ผลต่างระหว่างรุ่นของ "พระเจ้าเจมส์ที่ 2 แห่งอังกฤษ"

เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
Antelope (คุย | ส่วนร่วม)
ไม่มีความย่อการแก้ไข
Applezapotis (คุย | ส่วนร่วม)
ไม่มีความย่อการแก้ไข
บรรทัด 1:
{{ตรวจแก้รูปแบบ}}
[[ไฟล์:King James II from NPG.jpg|thumb|right|280px |[[สมเด็จพระเจ้าเจมส์ที่ 2 แห่งอังกฤษ]]หรือสมเด็จพระเจ้าเจมส์ที่ 7 แห่งสกอตแลนด์]]
[[ไฟล์:JamesIISig.svg|thumb|ลายเซ็นของพระองค์พระปรมาภิไธย]]
'''พระเจ้าเจมส์ที่ 2 แห่งอังกฤษ''' (พ.ศ. 2228 – พ.ศ. 2232) ทรงเป็น '''พระเจ้าเจมส์ที่ 7 แห่งสกอตแลนด์''' และเป็น '''กษัตริย์แห่งไอร์แลนด์''' ในเวลาเดียวกัน เสด็จขึ้นครองราชย์เมื่อวันที่ [[6 กุมภาพันธ์]] [[พ.ศ. 2228]] ถึง [[13 กุมภาพันธ์]] [[พ.ศ. 2232]] นับว่าทรงเป็นกษัตริย์ที่นับถือ[[นิกายโรมันคาทอลิก]]เป็นองค์สุดท้ายของอังกฤษ
 
เมื่อเทียบกับช่วงเวลาในประวัติศาสตร์ไทย สมเด็จพระเจ้าเจมส์ที่ 2 แห่งอังกฤษทรงครองราชย์ในเวลาเดียวกันกับระหว่างรัชสมัยของ[[สมเด็จพระนารายณ์มหาราช]]ใน[[สมัยกรุงศรีอยุธยา]]
บรรทัด 21:
พระเจ้าชารส์ได้ทรงกลับคืนสู่บัลลังก์
 
แม้ว่าพระเจ้าเจมส์ทรงเคยเป็นทายาทโดยการถือสิทธิ์ของพระองค์เอง แต่ดูเหมือนว่าพระองค์ทรงปรารถนาที่จะสวมมงกุฎเช่นเดียวกัน ในปี พ.ศ. 2203 พระเจ้าเจมส์ ซึ่งภายหลังได้ถูกแต่งตั้งให้เป็น ดยุคแห่งอัลบานี่อัลบานี ในแคว้นสก็อตแลนด์ ได้สมรสกับ แอนน์ ไฮด์ บุตรีของหัวหน้าคณะรัฐมนตรีของพระเจ้าชารส์ หรือ เอ็ดเวิร์ด ไฮด์ ขุนนางแห่งคราเร็นดอ
 
ในปี พ.ศ. 2208 – พ.ศ. 2210 พระเจ้าเจมส์ทรงได้รับการแต่งตั้งให้เป็นผู้บัญชาการทหารสูงสุด Lord High Admiral และเป็นผู้บัญชาการแห่งกองทัพราชนาวีอังกฤษอีกด้วย ต่อมาในระหว่างปี พ.ศ. 2215 – พ.ศ. 2217 ได้เกิดสงครามชื่อว่า Third Anglo-Dutch Wars ขึ้น ซึ่งสงครามนี้เกิดขึ้นจากการที่ในปี พ.ศ. 2211 อังกฤษ เนเธอร์แลนด์ และสวีเดน ได้ลงนามในสัญญาเข้าร่วมกันเป็นพันธมิตร เพื่อต่อต้านฝรั่งเศส ซึ่งต่อมาภายหลังพระเจ้าชารส์ที่ 2 ได้ทรงไปเซ็นสัญญาลับสุดยอด หรือสนธิสัญญาข้อตกลงว่าด้วยสันติภาพ Treaty of Dove กับฝรั่งเศสอีกในปี พ.ศ. 2213 ยังผลให้เกิดสงคราม The Third Anglo-Dutch War ขึ้นมาในที่สุด และในภายหลังอังกฤษเข้าร่วมกับฝรั่งเศสเพื่อบุก เนเธอร์แลนด์ ในปี พ.ศ. 2215 ผลพวงของการเกิดสงครามนี้ทำให้อังกฤษได้ดินแดนบางส่วนของเนเธอร์แลนด์ไป และตั้งชื่อใหม่ว่า นิวยอร์ก “New York” เพื่อเป็นเกียรติแก่พระองค์ ส่วนพื้นที่ทางริมฝั่งแม่น้ำฮัดสันถูกเปลี่ยนชื่อเป็น อัลบานี่ “Albany” อัลบานี เพื่อเป็นเกียรติแก่พระองค์เช่นเดียวกัน และพระองค์ก็ทรงเป็นผู้ก่อตั้ง ''บริษัท the Royal African Company เดอะรอยัลแอฟริกันคัมพะนี'' ซึ่งดำเนินกิจการเกี่ยวกับการค้า[[ทาส]]
 
{{เริ่มกล่อง}}