ผลต่างระหว่างรุ่นของ "อังคาร กัลยาณพงศ์"

เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
ZéroBot (คุย | ส่วนร่วม)
r2.7.1) (โรบอต เพิ่ม: nl:Angkarn Kalayanapong
ไม่มีความย่อการแก้ไข
บรรทัด 6:
| caption =
| pseudonym = อังคาร กัลยาณพงศ์
| birth_date = [[13 กุมภาพันธ์]] [[พ.ศ. 2469]]
| birth_place = [[จังหวัดนครศรีธรรมราช]]
| death_date = [[25 สิงหาคม]] [[พ.ศ. 2555]] (86 ปี)<ref>[http://breakingnews.nationchannel.com/home/read.php?newsid=647050 อังคาร กัลยาณพงศ์ กวีดังวัย86ปีเสียชีวิตแล้ว]</ref>
| death_place =
| occupation = กวี, จิตรกร
บรรทัด 27:
}}
 
'''อังคาร กัลยาณพงศ์''' ([[13 กุมภาพันธ์]] [[พ.ศ. 2469]] — [[25 สิงหาคม]] [[พ.ศ. 2555]]) เป็นทั้ง[[กวี]]และ[[จิตรกร]] เขาเกิดที่[[จังหวัดนครศรีธรรมราช]] ศึกษาระดับประถมที่ โรงเรียนวัดจันทาราม ต่อมาก็เรียนที่วัดใหญ่จนจบประถมสี่ แล้วย้ายไปเรียนที่โรงเรียนมัธยมประจำจังหวัด คือ [[โรงเรียนเบญจมราชูทิศ นครศรีธรรมราช]] ศึกษาศิลปะที่[[โรงเรียนเพาะช่าง]] และที่คณะจิตรกรรมประติมากรรมและภาพพิมพ์ [[มหาวิทยาลัยศิลปากร]]
อังคารเกิดที่[[จังหวัดนครศรีธรรมราช]] ศึกษาระดับประถมที่ โรงเรียนวัดจันทาราม ต่อมาก็เรียนที่วัดใหญ่จนจบประถมสี่ แล้วย้ายไปเรียนที่โรงเรียนมัธยมประจำจังหวัด คือ [[โรงเรียนเบญจมราชูทิศ นครศรีธรรมราช]] ศึกษาศิลปะที่[[โรงเรียนเพาะช่าง]] และที่คณะจิตรกรรมประติมากรรมและภาพพิมพ์ [[มหาวิทยาลัยศิลปากร]]
 
อังคารเป็นผู้ได้รับการยอมรับในฐานะเป็นจิตรกรและกวี ท่านเป็นกวีที่คงความเป็นไทย ทั้งในด้านความคิดและรูปแบบ อีกทั้งยังเป็นกวีที่มีความคิดเป็นอิสระ ไม่ถูกร้อยรัดด้วยรูปแบบที่ตายตัว จึงนับเป็นกวีผู้บุกเบิกกวีนิพนธ์ยุคใหม่ ซึ่ง [[นิธิ เอียวศรีวงศ์]] ได้กล่าวถึงผลงาน[[กวีนิพนธ์]]ของอังคาร กัลยาณพงศ์ ว่ามีความโดดเด่นเป็นอย่างมาก<ref>ท่านอังคาร. นิธิ เอียวศรีวงศ์. '''มติชนสุดสัปดาห์'''. ปีที่ 32 ฉบับที่ 1672. วันที่ 31 สิงหาคม - 6 กันยายน พ.ศ. 2555. ISSN 1686-8196. หน้า 30-31</ref>
 
== ประวัติ ==
โดยพื้นเพเดิมอังคารเป็นคนเมืองนครศรีธรรมราช ซึ่งมีผู้กล่าวว่าเป็นเมืองแห่งกาพย์กลอนอยู่แล้ว หลังศึกษาจบระดับมัธยมที่[[โรงเรียนเบญจมราชูทิศ]] ได้เดินทางเข้ามาเรียนต่อที่ [[โรงเรียนเพาะช่าง]] และ [[มหาวิทยาลัยศิลปากร]] อังคารได้เป็นศิษย์ของศิลปินใหญ่อย่าง ศ.[[ศิลป์ พีระศรี]], อ.[[เฟื้อ หริพิทักษ์]] และ อ.[[เฉลิม นาคีรักษ์]] ทำให้ได้ติดตามและร่วมงานกับอาจารย์ในการศึกษาค้นคว้างานด้านต่าง ๆ ทั้งศิลปกรรม โบราณคดี และประวัติศาสตร์
 
ความเป็นกวีและจิตรกรนั้นเป็นพรสวรรค์ที่อังคารเองเชื่อมั่นและฝึกฝนมาตั้งแต่วัยเยาว์ ท่านได้พูดถึงการเป็นทั้งจิตรกรและกวีของตนว่า บทกวีและจิตรกรรมนั้นมาจากดวงใจดวงเดียวกัน
 
