ผลต่างระหว่างรุ่นของ "นูระหลานจอมภูต"

เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
OctraBot (คุย | ส่วนร่วม)
replaceViaSearch: ปัจจุบัน
บรรทัด 324:
====นูระ ริคุโอะ====
*'''ดาบเนเนะกิริมารุ'''
ดาบที่นูราริเฮียง เห็นวางอยู่เลยหยิบมาจากโยฮิเมะผู้เป็นย่าของริคุโอะ มีพลังในการฟาดฟันเหล่าภูตพราย แต่เป็นดาบที่ไม่มีผลหากนำไปฟันมนุษย์ แท้จริงแล้วเป็นดาบที่องเมียวจิอัจฉริยะ เคย์คะอิน ฮิเดโมโตะเป็นคนสร้างขึ้นมา แต่เมื่อเห็นว่านูราริเฮียงใช้ได้ดีจึงมอบให้ไป
 
*'''เมย์เคียวชิซุย (สงบดุจน้ำนิ่ง)'''
บรรทัด 333:
 
*'''เคียวกะ ซุยเง็ตสึ (พร่างบุปผา เงาจันทรา)'''
ใช้ความเกรงขามสะกดปีศาจฝ่ายตรงข้าม ด้วยการสร้างเงาจำแลงให้เหมือนกับว่าโจมตีโดนเจ้าตัวแต่การโจมตีนั้นทะลุผ่านร่างกายไป จากนั้นร่างจริงก็จะอ้อมไปฟันศัตรูทางด้านหลัง มีประโยชน์มากในการใช้ดักตลบหลัง หาโอกาสโจมตีหรือหลบหนี เป็นความเกรงขามที่ริคุโอะใช้บ่อยที่สุดเรียกได้ว่าทิ้งภาพลวงตาของตัวเองไว้เพื่อหลอกศัตรูนั่นเอง
 
*'''มาโทอิ (อาภรณ์อสูร)'''
คือการที่ริคุโอะสามารถใช้พลังของปีศาจที่อยู่ในกลุ่มขบวนร้อยอสูรของตนได้ ซึ่งการจะได้รับพลังของปีศาจตนนั้นจำเป็นจะต้องมีความเชื่อใจกันอย่างที่สุดระหว่างผู้นำกลุ่มและผู้ติดตาม ซึ่งเมื่อได้รับพลังแล้วจะปรากฏรอยสักที่แสดงถึงพลังที่ได้รับมานั้นบนแผ่นหลังบริเวณไหล่ทั้ง 2 ข้าง ว่ากันว่าพลังนี้เกิดขึ้นครั้งแรกในยุคของนูระราริเฮียงรุ่นที่ 2 ริฮัง (พ่อของริคุโอะ) ซึ่งถือว่าเป็นยุคที่ ขบวนร้อยอสูรแข็งแกร่งที่สุด
 
อย่างไรก็ตาม ปีศาจที่มีเลือดปีศาจเต็มตัวจะไม่สามารถใช้หรือฝึกฝนมาโทอินี้ได้ เงื่อนไขหนึ่งในสองอย่างของมาโทอิคือต้องมีสายเลือดเป็นมนุษย์อยู่ด้วย ดังนั้นริฮันฮังที่เป็นลูกครึ่งปีศาจและริคุโอะที่มีเลือดปีศาจ1ใน3จึงใช้มาโทอิได้
 
*'''มาโทอิ ขั้นที่ 2 (เกราะสยบอสูร)'''
คือการที่ริคุโอะสามารถใช้พลังของมาโทอิผนวกกับความเกรงขามของตนเอง เป็นพลังที่เรียกได้ว่าแข็งแกร่งที่สุดในยุคของ นูระ ริฮันฮัง
 
*'''การสำแดงความเกรงขาม'''
การสำแดงความเกรงขามของริคุโอะในตอนแรก คือการใช้ฮัตสึในการลบร่างของตัวเองออกไปจากสายตาศัตรู แต่หลังจากได้รับการชี้แนะ ประจวบกับนึกถึงเรื่องในอดีตเข้าพอดี ริคุโอะจึงหาตัวตนที่แท้จริงออกมาได้ กลายเป็นความตรงข้ามของความสามารถลบร่าง นั่นคือ การทำให้เห็นร่าง แต่ไม่สามารถสัมผัสตัวได้ นั่นคือในสายตาของศัตรูจะเห็นเหมือนว่าได้ฟันริคุโอะแล้ว แต่ที่ฟันไปเป็นเพียงภาพลวงตา (หลอกและพรางตัวจากทัศนวิสัยของศัตรู) เป็นความสามารถที่แท้จริงของวิชาสายเลือดนูราริเฮียง

เคียวกะซุยเง็ตสึ( มีความหมายถึง จันทราบนผิวน้ำ- ซึ่งนูราริเฮียงเปรียบเปรยไว้ แม้จะทำให้ผิวน้ำกระเพื่อม แต่ก็ไม่หายไป กลับล่องลอยอย่างเลือนราง มาจากอักษรสี่ตัวคือ กระจก บุปผา จันทรา วารี ซึ่งท่านี้เหนือกว่าเมย์เคียวชิซุย- น้ำนิ่งที่เมื่อปรากฏรอยกระเพื่อมแล้วจะสลายไป)
 
====ผีหัวขาด====