ผลต่างระหว่างรุ่นของ "คิลบิล"

เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
Nullzerobot (คุย | ส่วนร่วม)
ลบลิงก์ที่ซ้ำซ้อน wikidata
บรรทัด 31:
=== Volume 1 ===
 
เดอะไบรด์ (อูม่า เธอร์แมน) เจ้าสาวที่กำลังเข้าพิธีแต่งงานในโบสถ์แถว เอล พาโซ่ แต่บิลบิวล์ (เดวิด คาราดีน) พร้อมพวกสมาชิกได้บุกเข้ามาและเข้าทำร้ายเธอ จากนั้นเธอได้บอกกับบิลบิวล์ว่ากำลังตั้งท้องลูกของเขา แต่บิลบิวล์ก็ยิงเข้าศีรษะเธออย่างอำมหิต
 
==== Chapter 1 : 2 ====
 
5 ปีต่อมา เธอเริ่มออกตามล่าคนที่ทำร้ายเธอในโบสถ์ โดยเป้าหมายนี้คือ จินนี่ เบลเบวล์ (วิวีก้า เอ. ฟอกซ์) หรือ เวโรนิต้า กรีน โดยเธอบุกเข้าไปในบ้านและเกิดการต่อสู้กัน จากนั้น นิกกี้ ลูกสาวของเวโรนิต้าก็กลับจากโรงเรียน และทั้งสองก็หยุดการต่อสู้กัน จากนั้นทั้งคู่ก็เดินเข้าไปในครัวและพูดคุยกัน แต่ เดอะไบรด์ ไม่ยอมใจอ่อน ทันใดนั้นเวโรนิต้าก็ใช้ปืนที่ซ่อนไว้ในกล่องขนมในตู้เย็นยิงใส่ แต่ เดอะไบรด์ ก็ใช้มีดพกของเธอ ขว้างเข้าใส่หน้าอกของ เวโรนิต้า อย่างเต็มแรง จนเวโรนิต้าขาดใจตายในที่สุด แต่ลูกสาวของเธอก็เข้ามาเห็นเหตุการณ์ โดย เดอะไบรด์ ให้สัญญาว่าถ้าเมื่อไหร่โตขึ้น ก็มาล้างแค้นให้กับแม่ของเธอได้ จากนั้น เดอะไบรด์ ก็ออกเดินทางเพื่อตามล้างแค้นในบัญชีของเธอต่อ ด้วยรถปิคอัพที่ชื่อ "Pussy Wagon"
 
==== Chapter 2 : Blood Splattered Bride ====
 
ย้อนกลับไปยังเหตุการณ์สังหารหมู่ในโบสถ์ โดย เดอะไบรด์ เป็นผู้เดียวที่รอดชีวิตจากเหตุการณ์นั้น จากนั้นเธอก็ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลและนอนเป็นเจ้าหญิงนิทรา ทันใดนั้น แอลล์แอวล์ ไดร์เวอร์ (แดรีล ฮันนาห์) ก็ปรากฏตัวพร้อมกับชุดนางพยาบาลและชุดเข็มฉีดยากับยาพิษ แต่ บิลบิวล์ ได้โทรมาห้ามก่อนที่แอลล์จะฆ่าเดอะ ไบรด์
 
หลังจากนั้น เดอะไบรด์ ได้ฟื้นขึ้นมาพร้อมกับอาการที่ยังโคม่าอยู่ เธอได้หนีออกจากโรงพยาบาลหลังจากที่เธอฆ่าบุรุษพยาบาลที่ชื่อ บั๊ค เธอนั่งเก้าอี้รถเข็นพยาบาล และได้เข้าไปหลบในรถปิดอัพที่ชื่อ "Pussy Wagon" ของบั๊คและเธอก็ฝึกกายภาพบำบัดด้วยการขยับหัวแม่เท้า และเธอได้นึกถึงเป้าหมายแรกที่เธอจะคิดบัญชี
บรรทัด 45:
==== Chapter 3 : Origin of O-ren ====
 
