ผลต่างระหว่างรุ่นของ "เสือโคคำฉันท์"
เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
ล ย้อนกลับไปรุ่นที่ 1232997 โดย Tinuviel; เนื้อหาละเมิดลิขสิทธิ์. |
ไม่มีความย่อการแก้ไข |
||
บรรทัด 5:
[[หมวดหมู่:คำฉันท์]]
{{โครงวรรณกรรม}}
ประวัติ เรื่อง เสือโคคำฉันท์
เป็นเรื่องที่มีต้นเรื่องปรากฏอยู่ในปัญญาสชาดกที่เชื่อกันว่า ภิกษุเชียงใหม่รวบรวมและเรียบเรียงขึ้น หลักฐานความเก่าแก่ของเรื่องนี้ สันนิฐานกันว่าแต่งขึ้นในสมัยอยุธยาตอนกลาง แต่งก่อนสมุทรโฆษคำฉันท์ เป็นเรื่องที่เล่าต่อๆมาช้านาน ระหว่างลูกเสือและลูกโค
ประวัติของวรรณคดี เรื่อง เสือโคคำฉันท์'''
เป็นยุคทองของวรรณคดี” มีกวีและวรรณคดีเกิดขึ้นมากมาย ลักษณะคำประพันธ์นิยม ใช้โคลงมากที่สุด ฉันท์และกาพย์มีบ้าง ไม่ปรากฏคำประพันธ์ประเภทกลอน
ผู้แต่ง พระมหาราชครู
พระมหาราชครู สันนิษฐานว่ามีเชื้อสายพราหมณ์เป็นพระอาจารย์ถวายพระอักษรแด่สมเด็จพระนารายณ์มหาราช อาจดำรงตำแหน่งพระมหาราชครูฝ่ายลูกขุน ณ ศาลหลวง หรือ พระมหาราชครูพราหมณ์ปุโรหิตอย่างใดอย่างหนึ่ง มีบางท่านสันนิษฐานว่าเป็นคนเดียวกับพระโหราธิบดีชาวเมืองพิจิตร ผู้แต่งจินดามณี เนื่องจากได้เป็นพระอาจารย์ของสมเด็จพระนารายณ์มหาราช จึงเรียกกันว่า “พระมหาราชครู”
แต่ตามความจริงตำแหน่งพระมหาราชครูกับโหราธิบดีเป็นคนละตำแหน่งดังปรากฏในกฎมณเฑียรบาล พระมหาราชครูที่แต่งสมุทรโฆษคำฉันท์ตอนต้นและแต่งเสือโคคำฉันท์กับพระโหราธิบดีที่แต่งจินดามณี จึงน่าจะต่างคนกัน
สันนิษฐานว่าแต่งเสือโคคำฉันท์ก่อนสมุทรโฆษคำฉันท์ โดยนำเค้าเรื่องมาจากปัญญาสชาดก เรื่อง พหลคาวีชาดก ปัญญาสชาดกเป็นเรื่องเกี่ยวกับพระประวัติของพระโพธิสัตว์ ภิกษุชาวเชียงใหม่แต่งไว้เป็นภาษาบาลี มี ๕๐ เรื่อง ประมาณ พ.ศ. ๒๒๐๐
จุดมุ่งหมายในการแต่ง
เสือโคคำฉันท์มีจุดมุ่งหมายเพื่อสอนคติธรรม
องค์ประกอบของวรรณคดี เรื่อง เสือโคคำฉันท์
แนวคิดของเรื่องเสือโคคำฉันท์
สอนคติธรรม
สอนคติเรื่องความกตัญญู
สอนคติเรื่องความซื่อสัตย์
การมีความเมตตาต่อผู้ที่กำลังลำบาก
การไม่พอใจในสิ่งที่ตนมีอยู่ย่อมทำให้ตนมีความทุกข์
ความโลภย่อมนำไปสู่ความวิบัติ
โครงเรื่อง เสือโคคำฉันท์
เริ่มด้วยบทไหว้ครู ไหว้เทวดา และบทเทิดเกียรติกษัตริย์ เป็นเรื่องเกี่ยวกับลูกเสือกับลูกโคที่พระฤๅษีได้ชุบให้เป็นมนุษย์ โดยให้ชื่อลูกเสือว่า "พหลวิไชย" ส่วนลูกโคได้ให้ชื่อว่า "คาวี” และผจญภัยต่างคนต่างได้ชายาและได้ปกครองเมืองคนละเมืองอบ่างมีความสุข
เนื้อเรื่องโดยย่อ
