ผลต่างระหว่างรุ่นของ "ขั้นตอนวิธีเชิงพันธุกรรม"
เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
ล ใส่ลิงก์ข้ามภาษาด้วยบอต |
|||
บรรทัด 24:
== ที่มา ==
ส่วนที่ถูกค้นพบมาในช่วงแรกสุดของสื่งที่เราเรียกในทุกวันนี้ว่าขั้นตอนวิธีเชิงพันธุกรรม<ref>{{cite web|last=Marczyk|first=Adam|title=Genetic Algorithms and Evolutionary Computation|url=http://www.talkorigins.org/faqs/genalg/genalg.html|format=HTML|year=2011}} </ref> นั้นเกิดในช่วงปลายปี 1950 เขียนโดยนักชีววิทยาด้านการวิวัฒนาการโดยที่ต้องการหารูปแบบของการวิวัฒนาการตามธรรมชาติ แต่มันก็ไม่ได้ถูกมองว่าสามารถนำไปใช้สำหรับการแก้ปัญหาในด้านอื่นๆได้ แต่ก็ไม่นานนักในปี 1962 นักวิจัยเช่น G.E.P. Box, G.J. Friedman, W.W. Bledsoe และ H.J. Bremermann ทั้งหมดได้ทำการพัฒนา[[ขั้นตอนวิธี]] ต่างๆ ในการการเพิ่มประสิทธิภาพของฟังชั่น และ ปัญหา[[การเรียนรู้ของเครื่อง]]เช่นเดียวกัน แต่งานวิจัยของพวกเค้าก็ได้รับการติดตามที่น้อย งานวิจัยที่ประสบความสำเร็จกว่าคืองานวิจัยในปี 1965 เมื่อ Ingo Rechenberg นำเสนอเทคนิคที่เค้าเรียกว่า[[:en:evolution strategy|กลยุทธ์การวิวัฒนาการ]]ถึงแม้ว่ามันจะคล้ายกับ[[ขั้นตอนวิธีของนักปีนเขา]]มากกว่าวิธีเชิงพันธุกรรมก็ตาม โดยจะคล้ายคลึงกันแต่จะไม่มีการพลิตจำนวนประชากรออกมามากๆและไม่มี[[การไขว้เปลี่ยน]] (cross over) โดยที่รุ่นบรรพบุรุษจะทำ[[การกลาย
== หลักการออกแบบขั้นตอนวิธี ==
ขั้นตอนวิธีเชิงพันธุกรรมนั้นจะเป็นการปรับเปลี่ยนยีนของโครโมโซมนั้นไปสู่ยีนของโครโมโซมที่ดีกว่าเดิม โดยหลักการทำงานนั้นเริ่มต้นมักจะเป็นการสุ่มยีนแต่ละตัวออกมาเป็นโครโมโซมเริ่มต้นในแต่ละรุ่นและจะทำการตรวจสอบค่าคุณภาพของโครโมโซมแต่ละตัวและทำการคัดเลือกตัวที่เหมาะสมออกมาโดยใช้ค่า[[ความเหมาะสม]] (fitness) และทำให้เกิด[[การกลาย
โดยขั้นตอนวิธีเชิงพันธุกรรมนั้นจำเป็นต้องมี
# [[วิธีการแทนค่ายีนของผลลัพธ์]] (genetic representation)
บรรทัด 41:
=== การผลิตรุ่นถัดไป ===
หลังจากการตัดเลือกยีนที่มีความเหมาะสมแล้วเราจะใช้ยีนเหล่านั้นในการสร้างยีนรุ่นถัดไป โดยจะใช้วิธีการทำให้เกิด[[การกลาย
=== การจบการทำงาน ===
|