ผลต่างระหว่างรุ่นของ "ตัวระบุวัตถุดิจิทัล"

เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
Petchara (คุย | ส่วนร่วม)
ป้ายระบุ: ผู้ใช้ใหม่เพิ่มลิงก์ไปยังเว็บอื่น
Octahedron80 (คุย | ส่วนร่วม)
ไม่เป็นสารานุกรมและลอกมา
บรรทัด 25:
{{รายการอ้างอิง|2}}
* [http://www.doi.org/factsheets/DOIIdentifierSpecs.html Factsheet: DOI System and Internet Identifier Specifications]
 
===สำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ (วช.) กับ การดำเนินการเรื่อง รหัสทรัพยากรสารสนเทศดิจิทัล (Digital Object Identifier -DOI)===
 
=====หัวข้อ=====
# รหัสทรัพยากรสารสนเทศดิจิทัล หรือ รหัส DOI คืออะไร
# ประโยชน์ของ รหัส DOI
# รูปแบบการบริหารจัดการระบบรหัส DOI ตามหลักมาตรฐานสากล
#การดำเนินการของ วช.
 
==รหัสทรัพยากรสารสนเทศดิจิทัล หรือรหัส DOI คืออะไร==
รหัสทรัพยากรสารสนเทศดิจิทัล หรือ Digital Object Identifier (DOI) คือ มาตรฐานสากลประจำทรัพยากรสารสนเทศดิจิทัล เป็นมาตรฐานใหม่ของ ISO 26324:2012 (Information and Documentation) ในการระบุตัวบ่งชี้ของทรัพยากรสารสนเทศดิจิทัลหรือทรัพยากรสารสนเทศอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งเป็นข้อมูลการจัดเก็บและการอ้างถึง ทั้งข้อมูลที่เป็นไฟล์ดิจิทัลและวัตถุอื่น ปัจจุบันมีการให้รหัส DOI กับทรัพยากรสารสนเทศดิจิทัลทั่วโลกจำนวนมากกว่า 60 ล้านรายการ
 
ตัวอย่างรูปแบบ รหัส DOI
 
Use of organic fertilizer on paddy fields to reduce greenhouse gases
Pantawat Sampanpanish
ScienceAsia 38 (2012): 323-330 |doi: 10.2306/scienceasia1513-1874.2012.38.323
[Abstract] [PDF]
 
Accumulation pattern of heavy metals in marine organisms collected from a coal burning power plant area of Malacca Strait
Lubna Alam, Che Abd. Rahim Mohamed, Mazlin Bin Mokhtar
ScienceAsia 38 (2012): 331-339 |doi: 10.2306/scienceasia1513-1874.2012.38.331
[Abstract] [PDF]
 
การกำหนดรหัส DOI ให้กับทรัพยากรสารสนเทศดิจิทัลจึงเท่ากับเป็นการตั้งชื่อ หรือรหัส หรือเลขประจำตัวของทรัพยากรสารสนเทศดิจิทัล ซึ่งมีลักษณะคล้ายกับการกำหนดเลขมาตรฐานสากลประจำหนังสือ (International Standard Book Number –ISBN) และเลขมาตรฐานสากลประจำวารสาร (International Standard Serial Number – ISSN) แต่มีความซับซ้อนและก่อให้เกิดประโยชน์สูงกว่าด้วยเทคโนโลยีในการจัดการข้อมูล รหัส DOI ช่วยให้การค้นหาและเชื่อมโยงการเข้าถึงสารสนเทศดิจิทัลได้สะดวก ถึงแม้ว่าจะมีการเปลี่ยนที่อยู่ของเว็บไซต์ หรือ URL ก็ตาม
 
==ประโยชน์ของ DOI==
 
* เป็นการส่งเสริมการกำหนดนโยบายด้านทรัพย์สินทางปัญญาขององค์กร องค์กรสามารถกำหนดเป็นนโยบายในการให้รหัส DOI กับทรัพยากรสารสนเทศดิจิทัลที่เป็นทรัพย์สินทางปัญญาที่มีคุณค่าของแต่ละองค์กร โดยกำหนดประเภทของทรัพยากรสารสนเทศดิจิทัลที่ต้องการจัดเก็บไว้เพื่อใช้ประโยชน์ในระยะยาว เช่น หนังสืออิเล็กทรอนิกส์ วารสารอิเล็กทรอนิกส์ รายงานการวิจัย รายงานประจำปี บทความและเอกสารที่เกี่ยวข้อง
 