เดอะไบรด์ เล่าถึงตัวของ โอเรน อิชิอิ (ลูซี่ ลิว) โดยนำเสนอในรูปแบบการ์ตูนเคลื่อนไหว หลังจากที่ครอบครัวของโอเรนถูก[[ยากูซ่า]]ฆ่าตาย เธอก็เก็บความแค้นทั้งหมด เพื่อรอเวลาสังหารหัวหน้ายากูซ่าที่ฆ่าพ่อและแม่ของเธอ หลังจากที่เธอสังหารหัวหน้ายากูซ่าได้ เธอก็ผันตัวเองไปเป็นนักฆ่ามืออาชีพ โดยภายหลังได้เข้าร่วมเป็นสมุนของบิลบิวล์ และเป็น 1 ใน4 ที่ทำร้าย เดอะ ไบรด ในโบสถ์วันนั้น
 
==== Chapter 4 : Man From Okinawa ====
บรรทัด 53:
==== Chapter 5 : Showdown at the House of Blue Leaves ====
 
เดอะ ไบรด์ เริ่มบัญชีแค้นคนแรก คือ โอเรน โดยเดอะไบรด์ สวมชุดขับมอเตอร์ไซค์สีเหลืองแถบสีดำ (ชุดคล้ายๆ [[บรู๊ซ ลี]]) เข้ามาในบ้านใบไม้สีน้ำเงิน ''(House of Blue Leaves)'' ซึ่งเป็นที่โอเรนกับสมาชิกแก็งค์ 88 ชอบมาสังสรรค์กัน และจากนั้นเดอะ ไบรดก็ปรากฏตัวขึ้น พร้อมกับต้องฝ่าด่านสมาชิกแก๊งค์ของโอเรน ซึ่งทั้งหมดนี้เดอะ ไบรด์ต้องเจอกับลูกสมุนของแก็งค์ 88 นับสิบ และในที่สุดเดอะ ไบรด์ สามารถจัดการโอเรนสำเร็จ และได้ไว้ชีวิต โซฟี ฟาเทลเทวล์ (จูลี่ ดรัยฟัส) เพื่อมาบอกบิลบิวล์ว่าเธอจะจัดการกับทุกคนที่ทำร้ายเธอในวันนั้น
 
ฉากจบของตอนนี้ คือคำพูดที่บิลบิวล์บอกกับโซฟีว่า "เธอรู้หรือเปล่า ว่าลูกสาวของเธอยังมีชีวิตอยู่?"
 
 
บรรทัด 86:
==== Chapter 6 : Massacre at Two Pines ====
 
เริ่มเรื่องของภาคนี้ จะย้อนไปยังถึงเหตุการณ์ในโบสถ์ ก่อนการสังหารหมู่ ซึ่งเปิดเรื่องโดยที่บิลบิวล์ ได้เข้ามาในงานแต่งเพื่อพูดจากับเดอะไบรด์ ก่อนที่เธอจะเข้าสู่พิธีแต่งงาน โดยหารู้ไม่ว่า บิลบิวล์ได้เตรียมสมุนทั้งสี่เข้ามาทำลายและปิดฉากชีวิตใหม่ของเดอะ ไบรด์
 
หลังจากนั้นก็เข้าสู่เหตุการณ์ปัจจุบัน โดยบิลได้เดินทางไปหา บั๊ด (ไมเคิล แมดเซน) น้องชายแท้ๆ ของบิลคนเดียวบิวล์คนเดียว เพื่อเตือนให้บั๊ดระวังการมาของเดอะ ไบรด์ แต่บั๊ดก็ได้เรียนรู้ถึงวัฎจักรการแก้แค้น และเตรียมพร้อมของการมาของเดอะไบรด์ โดยอาชีพของบั๊คคือพนักงานในคลับระบำโป๊
 
