ผลต่างระหว่างรุ่นของ "กระดาษชำระ"

เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
ZéroBot (คุย | ส่วนร่วม)
r2.7.1) (โรบอต เพิ่ม: ta:கழிவறை துடைத்தாள்
ลบอ้างอิง wp เยอะโคตร
บรรทัด 14:
* ชาวเมดิเตอร์เรเนียนใช้มือซ้าย และคาดว่าชาวอาหรับก็เช่นกัน ดังจะสังเกตได้ว่าชาวอาหรับเชื่อว่ามือซ้ายเป็นมือข้างที่สกปรก และชาวยุโรปไม่นิยมจับมือทักทายด้วยมือซ้าย
* ชาวเอสกิโมใช้หิมะ
* ชาวเยอรมันใช้ใบไม้ หรือเปลือกไม้<ref name="http://simple.wikipedia.org/wiki/Toilet_paper">http://simple.wikipedia.org/wiki/Toilet_paper</ref>{{อ้างอิง}}
* ในยุคกลาง คนทั่วไปใช้ใบไม้แห้ง ขณะที่ผู้มีฐานะใช้ขนแกะ<ref name="http://simple.wikipedia.org/wiki/Toilet_paper">http://simple.wikipedia.org/wiki/Toilet_paper</ref>{{อ้างอิง}}
* ชาวอเมริกันยุคบุกเบิกใช้ซังข้าวโพด หรือ กระดาษหนังสือพิมพ์
 
บรรทัด 22:
มีหลักฐานทางประวัติศาสตร์ที่น่าเชื่อถือได้บันทึกไว้ว่า ชนชาติแรกที่นำกระดาษมาใช้เพื่อการนี้ ได้แก่ ชาวจีน มีหลักฐานว่าชาวจีนมีการใช้กระดาษเพื่อเป็นบรรจุภัณฑ์ตั้งแต่ราว 200 ปีก่อนคริสตกาล และได้นำกระดาษมาเป็นกระดาษชำระราว คริสต์ศตวรรษที่ 600<ref name="needham volume 4 part 1 122-123">Needham, Volume 5, Part 1, 122-123</ref> ว่ากันว่า บุคคลที่มีดำริให้มีการใช้กระดาษชำระนี้ ได้แก่ องค์จักรพรรดิ<ref name="http://nobodys-perfect.com/vtpm/ExhibitHall/Informational/tphistory.html">http://nobodys-perfect.com/vtpm/ExhibitHall/Informational/tphistory.html</ref> มีหลักฐานที่บันทึกไว้ว่าในคริสต์ศตวรรษที่ 14 ยุคราชวงศ์หมิง ([[ค.ศ. 1368]] - [[ค.ศ. 1644]]) องค์จักรพรรดิจีน ได้มีรับสั่งให้มีการผลิตกระดาษชำระเพื่อใช้ภายในพระราชวัง มีขนาดกว้าง 2 ฟุต ยาว 3 ฟุต<ref name="http://nobodys-perfect.com/vtpm/ExhibitHall/Informational/tphistory.html">http://nobodys-perfect.com/vtpm/ExhibitHall/Informational/tphistory.html</ref> และมีการใช้น้ำหอมปรุงกลิ่นให้แก่กระดาษชำระเหล่านั้นอีกด้วย<ref name="needham volume 4 part 1 122-123">Needham, Volume 5, Part 1, 122-123</ref> มีบันทึกว่า ในปี [[ค.ศ. 1393]] เพียงปีเดียว มีการผลิตกระดาษชำระเพื่อใช้ในพระราชวังถึง 15,000 ชิ้น และมีการผลิตกระดาษชำระเพื่อใช้ในกรุงนานกิง (เมืองหลวงในขณะนั้น) ถึง 720,000 ชิ้น<ref name="needham volume 4 part 1 122-123">Needham, Volume 5, Part 1, 122-123</ref> โดยในยุคนั้น กระดาษชำระผลิตออกมาเป็นแผ่นเรียบธรรมดา
 
