ผลต่างระหว่างรุ่นของ "ฆาตกรหั่นศพแห่งคลีฟแลนด์"

เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
Tiemianwusi (คุย | ส่วนร่วม)
ไม่มีความย่อการแก้ไข
Tiemianwusi (คุย | ส่วนร่วม)
ไม่มีความย่อการแก้ไข
บรรทัด 5:
| image= Kingsbury Run investigations, sept 1936.jpg
| image_size = 300px
| caption =เจ้าพนักงานตำรวจงมหาชิ้นส่วนร่างกายมนุษย์ในลำน้ำคิงส์บิวรีเมื่อเดือนกันยายน ค.ศ. 1936 ขณะทำคดีนี้
| alt =
| birthname=
บรรทัด 13:
| death_date=
| cause=
| victims= 12 - 15 ราย
| country={{flagcountry|สหรัฐอเมริกา}}
| states=[[คลีฟแลนด์]] {{flag|รัฐโอไฮโอ}}
บรรทัด 26:
== การฆ่า ==
 
จำนวนอย่างเป็นทางการสำหรับการฆ่าที่เชื่อว่าเป็นผลงานของฆาตกรหั่นศพแห่งคลีฟแลนด์นั้น คือ สิบสองครั้ง ผู้ตายทั้งสิบสองถูกฆ่าในระหว่าง ค.ศ. 1935 ถึง 1938 ทว่า งานวิจัยเมื่อเร็ว ๆ นี้ปรากฏว่าน่าจะเกิดขึ้นมากกว่านั้น พีเทอร์ แมริโล (Peter Merylo) หัวหน้าพนักงานสอบสวนแห่งเมืองคลีฟแลนด์ ว่า เมื่อประมวลคดีลักษณะเดียวกัน ที่เกิดในห้วงเวลาเดียวกัน คือ คริสต์ทศวรรษ 1920 ถึง 1950 และเกิดในละแวกเดียวกัน คือ เมืองคลีฟแลนด์ และ[[ยังส์ทาวน์]] (Youngstown) รัฐโอไฮโอ และเมือง[[พิตส์เบิร์ก]] (Pittsburgh) [[รัฐเพนซิลเวเนีย]] (Pennsylvania) แล้ว น่าเชื่อว่า ฆาตกรหั่นศพแห่งคลีฟแลนด์ฆ่าคนมาแล้วมากกว่าสี่สิบคน ในบรรดาผู้ตายทั้งหมด มีสองคนที่โดดเด่นที่สุด คือ ผู้ตายนิรนามที่เรียกว่า "นางทะเลสาบ" (Lady of the Lake) เพราะพบศพแถวทะเลสาบเมื่อวันที่ 5 กันยายน ค.ศ. 1934 และรอเบิร์ต รอเบิร์ตสัน (Robert Robertson) ที่พบศพเมื่อวันที่ 22 กรกฎาคม ค.ศ. 1950
 
