ผลต่างระหว่างรุ่นของ "พรานบูรพ์"

เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
Tiemianwusi (คุย | ส่วนร่วม)
ไม่มีความย่อการแก้ไข
ไม่มีความย่อการแก้ไข
บรรทัด 3:
{{ต้องการอ้างอิง}}
[[ไฟล์:Pranboon.jpg|thumb|222px|หุ่นแสดงของพรานบูรพ์ ที่พิพิธภัณฑ์หุ่นขี้ผึ้งไทย]]
'''พรานบูรพ์''' หรือ '''จวงจันทร์ จันทร์คณา''' ([[29 มีนาคม]] [[พ.ศ. 2444]] - [[6 มกราคม]] [[พ.ศ. 2519]]) นักแต่งเพลงไทย เป็นคนแรกผู้ปฏิรูปรูปแบบเพลงไทยประกอบละครเวที จากท่วงทำนองเพลงไทยเดิมที่มีลูกเอื้อนให้มีลักษณะสากลยิ่งขึ้น อาจกล่าวว่า พรานบูรพ์คือผู้ริเริ่มเพลงไทยสากลก็ได้ มีผลงานสร้างชื่อเสียงคือ ละครร้องเรื่อง "จันทร์เจ้าขา" และ "โรสิตา"
 
== ประวัติ ==
===วัยต้น ===
บุตรของหลวงราชสมบัติ (จันทน์) นายอำเภอเมือง และนางสร้อย เกิดเมื่อวันเสาร์ที่ 29 มีนาคม พ.ศ. 2444 ที่ อ.เมือง [[จังหวัดเพชรบุรี]]มีน้องสาวร่วมบิดา มารดา 1 คน คือ นางสังวาลย์ มณิปันตี (ถึงแก่กรรม) เนื่องจากบิดาเป็นข้าราชการ ซึ่งต้องโยกย้ายไปรับราชการตามต่างจังหวัดต่างๆ เมื่อเติบวัยที่จะเข้าศึกษาได้ บิดาได้ย้ายมาจังหวัดราชบุรี จึงได้เข้าเรียนหนังสือที่วัดสัตนาถ [[จังหวัดราชบุรี]] เรียนอยู่ได้ไม่นานบิดาก็ถึงแก่กรรม ขณะนั้นมีอายุได้ 7 ปี มารดาได้พากลับบ้านเดิมที่[[จังหวัดสุราษฎร์ธานี]]ได้เรียนหนังสือต่อจนอายุได้ 11 ปี จึงได้เข้าเรียนต่อที่[[โรงเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัย]] ระหว่างที่ศึกษาอยู่ที่โรงเรียนสวนกุหลาบนั้น นอกจากจะได้รับเลือกเข้าเล่นฟุตบอลในทีมโรงเรียนแล้ว ยังสามารถเล่นยูโด และไวโอลินได้ดีอีกด้วย เมื่อจบชั้น ม.8 จากโรงเรียนสวนกุหลาบฯ ได้เข้าศึกษาต่อที่[[คณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย]]โดยมีจุดมุ่งหมายที่จะเป็นนายอำเภอ แต่อาจารย์เห็นว่าตัวเล็กจะเป็นนายอำเภอคงไม่เหมาะ จึงย้ายคณะไปเรียนวิศวกรรมศาสตร์ เมื่อเรียนถึงปี 2 มารดาถึงแก่กรรม และไม่มีทุนเรียนต่อ จึงออกจากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
 
===วัยหนุ่ม===
เมื่อออกจากมหาวิทยาลัย กำลังเป็นระยะที่คณะละครราตรีพัฒนา เดินทางกลับจากสหรัฐอเมริกา จึงได้เริ่มชีวิตละครด้วยการบอกบทหลังหลังฉาก ขณะเดียวกันก็เขียนบทกวีในนาม "''อำแดงขำ''" เรื่องอ่านเล่นในนามปากกา "''รักร้อย''" และเริ่มแต่งบทละครเรื่อง '''"ทะแกล้วทหารสามเกลอ"''' ขึ้นเป็นเรื่องแรก ได้รับผลสำเร็จอย่างดี จนได้เป็นผู้แต่งบทละครและกำกับการแสดงเอง เริ่มใช้นามปากกา "''พรานบูรพ์''" ครั้งแรก เมื่อเขียนเรื่อง '''"เหยี่ยวทะเล"'''
 