งานเขียนของ François Rabelais นักประพันธ์ชาวฝรั่งเศสในยุคศตวรรษที่ 16 ได้กล่าวไว้ในบทประพันธ์ของเขาเรื่อง ''Gargantua and Pantagruel'' เป็นหลักฐานที่ยืนยันได้ว่า ชาวยุโรปได้มีการใช้กระดาษ เพื่อทำความสะอาดภายหลังการปลดทุกข์ในยุคนั้น<ref name="http://en.wikipedia.org/wiki/Toilet_paper">http://en.wikipedia.org/wiki/Toilet_paper</ref>{{อ้างอิง}}
 
=== กระดาษชำระในปัจจุบัน ===
 
กระดาษชำระ มีการผลิตเพื่อจำหน่ายครั้งแรกในสหรัฐอเมริกา เมื่อปี ค.ศ. 1857 โดย[[โจเซฟ กาเย็ตตี้]] (Joseph C. Gayetty<ref>http://en.wikipedia.org/wiki/Joseph_Gayetty</ref>{{อ้างอิง}}) โดยใช้ชื่อตราสินค้าว่ากาเย็ตตี้ (Gayetty) พิมพ์ลงบนกระดาษชำระทุกแผ่นของบริษัทด้วย<ref name="http://nobodys-perfect.com/vtpm/ExhibitHall/Informational/tphistory.html">http://nobodys-perfect.com/vtpm/ExhibitHall/Informational/tphistory.html</ref>
 
[[เซ็ท วีลเลอร์]] (Seth Wheeler of Albany) ผู้ก่อตั้งบริษัท อัลบานี เพอร์ฟอร์เรต แวรปปิ้ง เปเปอร์(A.F.W.) เป็นบุคคลแรกที่ได้จดสิทธิบัตรผ้าอ้อมสำเร็จรูป และกระดาษชำระ ในประเทศ[[สหรัฐอเมริกา]]<ref>Joseph Nathan Kane, "Famous First Facts: A Record of First Happenings, Discoveries and Inventions in the United States" (H. W. Wilson: 1964), p. 434; Harper's Magazine, vol. 184, 1941-1942 (Harper's Magazine Co.:1941), p. 181; Jules Heller, "Paper Making" (Watson-Guptill:1978), p. 193</ref> โดยเป็นต้นแบบของกระดาษชำระในรูปของม้วนกลมที่เราคุ้นเคย และใช้กันมากระทั่งปัจจุบันนี้
บรรทัด 32:
ปี ค.ศ. 1942 บริษัท เซนท์แอนดริว (St.Andrew Paper's Mills) ในประเทศ[[อังกฤษ]] ได้ผลิตกระดาษชำระแบบประกบแผ่นคู่ดังเช่นที่ใช้กันในปัจจุบัน<ref name="http://nobodys-perfect.com/vtpm/ExhibitHall/Informational/tphistory.html">http://nobodys-perfect.com/vtpm/ExhibitHall/Informational/tphistory.html</ref>
 
กระดาษชำระแบบเปียก ได้ออกสู่ตลาดครั้งแรกในประเทศอังกฤษ ในช่วงทศวรรษ 1990 โดยบริษัท คิมเบอร์ลี่ คล๊ากส์ และต่อมาได้นำผลิตภัณฑ์นี้แนะนำแก่ผู้บริโภคในประเทศสหรัฐอเมริกาในปี [[ค.ศ. 2001]]<ref name="http://en.wikipedia.org/wiki/Toilet_paper">http://en.wikipedia.org/wiki/Toilet_paper</ref>{{อ้างอิง}}
 
