ผลต่างระหว่างรุ่นของ "พระยาศรีสิทธิสงคราม (ดิ่น ท่าราบ)"

เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
ไม่มีความย่อการแก้ไข
ไม่มีความย่อการแก้ไข
บรรทัด 6:
พระยาศรีสิทธิสงคราม ได้ศึกษาที่[[จักรวรรดิเยอรมัน|ประเทศเยอรมัน]]นานถึง 10 ปี ก่อนจะเดินทางกลับมายังประเทศไทย มีความเจริญก้าวหน้าในหน้าที่ราชการอย่างรวดเร็ว โดยได้รับยศเป็น [[พันเอก]] (พ.อ.) ตั้งแต่อายุ 37 ปี และได้รับ[[บรรดาศักดิ์ไทย|บรรดาศักดิ์]]เป็น พระยา เมื่ออายุได้ 40 ปี
 
ใน[[การปฏิวัติสยาม|การเปลี่ยนแปลงการปกครอง เมื่อปี]] [[พ.ศ. 2475]] นั้น พระยาศรีสิทธิสงครามได้ถูกชักชวนให้เข้าร่วมด้วย แต่พระยาศรีสิทธิสงครามไม่ขอเข้าร่วม เนื่องจากยึดมั่นในคำถวายสัตย์ แต่ก็ไม่ต่อต้าน โดยในเช้าวันที่ [[24 มิถุนายน]] ปีเดียวกันนั้นที่เกิดเหตุการณ์ ตัวของพระยาศรีสิทธิสงครามก็ได้หลบซ่อนตัวอยู่ในบ้านพักของพระยาพหลพลหยุหเสนาทั้งวัน<ref>หน้า 15, ''บันทึกพระยาทรงสุรเดช'' ([[พ.ศ. 2524]]) โดย [[นรนิติ เศรษฐบุตร]] และ[[ชาญวิทย์ เกษตรศิริ]]</ref>
 
จากนั้น พระยาศรีสิทธิสงคราม จึงถูกย้ายไปรับราชการใน[[กระทรวงศึกษาธิการ|กระทรวงธรรมการ]] (กระทรวงศึกษาธิการในปัจจุบัน) ต่อมาเมื่อ[[รัฐประหารในประเทศไทย เมษายน พ.ศ. 2476|เกิดความขัดแย้งกันในหมู่คณะราษฎร]] เมื่อ [[พระยามโนปกรณ์นิติธาดา]] ได้ใช้อำนาจนายกรัฐมนตรี ปิด[[รัฐสภา]] และงดใช้รัฐธรรมนูญบางมาตรา ซึ่งเป็นชนวนเหตุให้พระยาทรงสุรเดช, [[พระยาฤทธิอัคเนย์]] และ[[พระประศาสน์พิทยายุทธ]] ลาออกจากตำแหน่ง[[รายนามรัฐมนตรีของไทยที่ไม่ได้ประจำกระทรวง|รัฐมนตรี (ลอย)]] ก็เป็นพระยาศรีสิทธิสงครามที่ได้รับการแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งแทน และได้รับแต่งตั้งให้เป็นเจ้า[[กรมยุทธการทหารบก]] แต่ก็อยู่ในตำแหน่งได้เพียง 2 วันเท่านั้น ก็เกิดการ[[รัฐประหารในประเทศไทย มิถุนายน พ.ศ. 2476|รัฐประหารเมื่อวันที่ 20 มิถุนายน พ.ศ. 2476]] โดยกลุ่มของ พระยาพหลพลพยุหเสนา และ[[หลวงพิบูลสงคราม]] พระยาศรีสิทธิสงครามจึงถูกย้ายไปรับราชการที่กระทรวงธรรมการอีกครั้ง