ผลต่างระหว่างรุ่นของ "โชเซ มูรีนโย"

เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
Xqbot (คุย | ส่วนร่วม)
r2.7.3) (Robot: Modifying be-x-old:Жазэ Маўрынью to be-x-old:Жазэ Маўрыньню; ปรับแต่งให้อ่านง่าย
The kop GT (คุย | ส่วนร่วม)
บรรทัด 35:
 
=== โปร์ตู ===
ในเดือนมกราคมปีต่อมา มูรีนโยก็ต้องย้ายที่ทำงานอีกครั้งหลังผลงานการคุมทีมไปเข้าตา[[สโมสรฟุตบอลโปร์ตูปอร์โต้|โปร์ตูปอร์โต้]] ยักษ์ใหญ่อีกรายของ[[ประเทศโปรตุเกส|โปรตุเกส]]ที่ผลงานกำลังจมดิ่ง และมีทีท่าจะอดร่วมสังคายนาบอลยุโรปทุกรายการด้วยฝีมือการคุมทีมของ[[ออกตาวีอู มาชาดู]] และแล้วการตัดสินใจของโปร์ตูปอร์โต้ก็สัมฤทธิ์ผลในท้ายฤดูกาล เมื่อกุนซือสมองเพชรคนนี้โชว์ฝีมือในการคุมทีม 15 นัด ชนะ 11 เสมอ 2 และแพ้แค่ 2 นัด และให้สัญญาว่าปีหน้าจะพาทีมไปร่วมวงตะลุย[[ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก]]อีกด้วย
 
มูรีนโยจัดแจงเตรียมทีมเพื่อสู้ต่อในฤดูกาลถัดไป ทั้งนักเตะเก่าที่เขาเชื่อมั่นว่าจะเป็นกำลังสำคัญในทีมอย่าง[[วีตูร์ บาอีอา]], [[รีการ์ดู การ์วัลยู]], [[กอชตินยา]], [[เดโก้|เดโก]], [[ดมีตรี อาเลนีเชฟ]], [[เอลดีร์ ปูชตีกา]] และเรียก[[ชอร์ชี กอชตา]] กองหลังกัปตันทีมกลับมาจาก[[สโมสรฟุตบอลชาร์ลตันแอทเลติก|ชาร์ลตันแอทเลติก]] (หลังจากขัดแย้งกับ[[ออกตาวีอู มาชาดู|มาชาดู]]) จากนั้นนักเตะหน้าใหม่ก็ทยอยเดินเข้าสู่ทีม ทั้ง[[นูนู วาเลงตี]], [[เดร์เลย์]] (ศิษย์เก่าจากเลรีอาทั้งสองคน), [[เปาลู ฟีร์ไรรา]] (จาก[[สโมสรฟุตบอลวีตอเรีย|วีตอเรียดีเซตูบัล]]), [[เปดรู เอมานูเอล]] (จาก[[สโมสรฟุตบอลบัววีชตา|บัววีชตา]]) และ[[เอดการัส ยันเคาส์คัส]]กับ[[มานีชี]]จากไบฟีกา
 
แล้วมูรีนโยก็ไม่ทำให้ทุกคนผิดหวัง เมื่อฤดูกาลต่อมา เขาพาทีมได้แชมป์ลีกด้วยสถิติสวยหรู ชนะ 27 นัด เสมอ 5 นัด และแพ้เพียง 2 นัด ทิ้งห่างอันดับ 2 ไบฟีกาที่เขาเดินออกมาเมื่อ 2 ปีก่อนไม่เห็นฝุ่นถึง 11 แต้ม โดยแต้มรวม 86 แต้มยังเป็นสถิติใหม่ของลีกอีกด้วย นับตั้งแต่เปลี่ยนการให้คะแนนทีมชนะเป็น 3 คะแนน เฉือนของเก่าที่โปร์ตูปอร์โต้ทำไว้เองไปคะแนนเดียว ไม่เท่านั้น แชมป์โปรตุเกสคัพก็ตกเป็นของมูรีนโยและเหล่าลูกทีม เมื่อเอาชนะทีมเก่าเลรีอาในนัดชิงไปหวุดหวิด 1-0 กลายเป็นดับเบิลแชมป์ในประเทศ แต่เขาและลูกทีมโปร์ตูยังไม่พอใจแค่นั้น หลังจากได้แชมป์ที่สองไม่นาน แชมป์ที่สามก็ตามมาในไม่กี่วัน เมื่อโปร์ตูสามารถยัดเยียดความปราชัยให้ยอดทีมจาก[[สกอตแลนด์]]อย่าง[[สโมสรฟุตบอลเซลติก|เซลติก]]ในนัดชิง[[ยูฟ่าคัพ]]ที่เมือง[[เซบียา]] [[ประเทศสเปน]] สร้างประวัติศาสตร์คว้า[[ทริปเปิลแชมป์]]มาครองในปีแรกที่เข้ามาทำหน้าที่อย่างเต็มฤดูกาล พร้อมทั้งได้สิทธิ์ไปยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก
 
ฤดูกาลถัดมา โปร์ตูของมูรีนโยยังคงเล่นได้ดีและคว้าแชมป์ลีกไปครองเป็นสมัยที่สองติดต่อกัน โดยพวกเขาได้แชมป์ไปตั้งแต่ 5 สัปดาห์ก่อนปิดฤดูกาล แม้ทีมต้องลงแข่งหลายรายการ รวมทั้ง[[ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก]]ด้วย โปร์ตูก็ยังคงฝ่าฟันมาจนถึงรอบชิงชนะเลิศ[[โปรตุเกสคัพ]]ได้สำเร็จ ครั้งนี้พวกเขาพ่ายให้กับ[[สปอร์ลิชบัวอีไบฟีกา|ไบฟีกา]]ไป แต่สองสัปดาห์ถัดมา พวกเขาก็สร้างประวัติศาสตร์คว้ารางวัลอันล้ำค่ามาครองได้ที่[[อาเรนาเอาฟ์ชัลเคอ]]ในเมือง[[เกลเซนเคียร์เคิน]] [[ประเทศเยอรมนี]] โทรฟีที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในยุโรปตกเป็นของพวกเขาหลังฝ่าด่านโหดมากมายทั้ง[[แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด]], [[ออแลงปีกลียอเน|โอลิมปิกลียง]], [[เดปอร์ตีโบเดลาโกรูญา|ลาโกรูญา]] และ[[สโมสรฟุตบอลอาแอสโมนาโก|โมนาโก]] ในนัดชิง 3-0 โดยแพ้เพียงนัดเดียวให้กับ[[เรอัลมาดริด]]ในรอบแบ่งกลุ่ม เป็นแชมป์ที่ 5 และแชมป์ส่งท้ายของเขากับโปร์ตู