== กระดาษชำระในประเทศต่าง ๆ ==
บรรทัด 38:
=== ประเทศเยอรมนี ===
 
มีการผลิตกระดาษชำระในประเทศเยอรมนี เมื่อปีค.ศ. 1928 ในเมืองลุดวิกส์บวร์ก โดยฮานส์ เคลนก์ (Hans Klenk) ได้ก่อตั้งบริษัทผลิตกระดาษชำระภายใต้ตราสินค้า ฮาเกิล (Hakle)ในครั้งนั้นใช้กระดาษธรรมดาทำเป็นกระดาษชำระ โดยทำเป็นแผ่นขนาดมาตรฐานในม้วนกลม กระทั่งในปี ค.ศ. 1958 จึงได้มีการนำกระดาษชำระแบบอเมริกาเข้ามาผลิตและจำหน่าย ซึ่งกระดาษชำระแบบอเมริกามีความอ่อนนุ่มกว่ามาก<ref>http://www.hakle.de/about_history.asp</ref><ref name="http://de.wikipedia.org/wiki/Toilettenpapier">http://de.wikipedia.org/wiki/Toilettenpapier</ref>
 
=== ประเทศฝรั่งเศส ===
ชาวฝรั่งเศสเรียกกระดาษชำระว่า เพคู (PQ) ก่อนที่จะมีการใช้กระดาษชำระ ชาวฝรั่งเศสและชาติอื่น ๆ ในยุโรปใช้กระดาษหนังสือพิมพ์ นิตยสารเก่า หรือแผ่นพับ ใบปลิว เพื่อชำระล้างหลังการปลดทุกข์ กระดาษชำระได้ถูกนำมาใช้ครั้งแรกตั้งแต่ช่วงต้นของศตวรรษที่ 20 โดยในระยะแรกเป็นเครื่องใช้ที่แสดงความโอ่อ่าของผู้ครอบครอง จนกระทั่งในช่วงปลายทศวรรษ 1960 จึงได้มีการใช้กันอย่างแพร่หลายมากขึ้น โดยในยุคแรกกระดาษชำระในประเทศฝรั่งเศสมีลักษณะเช่นเดียวกับกระดาษชำระในประเทศเยอรมนี กระทั่งช่วงทศวรรษที่ 1980 จึงได้มีการนำกระดาษชำระแบบปัจจุบันนี้มาใช้งาน<ref name="http://fr.wikipedia.org/wiki/Papier_toilette">http://fr.wikipedia.org/wiki/Papier_toilette</ref>{{อ้างอิง}}
 
ต่อมาในประเทศฝรั่งเศส ได้มาการนำบิเด่ท์ (Bidet) หรือโถปัสสาวะสำหรับสุภาพสตรีมาใช้ เป็นเหตุให้มีการเปลี่ยนพฤติกรรมของสุภาพสตรีในการใช้กระดาษชำระ<ref name="http://fr.wikipedia.org/wiki/Papier_toilette">http://fr.wikipedia.org/wiki/Papier_toilette</ref>{{อ้างอิง}}
 
=== ประเทศญี่ปุ่น ===
ในปี ค.ศ. 1999 ประเทศญี่ปุ่นได้ออกแบบสุขภัณฑ์ที่ไม่ต้องใช้กระดาษชำระ โดยออกแบบระบบการฉีดชำระ และเป่าแห้งในตัว ออกมาเป็นครั้งแรก<ref name="http://nl.wikipedia.org/wiki/Toiletpapier">http://nl.wikipedia.org/wiki/Toiletpapier</ref>{{อ้างอิง}}
 