เมื่อออกจากมหาวิทยาลัย กำลังเป็นระยะที่คณะละครราตรีพัฒนา เดินทางกลับจากสหรัฐอเมริกา จึงได้เริ่มชีวิตละครด้วยการบอกบทหลังหลังฉาก ขณะเดียวกันก็เขียนบทกวีในนาม "''อำแดงขำ''" เรื่องอ่านเล่นในนามปากกา "''รักร้อย''" และเริ่มแต่งบทละครเรื่อง '''''"ทะแกล้วทหารสามเกลอ"''''' ขึ้นเป็นเรื่องแรก ได้รับผลสำเร็จอย่างดี จนได้เป็นผู้แต่งบทละครและกำกับการแสดงเอง เริ่มใช้นามปากกา "''พรานบูรพ์''" ครั้งแรก เมื่อเขียนเรื่อง '''''"เหยี่ยวทะเล"'''''
 
[[ไฟล์:จันทโรภาส.jpg|thumb|150px|คณะละครจันทโรภาส]]
 
==นวัตกรรมในวงการละครเวที==
ริเริ่มดัดแปลงเพลงไทยเดิมที่มีลูกคู่ร้องรับ มาสู่แบบสากล โดยที่ทำนองเพลงที่ใช้กับบทละครร้องยุคนั้น มีลูกคู่ยืดยาดเกินควร จึงใส่เนื้อร้องเต็มหรือตัดให้กระชับแทนลูกคู่ใช้ดนตรีคลอ โดยใช้เครื่องดนตรีฝรั่งบรรเลงแทนเครื่องพิณพาทย์ลาดตะโพนฉับแกระ เป็นที่นิยมกันมาก เมื่อคณะละครราตรีพัฒนาระงับการแสดงเพราะเจ้าของมีภารกิจทางด้านโรงภาพยนตร์เพิ่มขึ้น จึงเข้าทำงาน น.ส.พ.ประจำกองบรรณาธิการ[[เดลิเมล์รายวัน]] เขียนเรื่องสั้น เรื่องยาว และบกพากย์การ์ตูนใน น.ส.พ.[[เดลิเมล์วันจันทร์]] ต่อมาได้จัดตั้งคณะละครชื่อ "''ศรีโอภาส''" ภายหลังเปลี่ยนชื่อเป็น '''"จันทโรภาส"''' ละครที่ได้รับความนิยมมากที่สุด คือเรื่อง '''"[[จันทร์เจ้าขา]]"''' ซึ่งถ่ายทำเป็นภาพยนตร์ เมื่อ พ.ศ. 2499 แสดงนำโดย [[เจือ จักษุรักษ์]], สายสนม นางงามเพชรบุรี , น้อย จันทร์คณา
ริเริ่มทำบทพากย์ภาพยนตร์ในยุคแรก ซึ่งเป็นการเล่าเรื่องหน้าจอให้คนฟังก่อนหนังฉาย ต่อมาเป็นการพากย์แบบ[[โขน]] ในหนัง[[อินเดีย]]เรื่อง ''[[รามเกียรติ์]]'' แล้วพัฒนาเป็นการพากย์เฉพาะเสียงแต่ละคนที่กำลังพูดพร้อมดนตรีประกอบในปัจจุบัน เริ่มจากเรื่อง ''"อาบูหะซัน"'' มี[[ทิดเขียว]] (สิน สีบุญเรือง) และคณะ เป็นผู้พากย์ เมื่อ พ.ศ.2476 <ref>โดม สุขวงศ์ ,ประวัติภาพยนตร์ไทย ,องค์การค้าคุรุสภา ,2533 ISBN:974-005-244-4</ref>
 
