ผลต่างระหว่างรุ่นของ "อัชเชอร์"

เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
บรรทัด 56:
พ.ศ. 2554 ในวันที่ 7 ตุลาคม 2554 RCA Music Group ประกาศยุบกิจการ Jive Records รวมไปถึง Arista Records และ J Records ทำให้ อัชเชอร์ รวมถึงศิลปินคนอื่นๆที่มีสัญญาใน 3 บริษัทนี้ ได้ถูกรวมกันเป็นหนึ่งเดียว ภายใต้ RCA Records ในเครือข่าย โซนี่ มิวสิก
 
อัชเชอร์ร่วมงานกับศิลปินอินเตอร์หลายคน เช่น Enrique Iglesias ในเพลง Dirty Dancer และอยู่ใน Versus (EP) ได้ RedOne มาโปรดิวเซอร์ ด้วย ตามด้วย หนุ่มลาติน อย่าง Romeo Santos ในเพลง Promise ได้ Rico Love มาโปรดิวเซอร์ และเพลงที่ประสบความสำเร็จทั่วโลก ที่ทำให้เอาใจสาวกแดนซ์ทั่วโลกนั้นคือ Without You เป็นเพลงบรรเลงของ David Guetta และเขียนเพลงโดยร่วมกับ Taio Cruz, Rico Love และเติมน้ำเสียงของอัชเชอร์ไปด้วย ทำให้เพลงนี้ทะลุหัวใจขาแดนซ์ทั่วโลกอย่างล้นหลาม
 
พ.ศ. 2555 อัชเชอร์ กับสตูดิโออัลบั้มลำดับที่ 7 ภายใต้การควบคุมของ RCA Records ในชื่อว่า Looking 4 Myself อัลบั้มนี้ส่วนใหญ่จะเป็นแนว Electronic เกือบทั้งอัลบั้ม และได้โปรดิวเซอร์มีโปรอย่าง Rico Love, Jim Jonsin, will.i.am, Salaam Remi, Pharrell, Danja, Empire of The Sun, Swedish House Mafia มาโปรดิวในอัลบัมนี้ได้ลำดับที่ 1 US ด้วยยอดขาย 128,000 ในสัปดาห์แรก ซึ่งยอดขายหายไปครึ่งต่อครึ่ง อย่างน่าตกใจมาก เนื่องจาก อัลบัม 21 ของ อะเดล ขายที่สุดในและทำได้ 22 ล้านก๊อปปี้ทั่วโลก และ วงการเพลงที่ไม่มั่นคง เป็นสาเหตุที่ให้หลาย ๆ อัลบั้ม ยอดขายขาดไปเยอะมาก ทุกศิลปิน ตามติดกัน
ซิงเกิ้ลเปิดตัวทั่วโลกคือ Climax ได้โปรดิวเซอร์อย่าง Diplo (M.I.A., Chris Brown) เป็นเพลงรูปแบบ R&B Quiet storm ผสมผสานกับดนตรี Electronic อย่างลงตัว สามารถทำเนื้อร้องเพลงของอัชเชอร์ ที่เขียนร่วมกับ Ariel Rechtshaid, Redd Stylez บวกกับดนตรีของ Diplo เองผสมผสานเป็นเรื่องราวได้ และขึ้นลำดับที่ 1 US R&B/Hip-Hop Chart หลังจากนั้นปล่อยซิ้งเกิ้ลที่ 2 ในแนวแดนซ์ คือ Scream ที่ได้ Max Martin มาโปรดิวเซอร์ให้และประสบความสำเร็จทั่วโลก และตามติดด้วยซิงเกิ้ลที่ 3 Lemme See ได้รับความไว้วางใจ Jim Jonsin มาโปรดิวให้ หลังจากเพลง There Goes My Baby ที่ได้ลำดับที่ 1 US R&B/Hip-Hop Chart และมีแร็พเปอร์สุดฮอต จากค่าย Def Jam อย่าง Rick Ross (ค่าย Maybach Music Group) แร็พเปอร์ที่ให้ DJ Khaled ประสบความสำเร็จ และตัว Rick Ross ไปแจมร่วมกับ R&B แถวหน้าอย่าง Monica, T-Pain, Keri Hilson, Estelle, Jennifer Hudson, Ne-Yo, Mary J. Blige, Omarion และส่วนของอัชเชอร์ก็เคยร่วมงานในเพลง Fed Up (DJ Khaled) และ Looking for Love ที่เขียนให้ ฌอน คอมบ์ส (Diddy) และ Rick Ross ขอร่วมงานกับ อัชเชอร์เอง ในซิงเกิ้ลอย่างเป็นทางการชื่อว่า Touch'N You ได้ Rico Love มาโปรดิวเซอร์ ในอัลบัม God Forgives, I Don't ตามลำดับ
 
พ.ศ. 2556 อัชเชอร์ ได้รับรางวัลแกรมมี่ สาขาเพลงบันทึกเสียง R&B ดีที่สุดจากเพลง Climax, อัชเชอร์ ได้กลับมาร่วมงานกับ Jermaine Dupri ในรอบ 5 ปีและ Young Jeezy อีกครั้ง ในอัลบั้มชุดใหม่ ที่คาดว่าจะเสร็จในปี พ.ศ. 2557
 
== ผลงานเพลง ==