เริ่มต้นกล่าวสรรเสริญคุณเทวดา กษัตริย์ และพระรัตนตรัยแล้วดำเนินเรื่องว่าเสือแม่ลูกอ่อนและโคนมแม่ลูกอ่อนอยู่ในป่าแห่งหนึ่ง วันหนึ่งแม่เสือออกไปหาอาหาร ลูกโคสงสารจึงบอกแม่ให้นมแก่ลูกเสือ ลูกเสือและลูกโคจึงเริ่มรักกันอย่างพี่น้อง แม่เสือสาบานว่าจะไม่ทำลูกโค แต่แม่เสือไม่รักษาคำสัตย์กินแม่โคเสีย ลูกเสือและลูกโคจึงช่วยกันฆ่าแม่เสือ
บัดนั้นลูกพยัคฆ์ ใส่กลทำรัก แม่เข้าไปหา
เคล้าคลึงเคลียชม ตระบัดโกรธา แหงนกัดกรรฐา คอขาดบัดใจ
แล้วชวนกันไปหากินจนพบพระฤๅษีพระฤๅษีเมตตาชุบให้เป็นคน ลูกเสือเป็นพี่ได้ชื่อว่าพหลวิไชย ลูกโคเป็นน้องชื่อว่าคาวี
ธก็ถาปนปราณ และประทานชีวิตร
ยุพรีกลสถิต ดลขรรธไร
ธก็สมมุตินาม พหลวิไชย
นุชนาถประไพ พระคาวีนทรบดินทร์
พระฤๅษีอวยพรและมอบพระขรรค์วิเศษให้ ทั้งสองจึงลาฤๅษีไปเจอเมืองมคธพระคาวีได้ฆ่ายักษ์ที่คอยทำร้ายชาวเมืองนั้นตาย ได้นางสุรสุดา ราชธิดาท้าวมคธ แต่พระคาวีถวายแด่พระพี่ชายแล้วออกเดินทางต่อ เมื่อไปถึงเมืองร้างเมืองหนึ่งพบกลองใหญ่ไม่ดังผ่าดูพบนางจันทร ธิดาท้าวมัทธราชแห่งรมนคร ได้ทราบความจากนางว่านกอินทรีย์ใหญ่คู่หนึ่งบินมากินชาวเมืองตลอดจนพ่อแม่ นางรอดชีวิตได้ก็เพราะกลองใบนั้น พระคาวีปราบนกอินทรีด้วยพระขรรค์วิเศษและได้นางจันทรเป็นชายา วันหนึ่งนางจันทรลงสรงน้ำในแม่น้ำ ผมร่วงเลยนำใส่ในผอบและลอยน้ำไป
เกษีสินีนาง นุชนารถนงคราญ
หลุ้ยหล่นก็บันดาล ศิโรทกโสรจสรง
เอาใส่ยังวรโกษฐ์ มณีโชติแสงใส
แล้วลอยชลาไลย สุตกระบัตรเสด็จคืน
ท้าวยศภูมิเจ้าเมืองพันธวิไสยเก็บได้ หลงใหลผมหอมนั้น นางทาสีอาสานำนางมาถวาย โดยออกอุบายล้วงความลับเกี่ยวกับพระขรรค์จากนางจันทร ครั้นทราบว่าพระคาวีถอดพระชนม์ไว้ในพระขรรค์ จึงนำพระขรรค์ไปเผาไฟ พระคาวีสลบไป แล้วนางทาสีพานางจันทรไปถวายท้าวยศภูมิ แต่ไม่อาจเข้าใกล้ได้เพราะร้อนเป็นไฟ
ด้วยเดชะบุญนาง รัศมีเปล่งคือฟอนไฟ
ร้อนองค์ภูธร คือดั่งเพลิงมาเผาผลาญ
แต่นั้นจะเข้าใกล้ อรองค์เยาวมาลย์
บได้เดือดดาล ฤทัยโศกเสน่หาฯ
ด้วยความภักดีที่มีต่อพระคาวี เมื่อพระพหลวิไชยเห็นบัวอธิษฐานเหี่ยวลงเป็นลางร้ายจึงตามหาร่างพระคาวี และพบพระขรรค์ในกองไฟ มาชำระล้างวางบนองค์พระคาวี พระคาวีพื้นขึ้นแล้ว ก็ออกตามหานางจันทรถึงเมืองท้าวยศภูมิ พระพหลวิไชยแปลงเป็นพระฤๅษีอาสาชุบท้าวยศภูมิให้เป็นหนุ่มแล้วฆ่าเสียเอาพระคาวีออกมาแทนอ้างว่าชุบตัวเป็นหนุ่มได้สำเร็จ พระคาวีได้อภิเษกกับนางจันทรและได้ครองเมืองพันธวิไสยสืบมา
ตัวละคร
