีคาโรลที่ 1 แห่งโรมาเนียและ[[สมเด็จพระราชาธิบดีคาโรลที่ 2 แห่งโรมาเนีย|เจ้าชายคาโรล]] พระปนัดดา]]
เมื่อเจ้าชายคาโรลได้ดำรงเป็นองค์อธิปัตย์แห่งโรมาเนีย โดยพระองค์มิได้ทรงอภิเษกสมรสและตามรัฐธรรมนูญโรมาเนียได้ยินยอมที่จะให้พระองค์มีสิทธิไม่อภิเษกสมรสได้ ถ้าอภิเษกสมรสจะต้องไม่อภิเษกกับสตรีที่มีกำเนิดเป็นชาวโรมาเนีย ในปีพ.ศ. 2412 องค์อธิปัตย์ได้เสด็จเยือนประเทศต่างๆในยุโรปแต่โดยหลักคือที่เยอรมนีเพื่อค้นหาสตรีเพื่ออภิเษกสมรส ในระหว่างการเดินทางทรงพบกับ [[เอลิซาเบธแห่งวีด สมเด็จพระราชินีแห่งโรมาเนีย|เจ้าหญิงเอลิซาเบธแห่งวีด]] พระราชธิดาพระองค์โตใน[[เฮอร์มานน์ องค์อธิปัตย์แห่งวีด]]กับ[[เจ้าหญิงมารีแห่งนัสเซา]] โดยทรงพบกันที่เมือง[[เนาวีด]]ในวันที่ 15 พฤศจิกายน พ.ศ. 2412 การอภิเษกสมรสครั้งนี้เป็นหนึ่งในการอภิเษกสมรสที่ไม่เหมาะสมที่สุดในประวัติสาสตร์ ด้วยที่เจ้าชายคาโรล
หลังจากที่โรมาเนียได้ประกาศสถาปนาเป็นราชอาณาจักรในปีพ.ศ. 2424 ส่งผลให้การมีรัชทายาทสืบราชบัลลังก์สำคัญอย่างมาก นับตั้งแต่พระเชษฐาของพระองค์คือ [[เจ้าชายลีโอโปลด์แห่งโฮเฮนโซลเลิร์น]] เจ้าชายลีโอโปลด์ทรงสละสิทธิ์ในราชบัลลังก์แก่พระโอรสองค์โปรดคือ [[เจ้าชายวิลเฮล์มแห่งโฮเฮนโซลเลิร์น]]และเจ้าชายวิลเฮล์มทรงสละสิทธิ์ในราชบัลลังก์ให้แก่พระอนุชาคือ [[สมเด็จพระราชาธิบดีเฟอร์ดินานด์ที่ 1 แห่งโรมาเนีย|เจ้าชายเฟอร์ดินานด์]] เจ้าชายเฟอร์ดินานด์ทรงได้รับพระอิศริยยศเป็นเจ้าชายแห่งโรมาเนียและเป็นรัชทายาทสืบพระราชบัลลังก์ต่อไป พระราชินีเอลิซาเบธทรงพยายามใช้อิทธิพลของพระองค์ในการให้เจ้าชายอภิเษกสมรสกับ[[อีลีนา วาคาเรสคู]]นางสนองพระโอษฐ์ของพระนางเอง ตามรัฐธรรมนูญโรมาเนียได้ห้ามองค์รัชทายาทอภิเษกสมรสกับชาวโรมาเนีย จากเรื่องอื้อฉาวครั้งนี้ส่งผลให้พระนางเอลิซาเบธต้องเสด็จลี้ภัยไปยังเนาวีด จนกระทั่งเจ้าชายเฟอร์ดินานด์อภิเษกสมรสกับ[[สมเด็จพระราชินีมารีแห่งโรมาเนีย|เจ้าหญิงมารีแห่งเอดินบะระ]] พระนางจึงได้รับอนุญาตให้เสด็จกลับโรมาเนีย
|