ผลต่างระหว่างรุ่นของ "วาซีลี คันดินสกี"

เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
Tinuviel (คุย | ส่วนร่วม)
Tinuviel (คุย | ส่วนร่วม)
ไม่มีความย่อการแก้ไข
บรรทัด 1:
{{ปรับภาษา}}
'''วาสสิลี แคนดินสกี''' ({{lang-en|Wassily Kandinsky}}; {{lang-ru|Васи́лий Васи́льевич Канди́нский}}) คือจิตรกรชาวเยอรมัน เชื้อชาติ[[รัสเซีย]]ผู้ให้กำเนิดศิลปะด้านพลังของอารมณ์ในแนวนามธรรม เกิดที่กรุงมอสโก ประเทศรัสเชีย เมื่อปี ค.ศ. 1866 ในครอบครัวที่ร่ำรวย เมื่ออายุได้27ปี ได้จบการศึกษาจากมหาวิทยาลัยมอสโก ด้านกฏหมาย เศรษฐกิจและการเมือง เมื่ออายุ 27 ปี หลังจากนั้นได้เป็นอาจารย์ของมหาวิยาลัยในคณะนิติศาสตร์
 
เมื่ออายุ 29 ปี Kandinsky ได้เห็นศิลปะภาพวาดแนว impressionist ของจิตรกรฝรั่งเศสเป็นครั้งแรกเค้ารู้สึกดีกับงานศิลปะชิ้นนั้นมาก<br />หลังจากที่เค้าได้รับชมงานศิลปะของจิตกรฝรั่งเศษก็ทำให้เค้าไม่ทำงานของทางมหาวิทยาลัย และเค้ายังได้ลาออกจากการเป็นอาจารย์ของมหาวิยลัยเพื่อมาเป็นจิตกรวาดภาพ จนกระทั้งเค้าอายุได้31ปีเค้าได้ถึงทางไปยังMunich ในเยอรมนีเพื่อศึกษาเทคนิคการวาดภาพกับ Anton Azbe และ Franz von Stuck ในช่วงเวลานั้นจิตรกรชาวเยอรมัน กำลังลุ่มหลงในงานศิลปะแนว Art Nouveau (นวศิลป์) เป็นงานศิลปะที่ใช้ลายเส้นเป็นดอกไม้เค้าเองก็ได้ศึกษาศิลปะแบบ Art Nouveauมาพอประมาณเหมือนกัน
หลังจากที่เค้าได้รับชมงานศิลปะของจิตกรฝรั่งเศษก็ทำให้เค้าไม่ทำงานของทางมหาวิทยาลัย และเค้ายังได้ลาออกจากการเป็นอาจารย์ของมหาวิยลัยเพื่อมาเป็นจิตกรวาดภาพ<br />
จนกระทั้งเค้าอายุได้31ปีเค้าได้ถึงทางไปยังMunich ในเยอรมนีเพื่อศึกษาเทคนิคการวาดภาพกับ Anton Azbe และ Franz von Stuck<br />
นช่วงเวลานั้นจิตรกรชาวเยอรมัน กำลังลุ่มหลงในงานศิลปะแนว Art Nouveau (นวศิลป์) เป็นงานศิลปะที่ใช้ลายเส้นเป็นดอกไม้เค้าเองก็ได้ศึกษาศิลปะแบบ Art Nouveauมาพอประมาณเหมือนกัน<br />
ในช่วงอายุ37-42ปี แคนดินสกี้เดินทางไปเนเธอร์แลนด์ อิตาลี ตูนิเชียแล้วเค้ายังนำผลงานออกแสดงที่ Salon d’ Automne ในกรุงปารีสเมื่อเค้าเดินทางกลับมาเค้าได้จัดตั้งสมาคมNeue Kunstlervereingung (นวศิลป์) ซึ่งมีสมาชิกทั้งชาวรัสเซีย และชาวเยอรมัน<br />
ในช่วงสงครามโลกครั้งที่1 แคนดินสกี้เดินทางกลับบ้านเกิดที่รัสเชียและเค้าเองก็ได้คิดค้นศิลปะแบบใหม่ ที่เป็นรูปแบบนามธรรมจึงเริ่มออกแบบหลักสูตรศิลปะสมัยใหม่ให้แก่สถาบันการสอนวัฒนธรรมศิลป์ <br />
หลักสูตรนี้เน้นการแสดงออกที่เกี่ยวข้องกับความนึกคิด แต่ความคิดแนวนี้ถูกต่อต้านโดยศิลปินอื่น ๆ ที่มีความเห็นว่าศิลปะต้องมีประโยชน์ ในรูปแบบที่เป็นรูปธรรมเท่านั้น Kandinsky จึงอพยพออกจากรัสเซีย เพื่อกลับมาเป็นอาจารย์ประจำที่ Bauhaus ในเยอรมนี<br />
 