'''"การวาดรูปกับการแต่งบทกวีต้องใช้ความคิดกับจินตนาการ อาจจะผิดกันในเรื่องเทคโนโลยีกับเทคนิค แต่ใช้จิตใจดวงเดียวกัน ทั้งงานเขียนรูปและเขียนหนังสือก็ต้องอาศัยมโนคติ บางคนเขาเรียก อิมเมจิเนชั่น ต้องมีจินตนาการความคิด เหมือนคนที่สร้างนครวัด เขาต้องมีภาพมาก่อนว่าทำอย่างไรจึงจะมีปราสาทขึ้นมา ถ้าเรามีมโนภาพกว้างใหญ่ไพศาล เราก็สามารถสร้างสรรค์อะไรที่ใหญ่โตขึ้นมา ถ้ามีมโนภาพคับแคบก็สร้างสรรค์อะไรอยู่ในกะลาเท่านั้น"'''
 
'''"คนอื่นเขาอาจจะไปทำขนมครก ไปรับเหมาทางด่วน ไปทำอะไรก็ได้ แต่กวีต้องเป็นกวีอยู่ทุกลมหายใจ คือโดยหลักจริง ๆ แล้วผมยังเขียนบทกวีอยู่เรื่อย ๆ จะชำระของที่ดูไม่ค่อยเรียบร้อยให้เรียบร้อย ให้หมดจดขึ้น มีถ้อยคำที่ลงตัว คือพูดง่าย ๆ ว่า ถ้าเราตายไปแล้ว เราก็หมดโอกาสที่จะเปิดฝาโลงขึ้นมาชำระโคลงของเราให้เรียบร้อย คนที่เขียนกวี ถ้าบทกวีชิ้นใดไม่สมบูรณ์ ก็เหมือนเราไปปรโลกแล้วยังมีห่วงอยู่"'''
 
แต่ในการจะสร้างสรรค์ผลงานออกมาให้ได้ดีนั้นก็ต้องมีอารมณ์ที่จดจ่ออยู่กับงานด้วย
 
'''"โดยหลักการ การเขียนกาพย์กลอนต้องโปร่งใส ต้องใช้อิสระเสรี ถึงจะทำได้ดี ก็เหมือนทะเลเวลามีคลื่นลมมากเรือที่ลอยอยู่ก็สามารถจมได้ บางครั้งอารมณ์ไม่ดีก็ทำไม่ได้"'''
 
ส่วนในด้านงานจิตรกรรมนั้น อังคารเรียนวิชาวาดเขียนได้คะแนนดีมาโดยตลอด จนได้รับคำบันทึกจากคุณครูเขียนลงในสมุดรายงานว่า เป็นผู้มีใจรักและฝักใฝ่ในวิชาวาดเขียน เขามองว่าการวาดเขียนถึงแม้จะไม่ได้เงินทองมาก แต่จะมีประโยชน์ไปบริการทางวิญญาณ จะทำให้วิญญาณมนุษย์ดีขึ้น
 
อังคารยังให้ทัศนะในการทำงานว่า ก็เหมือนกับการเติบโตของต้นไม้ มันค่อย ๆ ขึ้นทีละใบสองใบ ค่อยแตกไปเรื่อย ๆ ถึงฤดูกาลก็แตกดอกออกผล ก่อนออกผลก็ออกดอกเสียก่อนไปตามลำดับ เขายืนยันว่าจะไม่ขอทำอย่างอื่นแล้วในชีวิตนี้ จะทำงานเหล่านี้ไปตลอดจนถึงชาติหน้า ทั้งงานศิลปะ ไม่ว่าจะวาดหรือปั้น รวมถึงงานเขียนบทกวี และกล่าวถึงผู้สืบทอดในงานว่า '''"ไม่ได้คิดอะไร เหมือนเราเกิดมาเป็นต้นโพธิ์ ถึงฤดูกาลใบมันก็หล่นลงมายังพื้นดิน กลายเป็นดิน น้ำ ลม ไฟตามเดิม ใครที่เขาเห็นคุณค่า เขามาไถ่ถามก็ให้เขาไปตามเรื่อง"'''
 
== ผลงานรางวัลซีไรต์ ==
บรรทัด 59:
== แหล่งข้อมูลอื่น ==
* [http://www.geocities.com/thailiterature/ak.htm กวีนิพนธ์บางบทของอังคาร กัลยาณพงศ์ ที่เว็บไซต์ว่ายเวิ้งวรรณศิลป์]
* [http://www.praphansarn.com/talk/ttalk45.asp สำนักพิมพ์ประพันธ์สาส์น]
* [http://www.khonnaruk.com/html/verandah/artist/angkarn.html ผลงานบางส่วน ที่ เว็บไซต์สมาคมคนน่ารัก]
* [http://www.praphansarn.com/talk/ttalk45.asp สำนักพิมพ์ประพันธ์สาส์น]
 
{{นักเขียนรางวัลซีไรต์}}