ผลต่างระหว่างรุ่นของ "ปรางค์กู่ จังหวัดชัยภูมิ"

เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
Pongsak ksm (คุย | ส่วนร่วม)
ปรางค์กู่ ถูกเปลี่ยนชื่อเป็น ปรางค์กู่ จังหวัดร้อยเอ็ด: ปรางกู่ มีหลายจังหวัด
 
Pakawat simatham (คุย | ส่วนร่วม)
ไม่มีความย่อการแก้ไข
ป้ายระบุ: ผู้ใช้แก้หน้าเปลี่ยนทาง
บรรทัด 1:
{{กล่องข้อมูล โรงเรียน
#เปลี่ยนทาง [[ปรางค์กู่ จังหวัดร้อยเอ็ด]]
| name = ปรางค์กู่
| en_name = Prang Ku
| image =
| location =หมู่บ้านหนองบัว ถนนบรรณาการ ตำบลในเมือง อำเภอเมืองชัยภูมิ จังหวัดชัยภูมิ รหัสไปรษณีย์ ๓๖๐๐๐
{{coord|15.806552|102.044395|region:NL_type:landmark|display=inline}}
| establish_date = สมัยพระเจ้าชัยวรมันที่ ๗ ระหว่าง พ.ศ. ๑๗๒๔-๑๗๖๓ หรือพุทธศตวรรษที่ ๑๘
| founder = พระเจ้าชัยวรมันที่ ๗
}}
“ปรางค์กู่” ตั้งอยู่ที่ถนนบรรณาการ บ้านหนองบัว ตำบลในเมือง อำเถอเมือง อำเภอเมืองชัยภูมิ ก็เป็นสถาปัตยกรรมอีกชิ้นหนึ่งที่ได้รับอิทธิพลจากขอม คำว่าปรางค์กู่นั้น เป็นชื่อเรียกของกลุ่มอาคารที่มีแผนผังและลักษณะแบบเดียวกันกับอาคารที่ เชื่อกันว่าเป็นอโรคยาศาลที่สร้างขึ้นในพุทธศตวรรษที่ 18 ในสมัยของพระเจ้าชัยวรมันที่ 7 ระหว่าง พ.ศ. ๑๗๒๔-๑๗๖๓
 
===ประวัติความเป็นมา===
 
ปรางค์กู่ เป็นอโรคยาศาลสร้างขึ้นสมัยพระเจ้าชัยวรมันที่ ๗ มีข้อความว่าให้อยู่ใต้พระบารมีของ[[พระพุทธเจ้า]] ผู้ทรงการ[[แพทย์]]คือ พระไภษัชยคุรุไวทูรยประภา ผู้ประทานความสุขเกษมและความไม่มีโรคให้แก่ประชาชน ปัจจุบันเป็นโบราณสถานที่สำคัญและมีสภาพสมบูรณ์ที่สุดแห่งหนึ่งใน[[จังหวัดชัยภูมิ]] และยังเป็นที่เคารพของคนในจังหวัดชัยภูมิเป็นอย่างสูงอีกด้วย
 
===ลักษณะทั่วไป===
 
ปรางค์กู่เป็นโบราณสถานอีกแห่งหนึ่ง ที่มีแผนผังและลักษณะเหมือนกับโบราณสถานที่ได้พบหลักฐานว่าเป็นอโรคยาศาล ที่สร้างขึ้นในพุทธศตวรรษที่ ๑๘ ก็คือ มีองค์ประธานอยู่ตรงกลาง ๑ องค์ บรรณาลัยด้านหน้า ๑ หลัง ล้อมด้วยกำแพงซึ่งมีโคปุระเฉพาะด้านหน้าทั้งหมด ก่อด้วยอิฐศิลาแลงยกเว้นกรอบประตูหน้าต่าง ทับหลัง เสาประดับล้วนเป็นหินทราย หันหน้าไปทางทิศตะวันออก ทิศตะวันออกเฉียงเหนือของปรางค์มีสระน้ำ ๑ สระ ยังคงสภาพสมบูรณ โดยเฉพาะองค์ประธานซึ่งมีผังเป็นรูปสี่เหลี่ยมจัตุรัสขนาด ๕ เมตร ย่อมุมไม้สิบสอง ด้านหน้ามีประตูทำเป็นมุขยื่นออกมา ผนังปรางค์อีก ๓ ด้านเป็นประตูหลอก จำหลักภาพตรงกลางเป็นพระพุทธรูปประทับนั่งปางสมาธิ ซึ่งจับท่อนพวงมาลัยไว้ด้วยมือทั้งสองข้าง ด้านข้างทางซ้ายและขวาจำหลักรูปพระโพธิสัตว์อวโลกิเตศวร ๔ กร กับรูปนางปรัชญาปารมิตา ด้านหน้ามีทับหลังเช่นกัน สันนิษฐานว่าสลักเป็นภาพเดียวกัน แต่ปัจจุบันลบเลือนมาก ที่ช่องประตูหลอกด้านทิศเหนือยังมีพระพุทธรูปศิลาปางสมาธิ ศิลปะแบบทวาราวดี ขนาดสูง ๑.๗๕ เมตร หน้าตักกว้าง ๗.๕ เมตร ประดิษฐานอยู่ ๑ องค์ ซึ่งเป็นของที่เคลื่อนย้ายมาจากที่อื่น
 