* เป็นการส่งเสริมการพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ สำนักพิมพ์สามารถซื้อขายทรัพยากรสารสนเทศดิจิทัลตามมาตรฐานสากลในการเชื่อมโยงข้อมูล (Interoperability) ซึ่งมีความเกี่ยวข้องกับลิขสิทธิ์การเป็นเจ้าของทรัพยากรสารสนเทศนั้น รหัส DOI จึงเป็นเครื่องมือสำคัญทั้งของสำนักพิมพ์และผู้เป็นเจ้าของทรัพยากรสารสนเทศดิจิทัลในการทำการค้าด้วยระบบออนไลน์
 
* เป็นการส่งเสริมการปกป้องลิขสิทธิ์และป้องกันการโจรกรรมข้อมูล การจดทะเบียน รหัส DOI เป็นเสมือนการจดทะเบียนลิขสิทธิ์ของทรัพยากรสารสนเทศดิจิทัล เนื่องจากมีการลงรายการเมทาดาตาของทรัพยากรสารสนเทศนั้น ซึ่งมีรายละเอียดของชื่อผู้แต่ง ชื่อเรื่อง สำนักพิมพ์ ปีที่จัดพิมพ์และรายละเอียดทางบรรณาณุกรมอื่นๆ ดังนั้น การที่ทรัพยากรสารสนเทศมีรหัส DOI ประจำ จึงช่วยให้เจ้าของทรัพยากรสารสนเทศดิจิทัลได้รับการคุ้มครองสิทธิความเป็นเจ้าของที่ชัดเจนยิ่งขึ้นและสามารถใช้ประโยชน์จากสิทธิความเป็นเจ้าของนั้นได้โดยสะดวก
 
* เป็นการส่งเสริมความสะดวกในการเข้าถึงข้อมูล การที่ทรัพยากรสารสนเทศมีรหัส DOI ประจำ ช่วยให้การสืบค้นข้อมูลโดยใช้รหัส DOI เข้าถึงทรัพยากรสารสนเทศนั้นๆได้โดยตรง ไม่ว่าจะเป็นหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ชื่อเรื่องใด บทความเรื่องใดในวารสารใด รายงานการวิจัยเรื่องใด หรือบทความเรื่องใด โดยไม่ต้องผ่านหน้าเว็บไซต์หลายหน้า
 
* เป็นการส่งเสริมมาตรฐานเปิด (Open Standard) การใช้มาตรฐานเปิดเพื่อการอ้างถึงสารสนเทศตามมาตรฐานสากลในกรณีการจดทะเบียนรหัส DOI ช่วยอำนวยความสะดวกแก่ผู้ใช้ในการเขียนรายการบรรณานุกรมและการอ้างถึงทรัพยากรสารสนเทศดิจิทัลตามหลักสากล ซึ่งทำให้ทราบประเภทและจำนวนของทรัพยากรสารสนเทศดิจิทัลในแต่ละสาขาและการเชื่อมโยงข้อมูลของทรัพยากรสารสนเทศที่มีความคล้ายคลึงกัน
 
''กล่าวโดยสรุปคือ รหัส DOI เป็นเครื่องแสดงเอกลักษณ์ (uniqueness) ของทรัพยากรสารสนเทศดิจิทัลแต่ละรายการ มีการจัดการระบบโดยใช้ handle resolution มีการใช้งานร่วมกัน (interoperability) และก่อให้เกิดความคงที่ของข้อมูล (persistence) ดังนั้น การกำหนดรหัส DOI ประจำทรัพยากรสารสนเทศดิจิทัล จึงทำให้เกิดความสะดวกในการค้นหา การสร้างระบบเชื่อมโยงไฟล์ดิจิทัล การทำ transaction ทางธุรกิจ การจัดเก็บและการเผยแพร่ไฟล์ดิจิทัลระยะยาวโดยไม่เสียเวลาในการเปลี่ยนที่จัดเก็บ (location)เมื่อมีการย้ายไฟล์ไปไว้ที่อื่น และให้ความสะดวกในการรวบรวมทรัพยากรสารสนเทศดิจิทัลเพื่อประโยชน์ทางวิชาการและการวิจัย''
 
==รูปแบบการบริหารจัดการระบบรหัส DOI ตามหลักมาตรฐานสากล==
 
ระบบรหัส DOI จัดแบ่งการบริหารงานเป็น 3 ส่วน ที่มีอิสระต่อกัน ในลักษณะของ franchise การบริหารงาน
 
* ส่วนแรกเป็นองค์กรหลักคือ International DOI Foundation หรือ IDF เป็นองค์กรไม่แสวงหากำไรมีวัตถุประสงค์ ในการสนับสนุนความต้องการใช้ประโยชน์จากทรัพย์สินทางปัญญาที่เป็นทรัพยากรสารสนเทศดิจิทัล และส่งเสริมให้ระบบ DOI เป็นโครงสร้างสำคัญในการจัดการเนื้อหาของทรัพยากรสารสนเทศดิจิทัลดังกล่าว
 
