ผลต่างระหว่างรุ่นของ "หมาจิ้งจอกอาร์กติก"

หมาจิ้งจอกขั้วโลกอาร์กติกจัดว่าเป็นสัตว์ที่สามารถปรับสภาพให้ดำรงอยู่ในสภาพอากาศที่หนาวจัดได้ดีชนิดหนึ่ง มีระบบการปรับอุณหภูมิ ที่สามารถควบคุมความร้อนในร่างกายได้ หมาจิ้งจอกขั้วโลกนี้อาร์กติกจะมีใบหน้าทีสั้นกว่าจิ้งจอกชนิดอื่น และมีใบหูที่เล็ก ขนของมันฟูหนา เพื่อป้องกันการสูญเสียความร้อน มันจะมีขนอยู่บริเวณอุ้งเท้าเพื่อช่วยให้เดิน และวิ่งบนพื้นน้ำแข็งได้ในช่วงที่หิมะตกหนัก หรือเกิด[[พายุ]] หมาจิ้งจอกขั้วโลกอาร์กติกจะขุดโพรงลึกลงไปใต้หิมะ และขดตัวนอนโดยใช้หางของมันตวัดมาปิดตัวและหน้าไว้คล้ายคนห่มผ้าห่ม และเมื่อ[[ฤดูหนาว]]หมดลง หิมะเริ่มละลาย ต้นไม้เริ่มผลิใบอ่อน หมาจิ้งจอกขั้วโลกอาร์กติกเองก็มีการเปลี่ยนแปลง ขนสีขาวของมันจะร่วงลง และมีขน[[สีเทา]]อม[[สีน้ำตาล|น้ำตาล]]ขึ้นแทนและจะสั้นกว่าขนในฤดูหนาว ทำให้ตัวมันดูเล็กลง และมีขนาดเท่า[[แมวบ้าน]]เท่านั้น ใน[[ขั้วโลกเหนือ]][[ฤดูร้อน]]นั้นสั้นมาก และเมื่อฤดูหนาวกลับมา จิ้งจอกขั้วโลกก็จะเปลี่ยนสีขนกลับไปเป็นขนสีขาวอีกครั้ง เป็นการบอกให้รู้ว่า การต่อสู้กับความหนาวเย็นกำลังจะเริ่มต้นอีกครั้ง

ใน[[ฤดูใบไม้ผลิ]] ช่วงต้นเดือน[[กันยายน]]จนถึง[[พฤษภาคม]] ใช้เวลาตั้งท้องประมาณ 52 วัน แม่หมาจะให้กำเนิดลูก โดยครอกหนึ่งจะมีประมาณ 6-7 ตัว ลูกหมาจะเติบโตอย่างรวดเร็วเพื่อให้ทันก่อนฤดูหนาวจะมาถึง ในช่วงเวลานี้พวกมันจะกินอาหารเป็นจำนวนมาก เพื่อเตรียมรับมือกับฤดูหนาวที่จะมาถึง หมาจิ้งจอกขั้วโลกจะเก็บอาหารไว้สำหรับฤดูหนาว เช่น ฝังซาก[[หนูเลมมิ่ง]]ไว้ใต้หิมะ, เก็บ[[ไข่]]ไว้ในโพรงหิน หมา บางตัวจะเก็บนกเล็ก ๆ ไว้ถึง 27 ตัว และไข่อีก 40 ฟอง สำหรับฤดูหนาว ลูกหมาอาจจะยังอาศัยอยู่กะพ่อแม่ในช่วงแรกจนขนบริเวณอุ้งเท้ามันหนาขึ้นเพื่อช่วยให้เดิน และวิ่งบนพื้นน้ำแข็งได้ในช่วงที่หิมะตกหนัก

ในช่วงที่อากาศดี หมาจิ้งจอกขั้วโลกอาร์กติกจะออกมาหาอาหาร ตามปกติมันจะล่าสัตว์เล็ก ๆ เช่น หนูเลมมิ่ง, [[นกกระทาขั้วโลก]] บางครั้งถ้าโชคดี ก็จะเจอซากสัตว์ที่[[หมีขั้วโลก]]กินเหลือทิ้งไว้ ก็จะกินซากนั้น<ref>''Survival: Tales from the Wild'', สารคดีทาง True Explore 1. ทางทรูวิชั่นส์: เสาร์ที่ 12 มกราคม 2556</ref><ref>[http://www.naturalworlds.org/wolf/canids/Alopex_lagopus.htm ''Alopex lagopus'' - Arctic Fox]</ref>