ส่วนใหญ่ ศพของผู้ตายมักลอยน้ำมา และไม่อาจระบุเอกลักษณ์ได้จนปัจจุบัน แต่ผู้ตายบางราย เช่น รายที่ 2 ที่ 3 และที่ 8 พิสูจน์เอกลักษณ์แล้วพบว่า คือ เอ็ดเวิร์ด แอนแดรสซี (Edward Andrassy), ฟลอเรนซ์ พอลิลโล (Florence Polillo) และน่าจะเป็น โรส วอลเลส (Rose Wallace) ตามลำดับ และผู้ตายเป็นทั้งชายและหญิง แต่ส่วนใหญ่ปรากฏว่าเป็นชาวเมืองคลีฟแลนด์ชั้นล่างซึ่งเป็นผู้รับผลกระทบใน[[ยุคเศรษฐกิจตกต่ำครั้งใหญ่]] (Great Depression) เขาเหล่านั้นชื่อว่าเป็น "คนยากผู้ใช้แรงงาน" (working poor) ซึ่งไร้บ้าน และอาศัยอยู่ที่[[เมืองแออัด]] (shanty town) เรียกว่า "[[แฟลตคลีฟแลนด์]]" (Cleveland Flats)
บรรทัด 51:
| 1
| นาย ก
| 23 กันยายน ค.ศ. 1935
| บริเวณเขาแจ็กแอส (Jackass Hill) ที่ลำน้ำคิงส์บิวรี ใกล้ถนนตะวันตกที่ 49 (East 49th Avenue) กับถนนปราฮา (Praha Avenue)
| ไม่อาจพิสูจน์เอกลักษณ์ได้จนบัดนี้ ส่วนศีรษะนั้นพบแล้ว
| เบื้องต้น ประเมิณว่าน่าจะตายมาแล้วเจ็ดถึงสิบวันก่อนพบศพ ต่อมาเปลี่ยนเป็นสามถึงสี่สัปดาห์ก่อนพบศพ
| เดือนสิงหาคมหรือกันยายน ค.ศ. 1935
| 1
|-
| 2
| เอ็ดเวิร์ด ดับเบิลยู. แอนแดรสซี <br> (Edward W. Andrassy)
| 23 กันยายน ค.ศ. 1935
| บริเวณเขาแจ็กแอส ที่ลำน้ำคิงส์บิวรี
| พบศพของเอ็ดเวิร์ดห่างจากศพของนาย ก ไปสามสิบฟุต ส่วนศีรษะนั้นพบแล้ว
| สองถึงสามวันก่อนพบศพ
| กันยายน ค.ศ. 1935
| 2
|-
| 3
| ฟลอเรนซ์ เจเนวีฟ พอลิลโล <br> (Florence Genevieve Polillo) <br> หรือ มาร์ติน (Martin)
| 26 มกราคม ค.ศ. 1936
| ระหว่างซอย 2315 และซอย 2325 ของถนนตะวันออกที่ 20 ในใจเมืองคลีฟแลนด์
| ร่างถูกซอยเป็นชิ้น ๆ ส่วนศีรษะนั้นยังไม่พบ
| สองถึงสี่วันก่อนพบศพ
| มกราคม ค.ศ. 1936
| 3
|-
| 4
| นาย ข
| 5 มิถุนายน ค.ศ. 1936
| ลำน้ำคิงส์บิวรี
| ถูกตัดศีรษะทั้งเป็น และศีรษะก็พบแล้ว'''†'''
| สองวันก่อนพบศพ
| มิถุนายน ค.ศ. 1936
| 5
|-
| 5
| นาย ค
| 22 กรกฎาคม ค.ศ. 1936
| บริเวณบิกครีก (Big Creek), [[Brooklyn, Ohio|นครบรูกลิน]] (City of Brooklyn) ตะวันตกของเมืองคลีฟแลนด์
| ถูกหั่นร่างกายทั้งเป็น ส่วนศีรษะนั้นพบแล้ว ผู้ตายคนนี้เป็นเพียงคนเดียวที่ตรวจพบในทางตะวันตกของเมือง
| สองเดือนก่อนพบศพ
| พฤษภาคม ค.ศ. 1936
| 4
|-
| 6
| นาย ง
| 10 กันยายน ค.ศ. 1936
| ลำน้ำคิงส์บิวรี
| พบศพเพียงท่อนบน ส่วนท่อนล่างตั้งแต่ตะโพกลงมานั้นนั้นไม่เหลือซากให้พบ ส่วนศีรษะก็ไม่พบ และไม่สามารถพิสูจน์เอกลักษณ์ด้วย
| สองวันก่อนพบศพ
| กันยายน ค.ศ. 1936
| 7
|-
| 7
| นาง ช
| 23 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 1937
| [[Euclid Beach Park|อุทยานหาดยูคลิด]] (Euclid Beach Park) บนชายฝั่งของ[[Lake Erie|ทะเลสาบเอรี]] (Lake Erie)
| มีศพหญิงอีกศพพบในจุดเดียวกันเมื่อ ค.ศ. 1934 แต่ไม่นับกันว่าเป็นผู้ตายโดยฆาตกรหั่นศพแห่งคลีฟแลนด์นี้ หญิงนี้เรียกกันว่า "นางทะเลสาบ" และศีรษะของนางทะเลสาบก็ไม่พบจนบัดนี้
| สามถึงสี่วันก่อนพบศพ
| กุมภาพันธ์ ค.ศ. 1937
| 8
|- b
| 8
| นาง ซ
| 6 มิถุนายน ค.ศ. 1937
| ใต้สะพาน [[Hope Memorial Bridge|สะพานอนุสรณ์โฮป]] (Hope Memorial Bridge) ซึ่งสมัยนั้นเรียก สะพานลอเรน-คาร์เนจี (Lorain-Carnegie bridge)
| เป็นผู้ตายคนเดียวที่เป็นชาวอเมริกันพื้นเมือง (คนดำ) ศีรษะถูกตัด และซี่โครงถูกรื้อหายไป บัดนี้ พบศีรษะแล้ว'''‡'''
บรรทัด 123:
| 9
| นาย จ
| 6 กรกฎาคม ค.ศ. 1937
| โผล่ออกมาจาก[[Cuyahoga River|น้ำคูยาโฮกา]] (Cuyahoga River) แถวแฟลตรูหนูคลีฟแลนด์
| พบแต่ร่าง แต่ศีรษะไม่พบ
| สองถึงสามวันก่อนพบศพ
| กรกฎาคม ค.ศ. 1937
| 9
|-
| 10
| นาง ฌ
| 8 เมษายน ค.ศ. 1938
| น้ำคูยาโฮกา แถวแฟลตรูหนูคลีฟแลนด์
| พบแต่แข้ง ศีรษะ และส่วนอื่น ๆ ของร่างกายนั้นหาไม่พบ และเป็นผู้ตายคนเดียวที่ปรากฏสารเคมีในร่างกายเมื่อถูกฆ่า
| สามถึงห้าวันก่อนพบ
| เมษายน ค.ศ. 1938
| 12
|-
| 11
| นาง ญ
| 16 สิงหาคม ค.ศ. 1938
| ถนนตะวันออกที่ 9 แถวเลกชอร์ดัมป์ (Lakeshore Dump)
| พบศพ และพบศีรษะ
| สี่ถึงหกเดือนก่อนพบศพ
| กุมภาพันธ์ถึงเมษายน ค.ศ. 1938
| 11
|-
| 12
| นาย ฉ
| 16 สิงหาคม ค.ศ. 1938
| ถนนตะวันออกที่ 9 แถวเลกชอร์ดัมป์
| พบพร้อมกันกับศพของนาย จ ศพของนาย ฉ ถูกตัดศีรษะ และศีรษะนั้นพบถูกยัดอยู่ในกระป๋อง
| เจ็ดถึงเก้าเดือนก่อนพบศพ
| พฤศจิกายน ค.ศ. 1937 ถึงมกราคม ค.ศ. 1938
| 10
|}
บรรทัด 164:
=== ผู้ที่น่าจะตายเนื่องในฆาตกรรมต่อเนื่องนี้ ===
 