ในช่วงอายุ 37-42 ปี แคนดินสกี้เดินทางไปเนเธอร์แลนด์ อิตาลี ตูนิเชียแล้วเค้ายังนำผลงานออกแสดงที่ Salon d’ Automne ในกรุงปารีสเมื่อเค้าเดินทางกลับมาเค้าได้จัดตั้งสมาคมNeue Kunstlervereingung (นวศิลป์) ซึ่งมีสมาชิกทั้งชาวรัสเซีย และชาวเยอรมัน ในช่วงสงครามโลกครั้งที่1 แคนดินสกี้เดินทางกลับบ้านเกิดที่รัสเชียและเค้าเองก็ได้คิดค้นศิลปะแบบใหม่ ที่เป็นรูปแบบนามธรรมจึงเริ่มออกแบบหลักสูตรศิลปะสมัยใหม่ให้แก่สถาบันการสอนวัฒนธรรมศิลป์ หลักสูตรนี้เน้นการแสดงออกที่เกี่ยวข้องกับความนึกคิด แต่ความคิดแนวนี้ถูกต่อต้านโดยศิลปินอื่น ๆ ที่มีความเห็นว่าศิลปะต้องมีประโยชน์ ในรูปแบบที่เป็นรูปธรรมเท่านั้น Kandinsky จึงอพยพออกจากรัสเซีย เพื่อกลับมาเป็นอาจารย์ประจำที่ Bauhaus ในเยอรมนี
ในปี 1924 Kandinsky วัย 58 ปี กับ Klee ชาวสวิส Jawlensky ชาวรัสเซีย และ Feininger ชาวอเมริกัน ได้รวมตัวกันเป็นสมาคมโดยใช้ชื่อว่า Blaue Vier และได้แปลงสัญชาติเป็นเยอรมัน<br />
 
ในปี 1924 Kandinsky วัย 58 ปี กับ Klee ชาวสวิส Jawlensky ชาวรัสเซีย และ Feininger ชาวอเมริกัน ได้รวมตัวกันเป็นสมาคมโดยใช้ชื่อว่า Blaue Vier และได้แปลงสัญชาติเป็นเยอรมัน<br />
จากนั้น Kandinsky ก็ได้ทำงานที่สถาบันศิลปะนี้เพื่อผลิตสถาปนิกและศิลปินให้ประเทศเยอรมนี โดยจัดการสอนที่ไม่มีการกำหนดกฎเกณฑ์ใด ๆ ในการวาดให้แก่นิสิตเลย และส่งเสริมให้นิสิตเข้าใจความ<br />
ต้องการด้านศิลปะของสังคม รวมถึงให้รู้จักพัฒนาจินตนาการเชิงสร้างสรรค์ด้วย<br />
แคนดินสกี้ได้เขียนหนังสือ Punkt und Linie zu Flache เป็นตำราศิลปะเค้าเขียนตอนอายุ69ปี
 
จากนั้น Kandinsky ก็ได้ทำงานที่สถาบันศิลปะนี้เพื่อผลิตสถาปนิกและศิลปินให้ประเทศเยอรมนี โดยจัดการสอนที่ไม่มีการกำหนดกฎเกณฑ์ใด ๆ ในการวาดให้แก่นิสิตเลย และส่งเสริมให้นิสิตเข้าใจความ<brต้องการด้านศิลปะของสังคม รวมถึงให้รู้จักพัฒนาจินตนาการเชิงสร้างสรรค์ด้วย แคนดินสกี้ได้เขียนหนังสือ Punkt und Linie zu Flache ซึ่งเป็นตำราศิลปะ เมื่ออายุ 69 ปี />
Kandinsky ทำงานที่ Bauhaus จนถึงปี 1933 สถาบันก็ถูกสั่งปิดโดย National Socialist Government (นาซี) เมื่อตกงาน Kandinsky ได้เดินทางออกจากเยอรมนี ไปพำนักที่เมืองเล็ก ๆ ในแถบเทือกเขา Pyrenees ของฝรั่งเศส แล้วกลับไป Paris เพื่อรักษาตัว จนเสียชีวิตเมื่ออายุ 73 ปี โดยก่อนเสียชีวิต 2 ปี กองทัพนาซีที่ Munich ได้นำผลงานศิลปะของ Kandinsky ออกแสดง และเรียกชื่องานที่จัดแสดงว่า Degenerate Art (ศิลปะทราม) เพราะ Hitler ไม่ชอบภาพ Abstract ที่ Kandinsky วาดเลย แต่คนทั่วไปชอบ จึงได้หลั่งไหลเข้าชมงานแสดงมากถึง 2 ล้านคน หลังงานแสดง ทหารนาซีคิดจะนำผลงานของ Kandinsky ทั้งหมดไปเผา แต่ที่ปรึกษาของ Hitler ได้เสนอให้นำภาพของ Kandinsky ออกขาย เพื่อจะได้นำเงินเข้าประเทศ และขายได้บ้าง ส่วนงานที่ขายไม่ได้ ได้ถูกนำไปเผา ซึ่งได้ทำร้ายจิตใจของ Kandinsky อย่างรุนแรง<br /><br />
 