คาวี เป็นหนุ่มผู้สง่างามด้วยความที่เกิดมาจากวัว จึงมีนิสัยอ่อนโยน ใจดี ไม่กล้าทำร้ายใคร คาวีพยายามฝึกการต่อสู้ และความกล้าหาญ เพื่อสามารถมีชีวิตอยู่รอดได้
หลวิชัย เป็นคนเฉลียวฉลาดมีพระขรรค์เป็นอาวุธ มีสัญชาติญาณเสือแฝงอยู่ หลวิชัยต้องพยายามควบคุมสัญชาติญาณ และห้ามฆ่าผู้อื่น เพราะจะทำให้มนต์ฤๅษีเสื่อมกลับกลายเป็นเสืออีก
ท้าวยศภูมิปกครองเมืองพัทธวิไสยมีนิสัยเจ้าชู้มีเมียเยอะและอยากได้นางผมหอมเป็นชายา
นางจันทร มีรูปร่างงดงามผมมีกลิ่นหอมหน้าตาสวยงามเป็นลูกของท้าวพรหมจักรแห่งเมืองจันท์นครมีความซื่อสัตย์ต่อสามีผู้เป็นที่รัก
ยายเฒ่าทาสีเป็นยายเฒ่าเจ้าเล่ห์ที่นำพระขรรค์ของคาวีไปเผาแล้วนำนางจันทรไปให้ ท้าวยศภูมิ
นางสุรสุดามีรูปโฉมงดงามเป็นลูกสาวของท้าวมคธและนางจันทรวดีที่ปกครอง
เมืองจันทรบุรี
กลวิธีการนำเสนอ
เรื่องเสือโคคำฉันท์แต่งโดยการใช้คำฉันท์ กาพย์ฉบัง กาพย์สุรางคนางค์ ฉันท์ที่ใช้แต่งไม่มีมากและโคลงไม่เคร่งครัดตามแผนบังคับถ้อยคำสำนวนเข้าใจง่าย
ฉากและบรรยากาศ
จะเริ่มเรื่องจากที่อยู่อาศัยของแม่เสือและลูกเสือคือถ้ำและอาศัยอยู่เมื่อแม่โคตายลูกเสือและลูกโคก็ได้ฆ่าแม่เสือตายและได้เดินทางเจออาศรมของฤๅษี ฤๅษีจึงชุบตัวให้ลูกเสือและลูกโคเป็นหลวิชัยและคาวี หลังจากนั้นก็เดินทางผ่านเมืองมคธและได้ฆ่ายักษ์ตายหลวิชัยได้นางสุรสุดาเป็นชายา หลังจากนั้นคาวีก็เดินทางต่อจนถึงเมืองรมยนครและเจอกลองที่มีนางจันทรและได้ฆ่านกที่มากินชาวเมืองตายและได้นางจันทรเป็นชายา นางจันทรไปเล่นน้ำที่สระน้ำผมหลุดล่วงจึงใส่ผอบลอยน้ำท้าวยศภูมิเก็บได้หลงเสน่ห์นางจันทรจึงให้นางทาสีไปพาตัวนางจันทรมาให้โดยเอาพระขรรค์ไปเผาและพานางจันทรไปเมืองพัทธวิไสยหลวิชัยตามมาช่วยคาวีและแปลงกายเป็นฤาษีไปชุบตัวให้ท้าวยศภูมิและฆ่าตาย คาวีจึงได้อยู่กับนางจันทรอย่างมีความสุข
ด้านสุนทรียะสารัตถะของเรื่องเสือโคคำฉันท์
สุนทรียะเรื่องเสือโคคำฉันท์
สุนทรียะในคำ
การสัมผัสสระโดยการเล่นสระ ใช้สระเดียวกัน เช่น จำ นำ บำ
ขออยู่เป็นช่วงชาญใน อาศรมอาศัย
จำนำบำเรอมิคลา
การสัมผัสอักษรโดยการเล่นคำ โดยใช้คำว่า เรือง
เรืองสิทธิเรืองศักดิ์เรืองศรี เรืองเกียรติราชี
แลเรืองพระยศฦาขจร
สุนทรียะในความ
อุปมา คือ เปรียบเทียบ
วรองคจงแต่ง ดุจเราวัจนา
คือมหิทธิมหา กิจราชพิธีฯ
อุปลักษณ์ คือ คำที่ใช้คำเชื่อมคำว่า คือ
พักตร์แพรพรรณพราย คือว่าม่านอันอลง
กฎกั้นแลบบรรจง สัตย์ชั้นก็อย่าคลา
สัทพจน์ คือเสียงเลียนแบบธรรมชาติ
คลื่นคลุ้มคลุ้มทั้งมุจลินท์ ฉ่าฉ่าเสียงสินธุ์
ระลอกกระฉอกชลธี
บุคคลวัต คือ สิ่งที่แสดงกริยาอาการที่แสดงให้เห็น
