ผลต่างระหว่างรุ่นของ "มาร์แซล ดูว์ช็อง"

เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
Carogy (คุย | ส่วนร่วม)
Tiemianwusi (คุย | ส่วนร่วม)
ทำระเบียงภาพไม่ได้ ยังมีลิขสิทธิ์
บรรทัด 1:
{{ต้องการสรุป}}
{{ต้องการอ้างอิง}}
 
{{Infobox artist
| bgcolour = #76A8FF
เส้น 17 ⟶ 20:
| awards =
}}
 
==มาเซล ดูช็องป์ (Marcel Duchamp)==
'''มาเซล ดูช็องป์ ({{lang-fr|Marcel Duchamp}})''' (28 กรกฎาคม 1887 – 2 ตุลาคม 1968) เกิดที่ Blainville Crevon,[[ประเทศฝรั่งเศส]]
 
[[ไฟล์:มาเซลjpg.jpeg|thumbnail|left]]
 
==ชีวประวัติ==
เขาได้เติบโตมาในครอบครัวที่สมาชิกมีความเป็นศิลปินภายในตัวสูง ครอบครัวของดูช็องป์ชอบที่จะเล่นหมากรุก,วาดภาพ,ทำดนตรี
เส้น 30 ⟶ 36:
หลังจากกการตายของ Sarazin-Lavassorดูช็องป์ได้แต่งงานกับ [[Mary Reynolds]] เขาอาศัยอยู่ด้วยกันจนกระทั่งภรรยาของเขาจากไปด้วยโรคมะเร็งปากมดลูกในปี1950
ในปี1954ดูช็องป์และ [[Alexina Duchamp|Alexina "Teeny" Sattler]]ได้แต่งงานกันและอยู่ด้วยกันจนเขาเสียชีวิต. ในวันที่2 ตุลาคม 1968 ที่ Neuilly-sur-Seine ใน[[ประเทศฝรั่งเศส]]
 
[[ไฟล์:Diane-Arbus-Marcel-Duchamp-et-Alexina-Suttler-1965.jpg|thumbnail|right]]
 
==ลักษณะของผลงาน==
ผลงานของ Duchamp ทำให้ประเด็นเรื่องสุนทรียะกลายเป็นปัญหา เพราะไม่สามารถที่จะกล่าวได้อย่างง่ายๆ อีกต่อไปว่า “งานศิลปะชิ้นนี้สวย” เพราะคงไม่มีใครที่จะกล่าวว่า “โถส้วม” ในงานแสดงศิลปะว่าเป็นงานศิลปะ ถึงแม้ว่า “โถส้วม” นั้นจะมีความสวยงามมากก็ตาม แต่งานแสดงศิลปะย่อมไม่ใช่งานแสดงผลิตภัณฑ์สุขภัณฑ์ ทั้งนี้สุขภัณฑ์ที่เข้าไปอยู่ในงานแสดงศิลปะเมื่อต้นศตวรรษที่ยี่สิบก็คงไม่ได้ทำให้ใครเข้าใจได้ว่า “โถส้วม”
 
[[ไฟล์:Marcel Duchamp.jpg|thumbnail|left|Fountain]]
 
ที่ว่านี้จะเป็นศิลปะได้อย่างไร การตัดสินให้อะไรเป็นศิลปะในลักษณะแบบนี้ก็เปรียบเสมือนการตั้งชื่อวิสามัญนามให้กับศิลปะวัตถุ สำหรับวิสามัญนามในที่นี้ก็คือ “ศิลปะ” ในแง่นี้ผลงานศิลปะของ Duchamp เกิดขึ้นจากการตัดสินใจด้วยตัวเองล้วนๆ ในการที่จะจัดให้อะไรเป็นศิลปะ อะไรไม่เป็นศิลปะ การตัดสินด้วยการจัดระเบียบใหม่ด้วยวิสามัญนามอย่างศิลปะก็หมายความถึง ความเป็นสมัยใหม่อย่างเต็มที่ เพราะเขาไม่ได้ตกอยู่ภายใต้ข้อกำหนดความเป็นศิลปะจากภายนอก นี่เป็นการแสดงให้เห็นถึงความเป็นเอกเทศของศิลปะ ความเป็นเอกเทศของศิลปิน ความเป็นเอกเทศแสดงให้เห็นถึงลักษณะของความเป็นสภาวะสมัยใหม่
เขามีความคิดที่จะต่อต้านศิลปะ จนกลายเป็นเรื่องเป็นราว เกิดแนวทางใหม่ เหมือนเปิดประตูให้ศิลปินได้เข้าไปพบกับโลกใหม่อย่างคาดไม่ถึง เป็นลักษณะงานตามแบบของลัทธิดาด้า
เขามักนิยมตั้งชื่อผลงานของเขาเป็นคำผวนหรือเล่นคำให้เกิดความหมายแปลกๆหรือประชดประชัน เช่น L.H.O.O.Q. ซึ่งสามารถออกเสียงได้หลากหลาย และมีความหมายแตกต่างกัน โดยผลงานชิ้นนี้เป็นการเขียนหนวดเคราลงไปบนใบหน้าของโมนาลิซา ซึ่งเป็น ภาพที่มีชื่อเสียงโด่งดัง ในการที่เขากระทำเช่นนี้ ก็เพื่อเป็นการลดความขลังของผลงาน
 
