ผลต่างระหว่างรุ่นของ "หยาง มี่"

เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
ZéroBot (คุย | ส่วนร่วม)
r2.7.1) (โรบอต เพิ่ม: ru:Ян Ми ลบ: it:Yang Mi
Nullzerobot (คุย | ส่วนร่วม)
โรบอต: แทนที่คำ
บรรทัด 43:
* สีโปรด : เขียว ชมพู ขาว ดำ
เข้าสู่วงการตั้งแต่อายุ 4 ขวบ แสดงเป็นลูกสาวของโจวซิงฉือ พระเอกจอมฮาในภาพยนตร์เรื่องยาจกซู King of Beggars (ปี 2535)
เมื่อโตขึ้น ตั้งใจเป็นดารา จึงเข้าเรียนที่สถาบันภาพยนตร์ เริ่มมีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักจากบท ก๊วยเซียง ในละครเรื่อง มังกรหยก ตอน ศึกเทพอินทรี เวอร์ชั่นเวอร์ชันที่หวงเสี่ยวหมิงกับหลิวอี้เฟย เป็นเอี้ยก้วย-เซียว เหล่งนึ่ง (ปี 2549) และดังขึ้นอีกเมื่อรับบทนางเอกในเซียนกระบี่พิชิตมาร หรือ Chinese Paladin 3 ปี 2552
แต่เรื่องที่ผลักดันให้ก้าวสู่ความเป็นนางเอกชั้นแนวหน้าคือเรื่อง Palace ที่ออกฉายในจีนแผ่นดินใหญ่เมื่อปีที่แล้ว เกิดกระแสโครงเรื่องสาวยุคปัจจุบันที่ทะลุมิติข้ามภพเข้าไปอยู่ในยุคราชวงศ์ชิง พบรักกับองค์ชาย ที่ได้รับความนิยมพร้อมกับเรื่อง ปู้ปู้จิงซิน หรือ Startling by Each Step ที่มีแนวเรื่องคล้ายกัน
ความโด่งดังจากเรื่องพาเลซ ทำให้หยาง มี่ได้ร่วมงานในหนังฟอร์มใหญ่ ไม่ว่า Painted Skin : The Resurrection ตามด้วยผลงานภาพยนตร์ร่วมสร้างระหว่างจีนและอเมริกัน เรื่อง Empires of the Deep ที่มีทุนสร้างถึง 100 ล้านดอลลาร์
ส่วนผลงานหนังสยองขวัญเรื่อง Mysterious Island ปี 2554 ที่ดาราสาวนำแสดง โกยรายได้อันดับต้นๆ ทำให้บริษัทเหม่ยอา เอ็นเตอร์ เทนเมนต์ วางตัวเป็นนางเอกในหนัง 4 เรื่องที่เกี่ยวโยงกัน ได้แก่ Great Wudang, Chinese Princess Turandot, Windseeker และ Butterfly Cemetery ที่มีทุนสร้างรวมกัน 300 ล้านหยวน
ในปี 2555 หยาง มี่ ยังจะเริ่มทดลองงานใหม่ในฐานะผู้อำนวยการสร้างละครทีวี โดยดึงซีรีส์อเมริกัน Gossip Girl มาสร้างเป็นเวอร์ชั่นเวอร์ชันจีน ในชื่อ Chinese Girl
กราฟชีวิตการงานที่รุ่งโรจน์ของดาราสาววัยเพียง 25 ปี ทำให้ชื่อของหยาง มี่ ติดอันดับ 100 คนดังที่ทรงอิทธิพลของจีน จากการจัดอันดับของนิตยสารฟอร์บส์ โดยปี 2554 อยู่อันดับ 92 และพุ่งพรวดเป็นอันดับ 13 ในปีนี้
มาถึงเรื่องส่วนตัวบ้าง ดาราสาวมีงานอดิเรก คือช็อปปิ้ง ถ่ายสติ๊กเกอร์ เขียนเพลง และงีบหลับ สีที่ชอบคือ เขียว ชมพู ขาว ดำ