*ส่วนที่สอง คือองค์กรรับจดทะเบียน (Registration Agency หรือ RA) เนื่องจากความต้องการใช้รหัส DOI มีการขยายตัวมากขึ้น IDF จึงเปิดโอกาสให้มีองค์กรรับจดทะเบียน เป็นสมาชิกของ IDF ทำหน้าที่ให้ Prefix ของรหัส DOI , ลงทะเบียนรหัสชื่อ DOI โดยใช้ระบบ DOI และกำหนดโครงสร้างข้อมูลที่อธิบายเมทาดาตาและข้อมูลที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งทำหน้าที่บริการข้อมูลแก่ผู้จดทะเบียนที่เป็นสมาชิก (Registrants) ตัวอย่างของ RA ได้แก่ CrossRef (53,809,024 DOI) ก่อตั้งที่สหรัฐอเมริกา เมื่อ พ.ศ.2543 มีสมาชิกส่วนใหญ่เป็นสำนักพิมพ์มากกว่า 3,500 แห่ง รับจดทะเบียนทรัพยากรสารสนเทศดิจิทัลบทความวารสาร หนังสือ แต่ละบทของหนังสือ และเอกสารประกอบการสัมมนา, ISTIC (1,798,683 DOI) ก่อตั้งเมื่อ พ.ศ.2553 รับจดทะเบียนทรัพยากรสารสนเทศดิจิทัลของประเทศจีน มีจำนวนวิทยานิพนธ์ปริญญาโทและปริญญาเอกประมาณ 1.5 ล้านรายการ และมีจำนวนรายงานการประชุมสัมมนาภาษาต่างประเทศมากกว่า 100,000 รายการ, DataCite (1,311,730 DOI) ก่อตั้งเมื่อ พ.ศ.2552 เพื่อสนับสนุนการใช้รหัส DOI กับงานวิจัยและงานวิชาการระดับอุดมศึกษา สำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ที่ The German National Library of Science and Technology (TIB) ประเทศเยอรมนี ฯลฯ และ
 
* ส่วนที่สาม คือสมาชิกของ RA ได้แก่องค์กรที่ต้องการจัดระบบทรัพยากรสารสนเทศดิจิทัลที่เกี่ยวข้องให้เป็นระบบและสามารถใช้ประโยชน์จากระบบรหัสDOI ที่ทันสมัยในการเข้าถึงและใช้ประโยชน์จากทรัพยากรสารสนเทศดิจิทัลในการให้บริการอย่างมีประสิทธิภาพ สมาชิกของ RA จะทำหน้าที่ กำหนด Suffix ของรหัส DOI ต่อจากส่วน Prefix ที่สมาชิกแต่ละองค์กรได้รับจาก RA และบริหารจัดการระบบhandle resolution ตามสัญญาที่ตกลงกับ RA
 
==การดำเนินการของ สำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ (วช.)==
 
* ขณะนี้ วช. ได้รับการตอบรับอย่างเป็นทางการให้เข้าร่วมเป็น Full Member ของ RA คือ DataCite ซึ่งสนับสนุนการใช้รหัส DOI กับงานวิจัยและงานวิชาการระดับอุดมศึกษา ในการประชุมใหญ่สามัญ ครั้งที่ 4 DataCite 4th General Assembly เมื่อวันที่ 11 ธันวาคม 2555 ณ เมืองโคโลญจน์ ประเทศเยอรมนี
 
* การเป็นสมาชิกระดับ Full Member ดังกล่าว ทำให้ วช. เป็นผู้ดำเนินการกำหนดรหัส DOI ตามหลักมาตรฐานสากลสำหรับงานวิจัยและงานวิชาการในประเทศไทยได้เต็มรูปแบบ กล่าวคือ เมื่อ วช.ได้รับเลข Prefix ของรหัส DOI จาก DataCite เช่น 10.2000 วช.สามารถกำหนด Suffix ของรหัส DOI ให้กับทรัพยากรสารสนเทศดิจิทัลด้านการวิจัยต่างๆได้ เช่น
 
* ''งานวิจัยที่ วช.สนับสนุนทุน DOI 10.2000/nrct.res2012_01''
* ''วารสารอิเล็กทรอนิกส์ของ วช. DOI 10.2000/nrct.0028.0011.2010v42n01_01''
* '' เอกสารการประชุมวิชาการของ วช. DOI 10.2000/nrct.proc2011_03''
* ''วารสารวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาฯ DOI 10.2000cu.1906.3636.2011v03n02_02''
* ''วารสารวิจัย มข. DOI 10.2000/kku.0859.3957.2012v04n01_04 เป็นต้น''
 
====ส่วนอ้างอิง====
* http://www.datacite.org
* เอกสารประกอบการฝึกอบรมหลักสูตร Digital Object Identifier (DOI) จัดโดย สำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ
 
== แหล่งข้อมูลอื่น ==