มีการถกกันว่า มีอีกหลายคนที่น่าจะถูกฆ่าเนื่องในฆาตกรรมต่อเนื่องนี้ ในจำนวนนั้น รายแรก เป็นสตรีนิรนาม ได้ชื่อว่า "นางทะเลสาบ" เพราะพบศพของเธอใกล้หาดยูคลิด บนชายฝั่งทะเลสาบเลกเอรี เมื่อวันที่ 5 กันยายน ค.ศ. 1934 อันเป็นจุดเดียวกับที่พบศพของนาง ช เนื่องจากถูกพบก่อนใครเพื่อน จึงมีผู้เรียกศพของหญิงนี้ว่า "นางหมายเลข 0" (Victim Zero) ด้วย
 
ศพชายนิรนามศีรษะขาดอีกศพ พบอยู่ใน[[รถไฟบรรทุก]] (boxcar) ที่เมือง[[นิวแคสเซิล]] (New Castle) รัฐเพนซิลเวเนีย เมื่อวันที่ 1 กรกฎาคม ค.ศ. 1936 ส่วนศพศีรษะขาดอีกสามราย พบอยู่ในรถไฟบรรทุกใกล้เมือง[[แมกคีส์ร็อกส์]] (McKees Rocks) รัฐเดียวกัน เมื่อวันที่ 3 พฤษภาคม ค.ศ. 1940 ศพทั้งหมดมีร่องรอยบาดแผลอย่างเดียวกับในศพทั้งสิบสองข้างต้น มีศพถูกชำแหละอีกจำนวนหนึ่งพบอยู่ในหนองใกล้เมืองนิวแคสเซิล รัฐเพนซิลเวเนีย ในช่วง ค.ศ. 1921 ถึง 1934 และ ค.ศ. 1939 ถึง 1942
 
อีกศพ ซึ่งพิสูจน์เอกลักษณ์แล้วว่าคือ รอเบิร์ต รอเบิร์ตสัน พบที่อาคารธุรกิจแถวแถนนดาเวนพอร์ต (Davenport Avenue) ซอย 2138 ในเมืองคลีฟแลนด์ เมื่อวันที่ 22 กรกฎาคม ค.ศ. 1950 ชายผู้นี้ถูกฆ่ามาแล้วหกถึงแปดสัปดาห์ก่อนพบ และศีรษะก็ถูกตัดไปโดยเจตนา
 
== ผู้ต้องสงสัย ==
 
วันที่ 24 สิงหาคม ค.ศ. 1939 แฟร็ง โดเลซัล (Frank Dolezal) ชาวเมืองคลีฟแลนด์ ถูกมาร์ทิน แอล. โอ'ดอนเนล (Martin L. O'Donnell) นายอำเภอจับ โดยสงสัยว่าฆ่าฟรอเรนซ์ พอลิลโล แต่หกเดือนต่อมา เขาตายในห้องขังที่[[เทศมณฑลคูยาโฮกา]] (Cuyahoga County) การชันสูตรพลิกศพของแฟร็งพบว่า ซี่โครงหักหกซี่ อันเป็นความบาดเจ็บที่เพื่อนร่วมห้องขังยืนยันว่า ไม่เคยมีเมื่อตอนถูกจับ นักวิจัยส่วนใหญ่เชื่อว่า ไม่มีพยานหลักฐานยืนยันว่าแฟร็งเกี่ยวข้องกับฆาตกรรม แม้ว่าเขาจะรับสารภาพว่าฆ่าฟรอเรนซ์ พอลิลโลก็ตาม แต่ก็เชื่อว่าเพื่อป้องกันตนเท่านั้น นอกจากนี้ ก่อนเขาตาย เขายังถอนคำรับสารภาพที่เคยให้ไว้ทั้งหมดด้วย โดยกล่าวว่า ตนเองถูกซ้อมให้รับสารภาพ
 