ข้อมูล ณ ปี ค.ศ. 1998 ชาวญี่ปุ่นใช้กระดาษชำระเฉลี่ยคนละ 55 ม้วนต่อปี และยังมีอัตราการใช้กระดาษชำระที่สูงขึ้นต่อเนื่องถึงร้อยละ 10 - 14 ต่อปีทีเดียว<ref>มาวัดความยาวกระดาษทิชชูกัน. นิตยสารฉลาดซื้อ ฉบับที่ 97 ประจำเดือนมีนาคม 2552</ref>
บรรทัด 87:
* [[สหรัฐอเมริกา]] เป็นประเทศผู้ผลิตกระดาษชำระรายใหญ่ที่สุดของโลก และเป็นประเทศที่มีการใช้กระดาษชำระมากที่สุดในโลกเช่นกัน โดยเฉลี่ยชาวอเมริกา 1 คนใช้กระดาษชำระวันละ 57 แผ่น หรือประมาณปีละ 20,805 แผ่น<ref>http://abcnews.go.com/Entertainment/story?id=93597&page=1</ref>
* พิพิธภัณฑ์กระดาษชำระ เปิดให้เข้าชมได้ครั้งแรกในปี [[ค.ศ. 1999]]<ref name="http://nobodys-perfect.com/vtpm/">http://nobodys-perfect.com/vtpm/</ref>
* ในปี ค.ศ. 1973 เกิดเหตุการณ์กระดาษชำระขาดตลาดทั่วประเทศ[[สหรัฐอเมริกา]] เป็นเวลานานถึง 3 สัปดาห์<ref name="http://nobodys-perfect.com/vtpm/">http://nobodys-perfect.com/vtpm/</ref><ref name="http://nl.wikipedia.org/wiki/Toiletpapier">http://nl.wikipedia.org/wiki/Toiletpapier</ref>
* ใน[[สงครามอ่าวเปอร์เซีย]] ช่วงปี [[ค.ศ. 1990]] - [[ค.ศ. 1991]] กองทัพ[[สหรัฐอเมริกา]]พรางรถถังของกองทัพด้วยกระดาษชำระ<ref name="http://fr.wikipedia.org/wiki/Papier_toilette">http://fr.wikipedia.org/wiki/Papier_toilette</ref>{{อ้างอิง}}
* มีเรื่องเล่าขำขันว่า ในช่วงแรกที่มีการใช้กระดาษชำระในประเทศ[[รัสเซีย]]นั้น ชาวรัสเซียใช้กระดาษชำระเพื่อทำความสะอาดมือ ภายหลังจากที่ใช้มือทำความสะอาดก้นของตนเอง<ref name="http://nl.wikipedia.org/wiki/Toiletpapier">http://nl.wikipedia.org/wiki/Toiletpapier</ref>{{อ้างอิง}}
* กระดาษชำระ เป็นตัวชี้วัดตัวหนึ่งในปัจจัยหลาย ๆ ตัวที่ใช้ในการวัดระดับมาตรฐานโรงแรมไทย<ref>http://www.kohtaotoday.com/standard_hotel.html</ref>
* ในประเทศไทย [[มาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม]]หรือ มอก.ที่กำหนดเอาไว้ว่า สินค้าประเภทกระดาษชำระนั้นต้องมีความยาวไม่ต่ำว่า 31 เมตรต่อม้วน แต่ไม่มีผู้ผลิตกระดาษชำระรายใดที่ผ่านเกณฑ์มาตรฐานของกระดาษชำระ เราจึงไม่เห็นสัญลักษณ์ มอก.แปะอยู่ที่สินค้ายี่ห้อใดเลย<ref>http://www.womaninfocus.com/webboard/index.php?topic=468.0</ref>
* ประเทศในแถบ[[เอเชียตะวันออกเฉียงใต้]] รวมถึงประเทศไทย นิยมใช้น้ำในการชำระล้าง มากกว่าการใช้กระดาษชำระ<ref name="http://fr.wikipedia.org/wiki/Papier_toilette">http://fr.wikipedia.org/wiki/Papier_toilette</ref><ref name="จักรพันธุ์1">จักรพันธุ์ กังวาฬ , [http://www.sarakadee.com/web/modules.php?name=Sections&op=viewarticle&artid=629 ส้วม (ร่วมสมัย)...ใครคิดว่าไม่สำคัญ (1)]</ref>
 
== อ้างอิง ==