==== Chapter 7 : Lonely Grave of Paula Schulz ====
บรรทัด 96:
==== Chapter 8 : Cruel Tutelage of Pai Mei ====
 
ในช่วงเวลาที่เธออยู่ใน[[โลงศพ]] เธอได้ย้อนกลับไปคิดถึงสมัยที่เธอฝึกวิชาที่เมืองจีน โดยที่บิลบิวล์พาไปฝึกที่สำนักวิชาของอาจารย์ ไป่เม่ย (หลิวเจียฮุย) โดยบิลบิวล์บอกว่าไป่เม่ยมีวิชาดัชนีห้าจุดปลิดวิญญาณ ซึ่งเป็นสุดยอดวิชาของมวยจีน และเป็นความลับซึ่งไป่เม่ยไม่ยอมถ่ายทอดวิชานี้ให้แก่ใครทั้งสิ้นแม้แต่บิลบิวล์ และนิสัยส่วนตัวของไป่ เม่ย คือ ไม่ชอบคน[[อเมริกัน]] จากนั้นไป่เม่ยก็รับเดอะไบรด์เข้าเป็นศิษย์โดนสอนวิชาฝ่ามือพิฆาต และเธอก็ใช้วิชานี้ในการออกจากโลงศพ
 
==== Chapter 9 : Elle and I ====
 
หลังจากเดอะไบรด์เป็นอิสระ เธอก็ได้เดินทางไปหาบั๊ดเพื่อจัดการบัญชีแค้นของเธอ แต่ในเวลาเดียวกัน แอลล์แอวล์ ก็ได้นำเงินรางวัลนำจับเอามาให้บั๊ด แต่ในระหว่างที่แอลล์คุยกับบั๊ด เขาก็เอาดาบของเดอะไบรด์ให้กับแอลล์ไบรด์ให้กับแอวล์ แต่เมื่อบั๊ดเปิดกระเป๋าเพื่อนับเงินรางวัลนำจับ เขาก็ถูกงูพิษที่แอลล์แอวล์ใส่ไว้ในกระเป๋าเงินกัดเข้าที่หน้าอกและหลายที่ในร่างกาย และในที่สุดบั๊ดก็สิ้นใจตาย จากนั้นแอลล์แอวล์ก็โทรศัพท์บอกบิลบิวล์เกี่ยวกับหลุมศพที่ฝังเดอะไบรด์เอาไว้ พร้อมกับเฉลยปริศนาของชื่อที่แท้จริงของเดอะไบรด์ที่มีชื่อว่า "เบียทริกซ์ คิดโด้"
 
แต่ทันใดนั้นเดอะไบรด์ก็บุกเข้ามาในรถบ้านของบั๊ด และได้เกิดการต่อสู้กัน ในระหว่างที่ทั้งสองต่อสู้กัน แอลล์แอวล์ก็ได้เฉลยปริศนาของตนเองว่าทำไมถึงมีตาข้างเดียว นั้นเป็นเพราะไป่เม่ยเป็นคนควักลูกตาของแอลล์และแอลล์แอวล์และแอวล์ก็ฆ่าไป่เม่ยโดยวางยาในอาหาร เมื่อการสนทนาของทั้งสองจบลง เบียทริกซ์กับแอลล์เบียทริกซ์กับแอวล์ก็สู้กันต่อด้วยดาบซามูไร แต่เมื่อแอลล์กับเบียทริกซ์แอวล์กับเบียทริกซ์จ้องตาประสานกัน เบียทริกซ์ก็อาศัยช่วงที่แอลล์เผลอแวลล์เผลอ ก็ควักลูกตาของแอลล์แอวล์อีกข้างหนึ่งออกมา แอลล์แอวล์กรีดร้องและด่าเดอะไบรด์ด้วยความเจ็บปวด และเบียทริกซ์ก็เหยียบลูกตาของแอลล์จนเละแอวล์จนเละ จากนั้นเบียทริกซ์ก็หยิบดาบของตนเองและเดินจากรถบ้านของบั๊ดไปอย่างไม่มีวันกลับมาอีกตลอดชีวิต
 
