ผลต่างระหว่างรุ่นของ "ไพศาล พืชมงคล"

เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
Autchariyak (คุย | ส่วนร่วม)
ไม่มีความย่อการแก้ไข
เวอชั่นคุณไพศาลกลับมาอีกแล้ว!!! Autchariyak = คุณไพศาล แน่ๆตามที่ข้างล่างบอกเลย
บรรทัด 7:
== การทำงาน ==
 
เริ่มต้นชีวิตทำงานที่บริษัทสากลสถาปัตย์ ของนายเกียรติ วัฒนเวคิน ในขณะที่กำลังศึกษากฎหมายปีที่ 4 ได้รู้จักและฝากตัวเป็นศิษย์นายบุศย์ ขันธวิทย์ อดีตอธิบดีผู้พิพากษาภาค ***ได้รับถ่ายทอดวิชาและเชิงว่าความจากท่านบุศย์ ขันธวิทย์ มากที่สุด จนได้ชื่อว่าเป็นศิษย์เอก*** ต่อมาได้เขียนหนังสือชื่อ "ว่าด้วยการสืบพยาน“ ซึ่งเป็นหลักปฏิบัติในการประกอบอาชีพของทนายความ ในปี 2516 ไพศาลได้เข้าทำงานกับสำนักงานกฎหมายธรรมนิติ ของประดิษฐ์ เปรมโยธิน และได้รับช่วงดำเนินงานต่อ จากนั้นได้ปรับปรุงการบริหารสำนักงานกฎหมายด้วยการนำเอารูปแบบบริษัทเข้ามาจัดการ ขยายงานด้านบัญชี การอบรมสัมนา และสำนักพิมพ์
ไพศาล เริ่มต้นชีวิตทางการเมือง ในระหว่างเป็นนักศึกษา เป็นแกนนำเดินขบวนคัดค้านการขึ้นค่ารถเมล์ในสมัยรัฐบาลถนอม กิตติขจร เคยเข้าร่วมในการชุมนุมต่อต้านกฎหมายโบว์ดำที่เสนอโดยหลวงจำรูญเนติศาสตร์ รัฐมนตรีว่าการยุติธรรม และเคยเป็นหนึ่งในผู้ชุมนุมเดินขบวนในเหตุการณ์ 14 ตุลา หลังเหตุการณ์นี้แล้วก็ได้สนับสนุนให้ศิลปินกลุ่มหนึ่งจัดตั้งวงดนตรีคนจนเพื่อเคลื่อนไหวกรรมกร เป็นผู้แต่งเพลงให้กับวงดนตรีคนจนหลายเพลง เช่นเพลงศักดิ์ศรีกรรมกร โดยนำเอาทำนองเพลงไทยเดิมมาเป็นทำนองเพลงปลุกเร้าใจกรรมกร ซึ่งวงการผู้ใช้แรงงานได้ใช้เป็นเพลงร้องประจำตลอดมาจนบัดนี้
หลังเหตุการณ์ 6 ตุลา ผู้ปฏิบัติงานวงดนตรีคนจนได้หลบหนีการปราบปราม เข้าป่า ไปเข้าร่วมการต่อสู้กับพรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทย และหลายคนเสียชีวิตในการต่อสู้ ส่วนไพศาลยังคงเคลื่อนไหวในเมือง รับช่วงงานจากทองใบ ทองเปาด์ ซึ่งหลบหนีการปราบปรามเข้าป่าเช่นเดียวกัน โดยได้รับเป็นทนายความให้กับคณะนักศึกษาและประชาชนที่ถูกกล่าวหาว่าเป็นคอมมิวนิสต์ ต่อมาได้รับเชิญจากคณะกรรมการทหารภาคอีสานขึ้นไปเยี่ยมฐานที่มั่น พร้อมกับคณะอีกหลายคนที่พื้นที่กาฬสินธุ์ ได้พบและรู้จักกับลุงวัฒนา และลุงสยาม ในการเยี่ยมฐานที่มั่นครั้งนั้นด้วย