คล้าเคล้าแลคลิ้งโครง กระโตรงตรุมกระลุมภู
กระไตรตระในตรู ตระบัดสัตว์หื่นหรรษ์
รสในวรรณคดี
เสาวรจนีย์ คือ ชมโฉมนางจันทร
แท่นทองเรืองรองรจนา แก้วเก้าอาภา
พิจิตรจันทรพิมาน
ม่านแพรแพร้วพิดาน ดัดดาษดวงมาลย์
อันพรายด้วยรัตนมณี
นารีปราโมทย์ คือ ท้าวยศภูมิเกี้ยวพาราสีนางจันทร
แม้มิได้เชยชมสมหมายจะสู้ ชีวาอาสัญ
เหมือนขวัญเนตรน้องต้องจิตใจ
พิโรธวาทัง คือตอนที่หลวิชัยโกรธและคิดจะฆ่าแม่เสือ
เราเร่งรุมฆ่า ให้มันก้มหน้า ตายตามบัดดล
อย่าไว้ชีวิตร มันนี้นิศผล น้องช่วยกูชน ขวิดท้องให้ตาย
สัลลาปังคพิสัย คือตอนที่หลวิชัยคิดว่าคาวีตายแล้ว
เจ้ามาสูญหาย วายชีพเดียวดาย บรู้อาการ
ตายอยู่คนเดียว ดุจคนสามัญ ให้พี่เลวลาญ อกเปล่าอาดูร
อกพี่จะคราก โอ้อ้าลำบาก ด้วยเจ้ามาสูญ
ใจแก่พี่ได้ ให้พี่เร่งภูล ทุกขามามูล เพียงสิ้นสุดปราณ
สารัตถะ เรื่อง เสือโคคำฉันท์
ด้านความเชื่อ
เกี่ยวกับการเสี่ยงทายดอกบัว
บัวดอกหึ่งไซ้ พี่จักเอาไว้ โดยดังใจหวัง
ถ้าเจ้ามีทุกข์ ขุ่นข้องเคืองขัง เหี่ยวแห้งหายรัง รศเร้าอับอาบ
ถ้าเจ้าเสวยสวัสดิ์ จงดอกบัวปัทม์ สดอยู่อย่าคลาย กลิ่นเกลี้ยงเสาวคนธ์ นฤมลเปรมปราย ดอกหนึ่งเจ้าหมาย รู้ข่าวพี่ยา
ด้านพิธีกรรม
เกี่ยวกับพิธีสรงน้ำมุรธา
ระบับระบิน ระบอกภูมินทร์ ย่อมราชครู
ทำสงครามมา ภิเศกดนู ดไนยโดยบู ราณราชวิธี
การใหญ่ยกไว้ ขอทำตามได้ สังเขปโดยมี
แต่อย่าให้เสีย ราชประเพณี ขึ้นเกยไชยศรี มุรธาสรงสนาน
พิธีสยมพร
ป่างนั้นท่านไท้ทรงนาม ธิเบศร์ชาญสนาม
มคธราชภูธร
ก่อการพิธีสยมพร ธิดาดวงสมร
พหลราชกุมาร
สรุปเรื่อง เสือโคคำฉันท์
เสือโคคำฉันท์เป็นเรื่องเกี่ยวกับลูกเสือและลูกโค ซึ่งพระมหาราชครูเป็นผู้แต่ง นำฉันท์ กาพย์ฉบังและกาพย์สุรางคนางค์มาแต่งเป็นประเภทฉันท์ เป็นเรื่องแรกในประวัติวรรคดีไทยมีเนื้อหา กล่าวถึงลูกเสือและลูกโคสาบานเป็นพี่น้องกันอยู่กับแม่เสือและแม่โคเมื่อแม่โคตายลูกเสือและลูกโคก็ได้ฆ่าแม่เสือให้ตายตาม หลังจากนั้นก็ออกเดินทาง แล้วไปเจอฤาษีก็ได้ชุบตัวเป็นมนุษย์คือหลวิชัยและคาวีซึ่งภายหลังหลวิชัยได้กับนางสุรสุดาส่วนคาวีก็ได้กับนางจันทรและได้ฆ่าท้าวยศภูมิเพราะไปหลงรักนางจันทรโดยลวงว่าจะชุบตัวและฆ่าให้เป็น คาวีจึงปกครองเมืองอย่ามีความสุข เสือโคคำฉันท์เป็นหนังสือประเภทฉันท์เรื่องแรกที่จบสมบูรณ์ ชนิดของฉันท์ที่ใช้แต่งไม่มีมากและโคลงไม่เคร่งครัดตามแผนบังคับ นอกจากนี้มีกาพย์ชนิดต่าง ๆ แต่งอยู่ด้วย ถ้อยคำสำนวนเข้าใจง่าย เรื่องนี้ได้ต้นเค้ามาจากปัญญาสชาดก
|