ผลต่างระหว่างรุ่นของ "หมึกกระดอง"
เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
ไม่มีความย่อการแก้ไข |
|||
บรรทัด 26:
ซึ่งคำว่า Sepiida หรือ Sepia นั้น หมายถึง [[สีซีเปีย]] หรือสีน้ำตาลเข้ม อันหมายถึง [[หมึก (เครื่องเขียน)|หมึก]]ของหมึกกระดองนั่นเอง ซึ่งในอดีตได้ในการนำหมึกของหมึกกระดองมาทำเป็นหมึกใช้สำหรับการเขียนหรือตีพิมพ์<ref name="ซีเปีย">[http://th.glosbe.com/es/th/sepia sepia ใน ไทย]</ref> <ref name="zoo">[http://zoo.sci.ku.ac.th/html_T/courseware/423113_Nantaporn/Mollusca.html Phylum Mollusca โดย รศ.นันทพร จารุพันธ์]</ref>
หมึกกระดอง นั้นมีรูปร่างคล้ายกับ[[หมึกกล้วย]] แต่มีรูปร่างที่กลมป้อมกว่า อันเป็นสิ่งที่แตกต่างออกไปอย่างเห็นได้ชัดเจน ภายในโครงร่างภายในเป็นแผ่น[[หินปูน]]รูปกระสวยสอดอยู่กลางหลังเรียกว่า [[ลิ้นทะเล]] แผ่นหินปูนนี้มีช่องว่าง ภายในมีของเหลวและแก๊สบรรจุอยู่ ช่วยในการลอยตัวได้เป็นอย่างดี มีหนวดทั้งสิ้น 10 หนวดเหมือนกับหมึกกล้วย มีหนวดยาว 2 เส้นใช้สำหรับจับเหยื่อเช่นเดียวกับหมึกกล้วย แต่ปลายหนวดไม่ได้แผ่แบนออกกว้าง <ref name="zoo"/> และสามารถหดเข้าไปในกระเปาะได้<ref name="fish"/>
โดยมากแล้ว หมึกกระดอง จะเป็นหมึกที่อาศัยอยู่เป็นคู่หรือตามลำพังตัวเดียว ไม่ได้อยู่รวมเป็นฝูงใหญ่เหมือนหมึกกล้วย และจะอาศัยอยู่ตามโพรงหินใต้น้ำใกล้กับพื้นน้ำ ว่ายน้ำด้วยการลอยตัวแล้วใช้แผ่นบางใสเหมือนครีบข้างลำตัวพลิ้วไปมา ผิดกับหมึกจำพวกอื่น ซึ่งครีบนี้จะไม่เชื่อมต่อกับตอนท้ายของลำตัว และมักเป็นหมึกที่ไม่เกรงกลัว[[มนุษย์]] จึงเป็นที่ชื่นชอบของนักประดาน้ำและนักถ่ายภาพใต้น้ำ<ref name="Manager"/> รวมถึงบางครั้งจะนอนหรือฝังตัวอยู่ใต้ทรายหรือกรวดตามหน้าดินด้วย
บรรทัด 34:
หมึกกระดองโดยทั่วไปจะมีขนาดประมาณ 15-25 เซนติเมตร (5.9-9.8 นิ้ว) โดยชนิดที่มีขนาดใหญ่ที่สุด คือ [[หมึกกระดองยักษ์ออสเตรเลีย]] มีความยาวลำตัวได้ถึง 50 เซนติเมตร (20 นิ้ว) และมีน้ำหนักมากกว่า 10.5 กิโลกรัม (23 นิ้ว) <ref>Reid, A., P. Jereb, & C.F.E. Roper 2005. Family Sepiidae. In: P. Jereb & C.F.E. Roper, eds. ''Cephalopods of the world. An annotated and illustrated catalogue of species known to date. Volume 1. Chambered nautiluses and sepioids (Nautilidae, Sepiidae, Sepiolidae, Sepiadariidae, Idiosepiidae and Spirulidae)''. FAO Species Catalogue for Fishery Purposes. No. 4, Vol. 1. Rome, FAO. pp. 57–152.</ref>
วงจรชีวิตของหมึกกระดองนั้นไม่ยืนยาว
ขณะที่หมึกกระดองตัวเมียหลังจากวางไข่แล้ว จะวนเวียนเฝ้าไข่อยู่แถวนั้น จนร่างกายอ่อนเพลียเรี่ยวแรงลดน้อยถอยลงไปทีละน้อย ๆ น้ำหนักตัวจะค่อย ๆ ลดลงเรื่อย ๆ และตายลงไปในที่สุด โดยที่ไข่ของหมึกกระดองเมื่อฟักออกมา ลูกหมึกวัยอ่อนจะมีรูปร่างเหมือนกับหมึกกระดองวัยโตแต่มีขนาดเล็กกว่า และใช้ชีวิตเป็น[[แพลงก์ตอน]] โดยไม่ได้รับการเลี้ยงดูจากพ่อแม่เช่นเดียวกับหมึกประเภทอื่น<ref name="หมึก">[http://www.moohin.com/thailand-travel-trips/2548-06/c09/ ท่องโลกใต้ทะเล รักในห้วงลึกของหมึกกระดอง โดย วินิจ รังผึ้ง จากนิตยสาร อสท.]</ref>
==การประมง==
หมึกกระดอง เป็นหมึกประเภทหนึ่งที่นิยมรับประทาน จึงมีคุณค่าทางประมง สำหรับชาวประมงชาวไทยจะทำการจับหมึกหรือที่เรียกว่า "ไดหมึก" โดยจะเปิดไฟล่อหมึกจนคิดว่าหมึกมีพอแล้ว จึงเริ่มด้วยการกางอวน, แหยักษ์ หรือมุ้ง ซึ่งจะกางไว้ด้านหนึ่งของเรือ ชาวประมงจะปิดไฟด้านที่ไม่ได้กางอวน เหลือไฟไว้เพียงด้านที่กางอวน ทั้งปลาและหมึกจะมารวมกันด้านนี้ ทิ้งไว้สัก 3-5 นาที ชาวประมงจะเร่งไดให้ไฟแรงขึ้น ก่อนจะหรี่ไฟลงจนเกือบดับ แล้วปล่อยอวน, แหยักษ์ หรือมุ้งลงมาครอบ การไดหมึกจะทำได้ผลตอนช่วงเดือนมืด ปรกติจะอยู่ระหว่างแรม 4 ค่ำถึงขึ้น 8 ค่ำ เดือนหนึ่งทำได้ 22-24 วัน
การจับหมึกกระดองอีกวิธีหนึ่งที่ทำกันมาก คือการใช้ลอบหมึก ลอบหมึกจะถูกนำไปวางไว้บริเวณกองหินใต้น้ำ, ซากเรือจม หรือตามเกาะ กะระดับน้ำลึกสัก 10-30 เมตร ชาวประมงจะทำการกู้ลอบทุกวันๆ ละ 1-2 ครั้ง<ref name="fish">[http://www.fisheries.go.th/marine/KnowladgeCenter/knowledge/Squid/Squid.html หมึกกระดอง จากกรมประมง]</ref>
==การอนุกรมวิธาน==
|