ผลต่างระหว่างรุ่นของ "ฆาตกรหั่นศพแห่งคลีฟแลนด์"
เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
ลไม่มีความย่อการแก้ไข |
Tiemianwusi (คุย | ส่วนร่วม) ไม่มีความย่อการแก้ไข |
||
บรรทัด 26:
== การฆ่า ==
จำนวนอย่างเป็นทางการสำหรับการฆ่าที่เชื่อว่าเป็นผลงานของฆาตกรหั่นศพแห่งคลีฟแลนด์นั้น คือ สิบสองครั้ง ผู้ตายทั้งสิบสองถูกฆ่าในระหว่าง ค.ศ. 1935 ถึง 1938 ทว่า งานวิจัยเมื่อเร็ว ๆ นี้ปรากฏว่าน่าจะเกิดขึ้นมากกว่านั้น พีเทอร์ แมริโล (Peter Merylo) หัวหน้าพนักงานสอบสวนแห่งเมืองคลีฟแลนด์ ว่า เมื่อประมวลคดีลักษณะเดียวกัน ที่เกิดในห้วงเวลาเดียวกัน คือ คริสต์ทศวรรษ 1920 ถึง 1950 และเกิดในละแวกเดียวกัน คือ เมืองคลีฟแลนด์ และ[[ยังส์ทาวน์]] (Youngstown) รัฐโอไฮโอ และเมือง[[พิตส์เบิร์ก]] (Pittsburgh) [[รัฐเพนซิลเวเนีย]] (Pennsylvania) แล้ว น่าเชื่อว่า ฆาตกรหั่นศพแห่งคลีฟแลนด์ฆ่าคนมาแล้วมากกว่าสี่สิบคน ในบรรดาผู้ตายทั้งหมด มีสองคนที่โดดเด่นที่สุด คือ ผู้ตายนิรนามที่เรียกว่า
ส่วนใหญ่ ศพของผู้ตายมักลอยน้ำมา และไม่อาจระบุเอกลักษณ์ได้จน
ฆาตกรหั่นศพผู้นี้ตัดศีรษะผู้ตายทุกคน และมักชำแหละศพพวกเขา บางทีผ่าครึ่งลำตัว แม้ผู้ตายส่วนใหญ่
ในระยะเวลาที่มีการรายงานถึงการฆ่าหั่นศพอย่างเป็นทางการนั้น [[อีเลียต เนส]] (Eliot Ness) ดำรงตำแหน่งผู้อำนวยความปลอดภัยสาธารณะแห่งคลีฟแลนด์ (Public Safety Director of Cleveland) อันเป็นตำแหน่งที่มีอำนาจหน้าที่เหนือฝ่ายตำรวจ และฝ่ายช่วยเหลือประชาชน รวมถึง
== ผู้ตาย ==
นักวิจัยส่วนใหญ่เห็นว่า ผู้ตายที่แน่ชัดที่สุดมีสิบสองคน แม้ว่าปัจจุบันมีพยานหลักฐานใหม่ที่ยันว่า ที่แน่ชัดควรเป็นสิบสามคน รวมเอาหญิงนิรนามที่เรียกกันว่า
{|class="wikitable sortable"
บรรทัด 159:
: '''†''' ผู้ตายคนนี้ มีรอยสักประหลาดหลายรอยอยู่บนร่างกาย รอยหนึ่งเป็นชื่อคน ว่า “เฮเลนกับพอล” (Helen and Paul) อีกรอยเป็นชื่อย่อ ว่า “ดับเบิลยู.ซี.จี.” (W.C.G.) กางเกงในที่สวมอยู่กับศพมีตราร้านซักรีด ระบุชื่อย่อของเจ้าของกางเกงในว่า “เจ.ดี.” (J.D.) มีชาวเมืองคลีฟแลนด์นับพันเข้าชมศพบรรจุโลงและหน้ากากศพซึ่งจัดแสดงที่ [[นิทรรศการเกรตเลกส์]] (Great Lakes Exposition) แต่ก็ไม่ช่วยพิสูจน์เอกลักษณ์ของผู้ตาย
: '''‡''' ผู้ตายคนนี้ เป็นไปได้ว่า คือ “โรส วอลเลส” (Rose Wallace) เจ้าพนักงานตำรวจตรวจพิสูจน์ฟันของผู้ตายแล้ว พบว่า มีโครงสร้างพันธุกรรมอย่างเดียวกับชายที่แสดงตัวและระบุว่าผู้ตายน่าจะเป็นมารดาของตน โชคร้ายที่พนักงานแพทย์ผู้ตรวจพิสูจน์ได้ตายลงก่อน ประกอบกับที่ผู้ตายนั้นตายมาเป็นปี โดยที่ศพหายไปกว่าสิบเดือนถึงพบ การพิสูจน์เอกลักษณ์จึงกลายเป็น