Kandinsky ทำงานที่ Bauhaus จนถึงปี 1933 สถาบันก็ถูกสั่งปิดโดย National Socialist Government (นาซี) เมื่อตกงาน Kandinsky ได้เดินทางออกจากเยอรมนี ไปพำนักที่เมืองเล็ก ๆ ในแถบเทือกเขา Pyrenees ของฝรั่งเศส แล้วกลับไป Paris เพื่อรักษาตัว จนเสียชีวิตเมื่ออายุ 73 ปี โดยก่อนเสียชีวิต 2 ปี กองทัพนาซีที่ Munich ได้นำผลงานศิลปะของ Kandinsky ออกแสดง และเรียกชื่องานที่จัดแสดงว่า Degenerate Art (ศิลปะทราม) เพราะ Hitler ไม่ชอบภาพ Abstract ที่ Kandinsky วาดเลย แต่คนทั่วไปชอบ จึงได้หลั่งไหลเข้าชมงานแสดงมากถึง 2 ล้านคน หลังงานแสดง ทหารนาซีคิดจะนำผลงานของ Kandinsky ทั้งหมดไปเผา แต่ที่ปรึกษาของ Hitler ได้เสนอให้นำภาพของ Kandinsky ออกขาย เพื่อจะได้นำเงินเข้าประเทศ และขายได้บ้าง ส่วนงานที่ขายไม่ได้ ได้ถูกนำไปเผา ซึ่งได้ทำร้ายจิตใจของ Kandinsky อย่างรุนแรง<br /><br />
 
ผลงานนวศิลป์ของ Kandinsky ส่วนใหญ่มีลักษณะเป็นศิลปะพื้นบ้านของรัสเซีย ดังจะเห็นได้จากการใช้สีต่างๆ ประชันกัน บนผืนผ้าใบ สำหรับสไตล์การวาดนั้น Kandinsky มีความคิดว่า ศิลปะคือสิ่งที่ไม่แสดงว่าเป็นภาพของอะไรเลย นอกจากความรู้สึกเท่านั้น ดังนั้นภาพของ Kandinsky บางภาพจึงดูไม่ออกว่าเป็นรูปภาพของอะไร<br />ผลงานชิ้นแรกๆ ของ Kandinsky ขณะนี้เก็บรักษาอยู่ที่ Stadtische Galorie ในมิวนิก โดยภาพที่วาดในช่วงนี้เป็นภาพที่แสดงพลังอารมณ์ (Expressionism) และนามธรรม (Abstract) ที่มีเส้นเรขาคณิตรูปแบบต่าง ๆ มากมาย ดังนั้นภาพของ Kandinsky และ Klee จึงดูคล้ายคลึงกัน แต่งานของ Kandinsky ออกแนวเล่นสนุกๆ กว่า
 
เมื่อถึงช่วงปลายของชีวิต ภาพของ Kandinsky ก็ยิ่งมีชีวิตชีวายิ่งกว่าภาพที่วาดในยุคต้นๆ โดยเฉพาะในช่วงหลังนี้ ภาพได้สร้างความรู้สึกให้แก่คนดูเสมือนว่ากำลังดูเหตุการณ์จากภายนอก และกำลังเข้าใจความคิดของจิตรกรที่อยู่เบื้องหลังสิ่งที่เห็น<ref>[http://www.portfolios.net/forum/topics/wassily-kandinsky#ixzz1zxj37oc6 Kandinsky]</ref> <br />
 
ผลงานนวศิลป์ของ Kandinsky ส่วนใหญ่มีลักษณะเป็นศิลปะพื้นบ้านของรัสเซีย ดังจะเห็นได้จากการใช้สีต่างๆ ประชันกัน บนผืนผ้าใบ สำหรับสไตล์การวาดนั้น Kandinsky มีความคิดว่า ศิลปะคือสิ่งที่ไม่แสดงว่าเป็นภาพของอะไรเลย นอกจากความรู้สึกเท่านั้น ดังนั้นภาพของ Kandinsky บางภาพจึงดูไม่ออกว่าเป็นรูปภาพของอะไร<br />
ผลงานชิ้นแรกๆ ของ Kandinsky ขณะนี้ประดิษฐานอยู่ที่ Stadtische Galorie ใน Munich โดยภาพที่วาดในช่วงนี้เป็นภาพที่แสดงพลังอารมณ์ (Expressionism) และนามธรรม (Abstract) ที่มีเส้นเรขาคณิตรูปแบบต่าง ๆ มากมาย ดังนั้นภาพของ Kandinsky และ Klee จึงดูคล้ายคลึงกัน แต่งานของ Kandinsky ออกแนวเล่นสนุกๆ กว่า<br />
<br />
เมื่อถึงช่วงปลายของชีวิต ภาพของ Kandinsky ก็ยิ่งมีชีวิตชีวายิ่งกว่าภาพที่วาดในยุคต้นๆ โดยเฉพาะในช่วงหลังนี้ ภาพได้สร้างความรู้สึกให้แก่คนดูเสมือนว่ากำลังดูเหตุการณ์จากภายนอก และกำลังเข้าใจความคิดของจิตรกรที่อยู่เบื้องหลังสิ่งที่เห็น<ref>[http://www.portfolios.net/forum/topics/wassily-kandinsky#ixzz1zxj37oc6 Kandinsky]</ref> <br />
== อ้างอิง ==
<references />