===ส่วนประกอบต่างๆ ของโบราณสถาน===
 
# ซุ้มโคปุระ คือ ที่อยู่ของพาหนะของเทพเจ้าที่รักษาพระองค์ มีเทพประจำ 8 ทิศ
# ปรางค์ประธาน มีพระพุทธรูปปางสมาธิอยู่ด้านใน มีเศียรที่ทำการสร้างขึ้นมาใหม่
# บรรณาลัย เป็นที่เก็บยาอยู่ขวามือของโบราณสถาน มีแท่นรูปเคารพ(แท่นโยนี)อยู่ข้างใน
# กำแพงล้อมปรางค์และประตูซุ้มทางเข้า-ออก
# บ่อน้ำ
 
===หลักฐานที่พบ===
 
ทิศตะวันออกเฉียงเหนือของปรางค์มีสระน้ำ ๑ สระ ยังคงมีสภาพสมบูรณ์ดีเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะองค์ประธานซึ่งมีแผนผังเป็นรูปสี่เหลี่ยมจตุรัส ขนาด ๕ เมตร ย่อมุมไม้สิบสองด้านหน้ามีประตูทำเป็นมุขยื่นออกมา ผนังปรางค์มี ๓ ด้าน เป็นประตูหลอก จำหลักภาพตรงกลางเป็นพระพุทธรูปปางสมาธิเหนือกาล ซึ่อถือพวงมาลัยไว้ด้วยมือทั้งสองข้าง ด้านข้างทางซ้ายและขวาจำหลักรูปพระโพธิสัตว์อวโลกิเตศวร ๔ กร กับรูปนางปรัชญาปารมิตาด้านหน้ามีทับหลังเช่นกัน สันนิษฐานว่าสลักเป็นภาพเดียวกัน แต่ปัจจุบันลบเลือนไปมากที่ช่องประตูหลอกด้านทิศเหนือยังมีพระพุทธรูปศิลา ศิลปะแบบทวาราวดี ขนาดสูง ๑.๗๕ เมตร หน้าตักกว้าง ๗.๕ เมตร ประดิษฐานอยู่ ๑ องค์ ซึ่งเป็นของที่เคลื่อนย้ายมาจากที่อื่น
 
===ภาพสลักที่สำคัญของโบราณสถาน===
 
# ภาพพระโพธิสัตว์อวโรกิเตศวร 4 กร
# ปรางค์ประธานจะมีหน้ากาล ด้านบนสลักภาพพระพุทธรูปปรางค์สมาธิ
# ทัพหลังมุขด้านทิศเหนือของปราสาทประธาน สันนิษฐานว่าเป็นภาพพระรัตนไตรมหายาน
# ภาพพุทธประวัติตอนเจ้าชายสิทธัตถะ เสด็จออกมามหาภิเนษกรมณ์ที่หน้าบันด้านทิศตะวันตกของบรรณาลัย
 
===งานประจำปี===
 
จะจัดขึ้นเมื่อตรงกับ ขึ้น ๑๓-๑๕ ค่ำ เดือน ๕ ของทุกปี โดยบริเวณที่จัดอยู่ ณ ลานกว้างรอบๆ องค์พระธาตุปรางค์กู่ ในงานจะมีทั้งมหรสพ แสง สี เสียง เครื่องเล่นต่างๆ เป็นต้น
 
===การเดินทาง===
 
ตั้งอยู่ที่ถนนบรรณาการ บ้านหนองบัว ตำบลในเมือง อำเถอเมือง อำเภอเมืองชัยภูมิ อยู่ห่างจากตัวจังหวัดประมาณ 3 กิโลเมตร จากจังหวัดชัยภูมิมาตามทางหลวงหมายเลข 202 ประมาณ 1 กิโลเมตรจะมีทางแยกเลี้ยวขวาเข้าปรางค์กู่ตามทางหลวงหมายเลข 2158 เป็นระยะทางประมาณ 2 กิโลเมตร