* '''ริเริ่มดัดแปลงเพลงไทยเดิมที่มีลูกคู่ร้องรับ มาสู่แบบสากล โดยที่ทำนองเพลงที่ใช้กับบทละครร้อง''' ยุคนั้น มีลูกคู่ยืดยาดเกินควร จึงใส่เนื้อร้องเต็มหรือตัดให้กระชับแทนลูกคู่ใช้ดนตรีคลอ โดยและใช้เครื่องดนตรีฝรั่งบรรเลงแทนเครื่องพิณพาทย์ลาดตะโพนฉับแกระ จนเป็นที่นิยมกันมาก เมื่อคณะละครราตรีพัฒนาระงับการแสดงเพราะเจ้าของมีภารกิจทางด้านโรงภาพยนตร์เพิ่มขึ้น จึงเข้าทำงาน น.ส.พ.ประจำกองบรรณาธิการ[[เดลิเมล์รายวัน]] เขียนเรื่องสั้น เรื่องยาว และบกพากย์การ์ตูนใน น.ส.พ.[[เดลิเมล์วันจันทร์]] ต่อมาได้จัดตั้งคณะละครชื่อ "''ศรีโอภาส''" ภายหลังเปลี่ยนชื่อเป็น '''"จันทโรภาส"''' ละครที่ได้รับความนิยมมากที่สุด คือเรื่อง '''''"[[จันทร์เจ้าขา]]"''''' ซึ่งถ่ายทำเป็นภาพยนตร์ เมื่อ พ.ศ. 2499 แสดงนำโดย [[เจือ จักษุรักษ์]], สายสนม นางงามเพชรบุรี , และ น้อย จันทร์คณา
 
==ชีวิตส่วนตัว==
สมรสกับนางศรี จันทร์คณา มีบุตรและธิดา ดังนี้ นายจารุ จันทร์คณา (ถึงแก่กรรม) นางสาวจุไร จันทร์คณา (ถึงแก่กรรม) นางสาวจามรี จันทร์คณา และนางสาวจริยา จันทร์คณา และมีบุตรชายคือ [[จงรัก จันทร์คณา]]ที่เกิดจากนางเทียมน้อย เนาวโชติ
 
เส้น 36 ⟶ 41:
 
== กำกับภาพยนตร์ ==
* [[ไม่เคยรัก]] (2483)
* [[วังหลวงวังหลัง]] (2493)
* [[ค่ายบางระจัน]] (2508)
เส้น 42 ⟶ 48:
* นัดพบ
* จันทร์เจ้าขา
* กล้วยไม้ลืมดอย (2477)
* [[กุหลาบร่วง]] (2476)
* ในสวนรัก (2481)
* ลอยคอ (2481)
* [[ขวัญของเรียม]] (2483)
* กระแจะจันทร์
* อยากจะรักสักครั้ง
* [[กุหลาบร่วง]] (2476)
* นารีต้องมีผัว (ภาพยนตร์เรื่อง [[เกาะสวาทหาดสวรรค์]] 2512)
* กล้วยไม้ลืมดอย (2477)
'''''ภาพยนตร์ "ในสวนรัก" 2481'''''
* ในสวนรัก (2481)
* ลอยคอ (2481)
'''''ภาพยนตร์ "ใครผิดใครถูก" 2482'''''
* ข้างบ้านเรือนเคียง (พรานบูรพ์ ร้อง)
'''''ภาพยนตร์ "[[แผลเก่า]]" 2483'''''
* [[ขวัญของเรียม]] (2483)
'''''ภาพยนตร์ "[[ไม่เคยรัก]]" 2483'''''
* หัวใจและความรัก
* บุปผากับภมร (2483)
* สายสวาท (2483)
'''''ภาพยนตร์ "จันทร์เจ้าขา" 2499'''''
* จันทร์เจ้าขา
'''''ภาพยนตร์ "[[เกาะสวาทหาดสวรรค์]]" 2512'''''
* นารีต้องมีผัว
ฯลฯ
 
== แหล่งข้อมูลอื่น ==