==== Last Chapter : Face to Face ====
 
เบียทริกซ์เดินทางมายัง[[เม็กซิโก]]เพื่อมาหาเอสเตบัน วิฮาโญ่ (ไมเคิล พาร์คพาค) พ่อเล้าแก่ผู้หนึ่งซึ่งเป็นคนเลี้ยงดูบิลมาตั้งแต่เด็ก และเอสเตบันคือกุญแจที่จะไขปริศนาว่าบิลบิวล์อยู่ที่ไหน และเมื่อเบียทริกซ์รู้ว่าบิลเบียทริกซ์รู้ว่าบิวล์อยู่ที่ไหนเธอก็ไม่รีรอที่จะปิดบัญชีแค้นคนสุดท้ายของเธอ แต่เมื่อเธอไปถึงบ้านของบิลบิวล์ สิ่งที่คาดไม่ถึงก็เกิดขึ้น เมื่อเบียทริกซ์ได้พบกับ บีบี ลูกสาวแท้ๆ วัยสี่ขวบของเธอนั้นเอง ซึ่งกำลังหยอกเย้าอยู่กับบิลบิวล์ผู้เป็นพ่อของบีบีแท้ๆ แต่เบียทริกซ์ก็พยายามเก็บความรู้สึกแค้น และเล่นกับบีบีอย่างสนุกสนานจนบีบีนอนหลับไป
 
ทันใดที่เบียทริกซ์พบกับบิลเบียทริกซ์พบกับบิวล์อย่างตาต่อตา การต่อสู้ครั้งสุดท้ายก็เกิดขึ้น แต่บิลบิวล์ต้องการรู้เหตุผลทั้งหมดว่าทำไมเบียทริกซ์จึงคิดหันหลังให้กับวงการนักฆ่าและไปตั้งชีวิตใหม่กับแฟนคนใหม่ ซึ่งเบียทริกซ์เองถูกยิงด้วยเซรุ่มยาพูดความจริงของบิลบิวล์ และเมื่อยาออกฤทธิ์เบียทริกซ์ก็เล่าความจริงทั้งหมด ว่าเธอไม่อยากให้ลูกสาวที่กำลังจะเกิดมาต้องมามีชีวิตที่พัวผันกับการฆ่าคน และจำเป็นต้องแกล้งทำเป็นว่าตัวเองตายไปกับงานชิ้นสุดท้าย ทำให้บิลบิวล์เสียใจที่เป็นอย่างนั้น แต่เมื่อรู้ว่าความจริงว่าเบียทริกซ์โกหก บิลบิวล์ก็เกิดความแค้นที่เขาถูกคนรักหักหลัง และเมื่อการสนทนาของทั้งสองจบลง การต่อสู้สั้นๆ ด้วยการดวลดาบก็เริ่มขึ้น แต่เบียทริกซ์ใช้วิชาลับสุดยอดอย่าง วิชาดัชนีห้าจุดปลิดวิญญาณ จัดการกับบิลบิว์ล ซึ่งบิลบิวล์เองไม่เคยรู้เลยว่าไป่เม่ยสอนวิชานี้กับเบียทริกซ์ ตัวเธอเองรู้สีกเสียใจที่ต้องฆ่าคนที่เธอรักที่สุดอย่างบิลบิวล์ และเมื่อการล้างแค้นของเธอจบลง เบียทริกซ์ได้พาลูกสาวของเธอหนีไปเริ่มต้นชีวิตใหม่ ณ ที่ใดที่หนึ่ง
 
== จุดกำเนิด ==
เข้าถึงจาก "https://th.wikipedia.org/wiki/คิลบิล"