ดอกเตอร์ฟรานซิส อี. สวีนีย์ (Francis E. Sweeney) เป็นผู้ต้องสงสัยรายใหญ่อีกราย ตามการสืบสวนใน ค.ศ. 1938 ซึ่งพบข้อมูลสำคัญว่า ช่วง[[สงครามโลกครั้งที่ 1]] ดอกเตอร์ฟรานซิสเคยทำงานในหน่วยแพทย์ผ่าตัดสนาม อีเลียต เนสได้ถามปากคำดอกเตอร์ฟรานซิสเป็นการส่วนตัวด้วย โดยอีเลียตเรียกเขาด้วยรหัส "เกย์ลอร์ด ซุนด์ไฮม์" (Gaylord Sundheim) อีเลียตกล่าวว่า ดอกเตอร์ฟรานซิส "ไม่ผ่าน" เครื่องจับเท็จถึงสองครั้ง การจับเท็จทั้งสองดำเนินการโดย ลีโอนาร์ด คีเลอร์ (Leonard Keeler) ผู้ชำนัญพิเศษด้านจับเท็จ ซึ่งลีโอนาร์ดกล่าวแก่อีเลียตว่า "คุณจับถูกคนแล้ว" ("You has your man") อย่างไรก็ดี อีเลียตรู้สึกว่า โอกาสที่จะดำเนินคดีแก่ดอกเตอร์ฟรานซิสโดยสะดวกนั้นมีน้อยมาก เนื่องจากดอกเตอร์ฟรานซิสเป็นญาติสนิทของ [[มาร์ทิน แอล. สวีนีย์]] (Martin L. Sweeney) สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร และคู่แข่งทางการเมืองของอีเลียต มาร์ทินนั้นจ้องเล่นงานอีเลียตเรื่องที่เขาจับคนร้ายผิดคนอยู่ทุกฝีก้าว
 
แม้ไม่มีความคืบหน้าหรือความเกี่ยวพันใด ๆ อันจะยังให้เจ้าพนักงานตำรวจจัดว่าเขาเป็นผู้ต้องสงสัยก็ตาม ดอกเตอร์ฟรานซิสก็มอบตัว และถูกกักขังไว้ในโรงพยาบาลทหารผ่านศึก (Veterans' Hospital) ที่เมือง[[เดย์ทัน]] (Dayton) รัฐโอไฮโอ เพื่อรับการบำบัดโดยสมัครใจ หลังจากนั้น ปรากฏว่า ฆาตกรรมต่อเนื่องก็ไม่เกิดขึ้นอีกเลย และดอกเตอร์ฟรานซิสตายที่โรงพยาบาลนั้นใน ค.ศ. 1964
 
ใน ค.ศ. 1997 มีทฤษฎีแพร่กระจายไปว่า ฆาตกรรมต่อเนื่องนี้อาจไม่ได้กระทำโดยบุคคลเพียงคนเดียว "ไอ้บ้าฆ่าหั่นศพแห่งลำน้ำคิงส์บิวรี" อาจมีหลายคนก็ได้ ทฤษฎีนี้ตั้งอยู่บนสมมุติฐานที่ว่า ผลการชันสูตรพลิกนั้นยังไม่เป็นที่ยุติ อาร์เธอร์ เจ. เพียร์ซ (Arthur J. Pearce) [[พนักงานแยกธาตุ]] (analyst) ประจำเทศมนฑลคูยาโฮกา กล่าวว่า การพิเคราะห์ของเขายังไม่เป็นที่แน่ใจว่า รอยตัดแต่ละศพนั้นเป็นการกระทำของผู้เชี่ยวชาญหรือมือสมัครเล่น สิ่งเดียวที่ทราบแน่ชัดมีเพียงว่า ศพผู้ตายทุกคนถูกชำแหละเท่านั้น<ref>{{cite book|title = The Maniac In The Bushes|last = Bellamy|first = John|publisher = [[Gray & Co.]]|origdate = 1997|isbn = 1886228191|location = Cleveland, OH|format = paperback|accessdate=2010-11-23}}</ref>
 
== เชิงอรรถ ==