[[ไฟล์:LHOOQ.jpg|thumbnail|right|L.H.O.O.Q]]ซึ่งสามารถออกเสียงได้หลากหลาย
[[ไฟล์:LHOOQ.jpg|thumbnail|right|L.H.O.O.Q]]
และมีความหมายแตกต่างกัน โดยผลงานชิ้นนี้เป็นการเขียนหนวดเคราลงไปบนใบหน้าของโมนาลิซา ซึ่งเป็น ภาพที่มีชื่อเสียงโด่งดัง ในการที่เขากระทำเช่นนี้ ก็เพื่อเป็นการลดความขลังของผลงาน
 
==งานกับสังคมและการเมือง==
 
เนื่องจากมีความเชื่อในการสร้างงานศิลปะว่า "ทุกสิ่งทุกอย่างที่ศิลปินสร้างสรรค์ออกมานั้นคือศิลปะ" ผลงานของศิลปิน ในช่วงแรกได้รับการต่อต้าน และเกิดความโต้แย้งกันมากเกี่ยวกับความเป็นศิลปะ เพราะผลงานออกมามีลักษณะแปลกใหม่ เช่น การเขียนภาพโดยวิธีผิดปกติ หรือการนำวัตถุที่พบเห็นทั่วไป หรือวัตถุสำเร็จรูปมาเป็นงานศิลปะ ซึ่งไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน เพราะศิลปิน ไม่เห็นด้วยกับการสร้างงานศิลปะโดยใช้วัสดุ หรือวิธีการในแบบเดิม แนวคิดเช่นนี้ทำให้นักวิจารณ์ศิลปะมีความเห็นว่า เป็นการต่อต้านศิลปะ (Anti Art) แม้ศิลปะในลักษณะนี้ จะได้รับการวิพากษ์วิจารณ์กันอย่างหนักทั้งจากนักวิจารณ์ศิลปะกลุ่มคนที่สร้างสรรค์ศิลปะฝ่ายสูงและผู้ชมงานศิลป์ ถึงความไม่เหมาะสม แต่โลกสำหรับที่กำลังขับเคลื่อนไปข้างหน้า ศิลปะเป็นหนึ่งในทรัพยากรทางวัฒนธรรรมของมนุษยชาติที่เกิดขึ้นและผันแปรไปอย่างไม่เคยหยุดนิ่ง โดยสะท้อนภาพความเป็นจริงที่สังคมทุกสังคมย่อมมีความขัดแย้ง ไม่ว่าจะเป็นการขัดแย้งระหว่างกลุ่มชนชั้นหรือเศรษฐกิจ งานศิลปะในทุกห้วงเวลาที่ผ่านมา จึงมีทั้ง การผลิตซ้ำ ถอดรื้อ และให้คนตีความหมาย ศิลปะในบริบทของสังคมทุกสมัยสามารถเกิดขึ้นได้ทุกด้าน ไม่ว่าจะเป็นในรูปแบบของการแต่งตัว ภาพวาด ดนตรี สื่อภาพยนตร์ ฯลฯ แทบทุกอย่าง ให้มนุษย์ในยุคปัจจุบันมีที่ทางของตัวเองที่จะระบายสิ่งที่แฝงเร้นในตัวมนุษย์ออกมาในรูปของสุนทรียะนานาพันธุ์ ซึ่งอาจมีความหมายที่พิลึกพิลั่นจนบางครั้งเกินเลยไปสู่เขตแดนแห่งความอัปลักษณ์ น่าชัง แต่สุดท้ายแล้ว ก็คือความจริงที่บอกให้รู้ว่า สิ่งที่อยู่คู่กับความงามของมนุษย์ก็คือความอัปลักษณ์ของเรา และหากจะเชื่อว่า ความงามคือความจริง และความจริงคือความงามชนิดหนึ่ง ซอกมุมอัปลักษณ์ของมนุษยชาติอย่างเราๆ ก็มีความงามที่น่าสะอิดสะเอียนแฝงอยู่ดาษดื่น
และคงปฏิเสธไม่ได้ว่า ผลงานศิลปะเหล่านี้สะท้อนให้เราได้เห็นถึงความบอบช้ำ ความรุนแรง และความเลวร้าย ที่กำลังเกิดขึ้นจริงในสังคมปัจจุบัน ที่เราแกล้งทำเป็นมองไม่เห็นและปล่อยผ่านมันไป จนกลายเป็นแผลเรื้อรังฝังลึกอยู่ในจิตใจของมนุษย์ บางทีศิลปะเช่นนี้อาจจะช่วยเตือนสติ ให้เราได้หันกลับมามอง เพื่อที่ว่า แผลที่เกิดขึ้นมานั้น จะได้ไม่เน่าจนเกิดหนองออกมาปรากฏแก่สายตาของคนทั้งโลกไปมากกว่านี้
 
==ผลงานอื่นๆ==
<gallery widths="140px" heights="140px" perrow="4">
ไฟล์:Byciclewheeldu.jpg
ไฟล์:Adameve.jpg
ไฟล์:Duchamp1111.jpg
ไฟล์:Duchamp21.jpg
ไฟล์:Duchamp31.jpg
ไฟล์:Duchamp16.jpg
ไฟล์:Duchamp7.jpg
ไฟล์:Duchamp18.jpg
</gallery>
 
==อ้างอิง==
เส้น 61 ⟶ 59:
* Thomas Koster and Lars Roper. 50 Artists You should know (Munich ; London : Prestel),2006.
* http://grmtqye.vcharkarn.com/vblog/113647.
 
==แหล่งข้อมูลอื่น==
{{wikiquote}}
*[http://www.understandingduchamp.com/ understandingduchamp]
*[http://www.dada-companion.com/duchamp/ Marcel Duchamp (DADA Companion)] – the Online Research Companion
 
== ดูเพิ่ม ==
* [[ศิลปะตะวันตก]]