=== ผู้ที่น่าจะตายเนื่องในฆาตกรรมต่อเนื่องนี้ ===
มีการถกกันว่า มีอีกหลายคนที่น่าจะถูกฆ่าเนื่องในฆาตกรรมต่อเนื่องนี้ ในจำนวนนั้น รายแรก เป็นสตรีนิรนาม ได้ชื่อว่า “นางทะเลสาบ”
ศพชายนิรนามศีรษะขาดอีกศพ พบอยู่ใน[[รถไฟบรรทุก]] (boxcar) ที่เมือง[[นิวแคสเซิล]] (New Castle) รัฐเพนซิลเวเนีย เมื่อวันที่ 1 กรกฎาคม ค.ศ. 1936 ส่วนศพศีรษะขาดอีกสามราย พบอยู่ในรถไฟบรรทุกใกล้เมือง[[แมกคีส์ร็อกส์]] (McKees Rocks) รัฐเดียวกัน เมื่อวันที่ 3 พฤษภาคม ค.ศ. 1940 ศพทั้งหมดมีร่องรอยบาดแผลอย่างเดียวกับในศพทั้งสิบสองข้างต้น มีศพถูกชำแหละอีกจำนวนหนึ่งพบอยู่ในหนองใกล้เมืองนิวแคสเซิล รัฐเพนซิลเวเนีย ในช่วง ค.ศ. 1921 ถึง 1934 และ ค.ศ. 1939 ถึง 1942
อีกศพ ซึ่งพิสูจน์เอกลักษณ์แล้วว่าคือ รอเบิร์ต รอเบิร์ตสัน
== ผู้ต้องสงสัย ==
วันที่ 24 สิงหาคม ค.ศ. 1939 แฟร็ง โดเลซัล (Frank Dolezal) ชาวเมืองคลีฟแลนด์ ถูก
ดอกเตอร์ฟรานซิส อี. สวีนีย์ (Francis E. Sweeney) เป็นผู้ต้องสงสัยรายใหญ่อีกราย ตามการสืบสวนใน ค.ศ. 1938 ซึ่งพบข้อมูลสำคัญว่า ช่วง[[สงครามโลกครั้งที่ 1]] ดอกเตอร์ฟรานซิสเคยทำงานในหน่วยแพทย์ผ่าตัดสนาม อีเลียต เนสได้ถามปากคำดอกเตอร์ฟรานซิสเป็นการส่วนตัวด้วย โดยอีเลียตเรียกเขาด้วยรหัส “เกย์ลอร์ด
แม้ไม่มีความคืบหน้าหรือความเกี่ยวพันใด ๆ อันจะยังให้เจ้าพนักงานตำรวจจัดว่าเขาเป็นผู้ต้องสงสัยก็ตาม ดอกเตอร์ฟรานซิสก็มอบตัว และถูกกักขังไว้ในโรงพยาบาลทหารผ่านศึก (Veterans' Hospital) ที่เมือง[[เดย์ทัน]] (Dayton) รัฐโอไฮโอ เพื่อรับการบำบัดโดยสมัครใจ หลังจากนั้น ปรากฏว่า ฆาตกรรมต่อเนื่องก็ไม่เกิดขึ้นอีกเลย และดอกเตอร์ฟรานซิสตายที่โรงพยาบาลนั้นใน ค.ศ. 1964
ใน ค.ศ. 1997 มีทฤษฎีแพร่กระจายไปว่า ฆาตกรรมต่อเนื่องนี้อาจไม่ได้กระทำโดยบุคคลเพียงคนเดียว “ไอ้บ้าฆ่าหั่นศพแห่งลำน้ำคิงส์บิวรี” อาจมีหลายคนก็ได้ ทฤษฎีนี้ตั้งอยู่บนสมมุติฐานที่ว่า ผลการชันสูตรพลิกนั้นยังไม่เป็นที่ยุติ อาร์เธอร์ เจ. เพียร์ซ (Arthur J. Pearce) [[พนักงานแยกธาตุ]] (analyst) ประจำเทศมนฑลคูยาโฮกา กล่าวว่า การพิเคราะห์ของเขายังไม่เป็นที่แน่ใจว่า รอยตัดแต่ละศพนั้นเป็นการกระทำของผู้เชี่ยวชาญหรือมือสมัครเล่น สิ่งเดียวที่ทราบแน่ชัดมีเพียงว่า ศพผู้ตายทุกคนถูกชำแหละเท่านั้น<ref>{{cite book|title = The Maniac In The Bushes|last = Bellamy|first = John|publisher = [[Gray & Co.]]|origdate = 1997|isbn = 1886228191|location = Cleveland, OH|format = paperback|accessdate=2010-11-23}}</ref>
== เชิงอรรถ ==
เส้น 200 ⟶ 184:
== อ้างอิง ==
* Max Allan Collins; ''Butcher's Dozen''; Bantam Books; ISBN 9780553261516 (paperback, 1988)
|