ผลต่างระหว่างรุ่นของ "นามิเอะ อามูโระ"

เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
Poonyo (คุย | ส่วนร่วม)
OctraBot (คุย | ส่วนร่วม)
replaceViaSearch
บรรทัด 35:
ปลายปี พ.ศ. 2540 นามิเอะประกาศแต่งงานกับ [[มาซาฮารุ มารุยะมะ]] หรือ แซม จากวง [[ทีอาร์เอฟ]] (TRF) หลังจากตั้งท้อง และขอลาหยุดงานไปดูแลลูก 1 ปี และ นามิเอะได้ไปปรากฏตัวในงาน มหกรรมขาวแดงที่ เอ็นเอชเคฮอลส์ (NHK Halls) เพื่อร้องเพลงแคนยูเซเลเบรท? เป็นการอำลาแฟนเพลง ทำให้เพลงนี้กลายเป็นเพลงแต่งงานยอดฮิตเพลงหนึ่งของคนญี่ปุ่นไปเลยทีเดียว หลังจากนั้น ในวันที่ [[19 พฤษภาคม]] [[พ.ศ. 2541]] นามิเอะ คลอดลูกชายคนเดียวชื่อฮารุโตะ และได้ออกซิงเกิลชื่อ ไอแฮฟเนเวอร์ซีน (I HAVE NEVER SEEN) ฉลองการกลับมาในวันที่ [[23 ธันวาคม]] ปีเดียวกัน ซึงก็เปิดตัวด้วยอันดับ 1
 
ในปี [[พ.ศ. 2542]] นามิเอะได้ร่วมงานกับ [[ดัลลัส ออสติน]] (Dallas Austin) [[โปรดิวซ์เซอร์]]ชื่อดังจาก[[สหรัฐอเมริกา]] (จากผลงานการโปรดิวซ์ให้ศิลปินชื่อดังทั้งหลายเช่น [[มาดอนนา]] , [[ทีแอลซี|TLC]], [[โมนิกา|Monica]], [[คอร์น|KORN]] ฯลฯ) ซึ่งทำให้ผลงานของ นามิเอะ ในช่วงนั้น แนวเพลงสไตล์ [[อาร์แอนด์บี]] มากขึ้น อย่างไรก็ตาม ในปีนี้เองได้นำมาซึ่งความเจ็บปวดแก่ นามิเอะ เพราะในขณะที่กำลังโปรโมตซิงเกิ้ล RESPECT the POWER OF LOVE นั่นเอง แม่ของ นามิเอะถูกฆาตรกรรมฆาตกรรมอย่างเหี้ยมโหด ... หลังจากทำใจได้ นามิเอะก็ลุกขึ้นสู้อีกครั้ง ในเดือนกรกฎาคม [[พ.ศ. 2543]]นามิเอะ ปล่อย single ต้อนรับสหัสวรรษใหม่อย่าง Never End ซึ่งได้รับเสียงตอบรับจากนักวิจารณ์เป็นอย่างดี และเพลงนี้ก็ได้รับเลือกเป็นธีมของหนังเรื่อง [[โอกินาวา ซัมเมอร์|OKINAWA SUMMIT]] ซึ่ง นามิเอะ ได้รับเกียรติ์ให้แสดงต่อหน้าผู้นำชาติสมาชิก G8 อย่าง ประธานาธิบดี[[บิล คลินตัน]]ด้วย หลังจากปล่อย Studio Album อันดับ 4 ออกมาอาละวาดในปลายปี 2543 ในปี [[พ.ศ. 2544]] นามิเอะ เลิกใช้บริการการโปรดิวซ์ของ TK และปล่อยซิงเกิ้ล Say the word ซึ่งเป็นครั้งแรกที่ นามิเอะ ได้เขียนเนื้อเพลงเอง ในวันที่ [[8 สิงหาคม]] และในปลายปีนั้นเอง นามิเอะ ได้เข้าร่วมโปรเจกต์ของ AVEX ในอัลบั้มเพื่อการกุศล SongNation โดยได้ร่วมงานกับ VERBAL จาก m-flo ในเพลง lovin' it ซึ่งเป็นซิงเกิ้ลลำดับสามต่อจาก A song is born ของ Keiko และ Ayumi และ Meaning of Peace ของ[[โบอา]]และ[[คุมิ โคดะ]]
 
ในปี [[พ.ศ. 2545]]นามิเอะ เปลี่ยนสไตล์ดนตรีไปสู่ อาร์แอนด์บี อย่างแท้จริง โดยเข้าร่วมโปรเจกต์ใหญ่อย่าง SUITECHIC ในฐานะนักร้องนำ และออกเพลงมา 2 ซิงเกิล กับอีก 1 อัลบัม และ 1 อัลบัมรีมิกซ์ ก่อนจบโปรเจกต์ในปี [[พ.ศ. 2546]] และได้กลับมาทำงานเดี่ยวของตนเองอีกครั้ง โดยได้ออกซิงเกิ้ล shine more, Put 'Em Up และ SO CRAZY ซึ่งโปรดิวซ์โดย [[Dallas Austin]] และ [[Full Force]] ในปลายปีนี้ นามิเอะ ปล่อย STYLE สตูดิโออัลบั้มลำดับที่ 5 ออกมาในรอบ 3 ปี