ผลต่างระหว่างรุ่นของ "จักรพรรดินีจิโต"

เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
Novaskosia (คุย | ส่วนร่วม)
ไม่มีความย่อการแก้ไข
Novaskosia (คุย | ส่วนร่วม)
ไม่มีความย่อการแก้ไข
บรรทัด 24:
'''สมเด็จพระจักรพรรดินีนาถจิโต'''(持統天皇 จิโต-[[จักรพรรดิญี่ปุ่น|เทนโน]],พ.ศ. 1188 - 13 มกราคม พ.ศ. 1246) ทรงเป็น[[รายพระนามสมเด็จพระจักรพรรดินีแห่งญี่ปุ่น|สมเด็จพระจักรพรรดินีนาถ]]แห่ง[[ญี่ปุ่น]]พระองค์ที่ 41<ref name="kunaicho">[[Imperial Household Agency]] (''Kunaichō''): [http://www.kunaicho.go.jp/ryobo/guide/041/index.html 持統天皇 (41)]</ref> อันเนื่องมาจาก[[รายพระนามจักรพรรดิญี่ปุ่น|การสืบราชสันตติวงศ์]]ตามโบราณราชประเพณี<ref>Ponsonby-Fane, Richard. (1959). ''The Imperial House of Japan,'' p. 54.</ref> สมเด็จพระจักรพรรดินีนาถจิโตทรงครองราชย์ตั้งแต่ปีพ.ศ. 1229 จนกระทั่งพ.ศ. 1240 เป็นระยะเวลา 11 ปี<ref name="t59">Titsingh, Isaac. (1834). {{Google books|18oNAAAAIAAJ|''Annales des empereurs du Japon,'' p. 59.|page=59}}</ref>
 
ใน[[ประวัติศาสตร์ญี่ปุ่น]] สมเด็จพระจักรพรรดินีนาถจิโตทรงเป็นสตรีองค์ที่สามในแปดที่ทรงมีบทบาทในฐานะ[[รายพระนามสมเด็จพระจักรพรรดินีแห่งญี่ปุ่น|สมเด็จพระจักรพรรดินีนาถ]] จักรพรรดินีนาถ 2 พระองค์ก่อนรัชสมัยของพระนางคือ [[สมเด็จพระจักรพรรดินีนาถซุยโกะ]]และ[[สมเด็จพระจักรพรรดินีนาถโคเคียวคุ]]หรืออีกพระนามหนึ่งคือ [[สมเด็จพระจักรพรรดินีนาถโคเคียวคุ|สมเด็จพระจักรพรรดินีนาถไซเม]] จักรพพรดินีนาถอีกจักรพรรดินีนาถอีก 5 พระองค์หลังรัชสมัยของพระนางได้แก่ [[สมเด็จพระจักรพรรดินีนาถเกงเม]],[[สมเด็จพระจักรพรรดินีนาถเกงโช]],[[สมเด็จพระจักรพรรดินีนาถโคเคง]]หรืออีกพระนามหนึ่งคือ [[สมเด็จพระจักรพรรดินีนาถโคเคง|สมเด็จพระจักรพรรดินีนาถโชโตะคุ]],[[สมเด็จพระจักรพรรดินีนาถเมโช]] และ[[สมเด็จพระจักรพรรดินีนาถโกะ-ซะกุระมะชิ]]
==เรื่องราชประเพณี==
สมเด็จพระจักรพรรดินีนาถจิโตเป็นพระราชธิดาใน[[สมเด็จพระจักรพรรดิเทงจิ]] พระราชมารดาของพระนางคือ โซงะ โนะ โอจิ-โนะ-อิระสึเมะ ซึ่งเป็นธิดาของขุนนางที่มีชื่อว่า โอโอมิ โซงะ โนะ ยะมะดะ-โนะ อิชิกะวะ มาโระ พระนางทรงเป็นพระมเหสีใน[[สมเด็จพระจักรพรรดิเทงมุ]] ผู้ทรงเป็นพระอนุชาในจักรพรรดิเทงจิ พระบิดาของพระนาง หรือในทางเดียวกัน พระนางทรงอภิเษกสมรสกับพระปิตุลาแท้ๆและทรงสืบราชสมบัติต่อจากพระสวามี<ref name="v137">Varley, H. Paul. ''Jinnō Shōtōki,'' p. 137.</ref>