21,657
การแก้ไข
(จัดชิดไม้ยมก) |
|||
== การเผยแพร่สู่ประเทศไทย ==
แคนตาลูปเผยแพร่เข้ามาใน[[ประเทศไทย]]เมื่อประมาณปี พ.ศ. 2478 โดยนำมาปลูกที่[[จังหวัดเชียงใหม่]] แต่ไม่ได้ผลเนื่องจากแตงเป็นโรคตายเสียส่วนมาก ต่อมา ปี พ.ศ. 2493 - 2499 ได้นำมาทดลองปลูกที่เกษตรกลางบางเขน ([[มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์]]ในปัจจุบัน) ปรากฎว่าได้ผลดี โดยเฉพาะแคนตาลูปพันธุ์ริโอโกลด์ จาก[[สหรัฐอเมริกา]] ให้ผลบางผลมีน้ำหนักถึง 4 กิโลกรัม{{อ้างอิง}} จึงได้มีการขยายการปลูกออกไป
== ลักษณะทั่วไป ==
ลักษณะทั่วไปของแคนตาลูป คือ มีลักษณะ
== สภาพดินฟ้าอากาศที่เหมาะสม ==
'''พันธุ์ซันเลดี้''' มีผลกลมรีรูปไข่ เปลือกมีผิวเกลี้ยง สีขาวครีม เนื้อหนาสีส้ม นุ่ม มีน้ำมาก รสหวานจัดและมีกลิ่นหอม ติดผลมาก แต่มีอายุสั้น ปลูกง่าย
'''พันธุ์ซันไรท์''' เป็นแตงพันธุ์เบา มีผลดก ผลมีสีเหลืองอ่อน มีลายเป็นตาข่ายทั้งผล เนื้อในมีสีส้ม
'''พันธุ์ซูก้าบอลล์''' ลักษณะของต้นกะทัดรัด ปลูกระยะถี่ได้ ผลมีผิวเรียบ สีครีมหรือเกือบขาว เนื้อหนา สีหยกเขียว หวานจัด รสชาติดี ขนาดของผลปานกลาง มีน้ำหนักประมาณ 800 กรัมต่อผล ทนทานต่อความร้อนได้ดี
'''พันธุ์มิลกี้เวย์''' มีลำต้นแข็งแรง ปลูกง่าย ผลดก ผลมีสีเขียวโปร่งแสง ผลโตขึ้นเปลี่ยนเป็นสีขาวครีม เนื้อหนา กลิ่นหอมแรง มีปริมาณน้ำตาลสูง ผลใหญ่ น้ำหนักเฉลี่ยประมาณ 1 - 2 กิโลกรัม
'''พันธุ์ซิลเวอร์ไลท์''' เป็นแตงพันธุ์เบาที่มีลำต้นแข็งแรง ปรับเข้ากับสภาพอากาศที่ร้อนชื้นได้ดี มีผลทรงแป้น ผิวของผลสีขาวอมเขียว เนื้อสีเขียวอ่อน รสหวาน ผล
'''พันธุ์โกลเด้นบิวตี้''' มีลำต้นแข็งแรง ผลดก เนื้อในมีสีขาวขุ่น เนื้อนุ่ม กรอบ รสหวาน น้ำหนักประมาณ 400 กรัมต่อผล
'''พันธุ์บิลเซพทูรี''' ผลมีลักษณะกลมยาว ผิวของผลสีเหลืองอมเขียว
'''พันธุ์สกายรอคเก็ท''' ลักษณะของผลทรงกลม สีเขียว มีลายร่างแห เนื้อในสีเขียว รสหวาน แต่ละผลมีน้ำหนักประมาณ 1 กิโลกรัม
'''พันธุ์สวอน''' ลักษณะของผลเกือบกลม ต้น
'''พันธุ์เมอริสนัมเบอร์ทู''' ผลสีเหลืองสดใส ผิวเรียบ เนื้อหนาปานกลางสีขาวและกรอบ
'''พันธุ์เจด ดิว''' ผลเกือบกลม ขนาดค่อนข้างใหญ่ ผิวของผลเรียบ มีลายเส้นเล็กน้อย ผิลของผลสีเขียวอมเหลือง เนื้อหนาสีเขียว มีรสหวานอร่อยดีมาก แต่ละผลมีน้ำหนักเฉลี่ยประมาณ 1.3 กิโลกรัม
'''พันธุ์ซัน บิวตี้''' ผลกลมสีขาวอมเหลือง ผิวมีร่อง
'''พันธุ์เจด''' ผลมีทรงกลม ผิวของผลมีลักษณะเรียบ มีสีขาวอมเขียว เนื้อในหนาปานกลางสีเขียวอ่อน กรอบ รสหวาน แต่ละผลมีน้ำหนักเฉลี่ยประมาณ 500 กรัม
== การเพาะปลูก ==
===การปลูกด้วยต้นกล้า===
เมื่อเราเตรียมดิน กะระยะปลูก และขุดหลุมปลูกไว้แล้ว เพื่อป้องกันไส้เดือนฝอยจะเข้าทำลายรากของพืชที่เราปลูก ก่อนที่จะนำต้นกล้าลงปลูกในหลุมควรใช้ยาฟูราดานหรือใส่ลงไปในก้นหลุมก่อน หลุมละประมาณ 1 กำมือหรือใช้สตาร์เกิล จีรองก้นหลุมอัตรา 2 กรัมต่อหลุมปลูก คลุกเคล้าให้เข้ากับดินในหลุมปลูก แล้วนำถุงต้นกล้าที่เพาะไว้ได้ขนาดแล้ว มากรีดถุงพลาสติกและดึงออกให้เหลือแต่เบ้าดินที่ห่อหุ้มรากลงปลูกในหลุม กลบดิน
===การปลูกด้วยเมล็ด===
ให้คัดเลือกเอาเฉพาะเมล็ดที่สมบูรณ์และเต็มเต่งเท่านั้น หยอดลงไปในหลุมปลูกที่เราได้เตรียมไว้หลุมละ 3 - 4 เมล็ด กลบดินให้มิดเมล็ด นำหญ้าแห้ง ฟาง ใบไม้
== การป้องกันกำจัดโรคและแมลง ==
1. '''โรคเหี่ยว''' สาเหตุเกิดจากเชื้อราฟูราเซี่ยนที่อยู่ในดิน เข้าทำลายลำต้น ทำให้ลำต้นแตก เน่าที่โคนต้นหรือตามซอกใบ มีเชื้อราสี
2. '''โรคเน่าคอดิน''' สาเหตุเกิดจากพื้นดินมีความชื้นสูงหรือแฉะ เพราะให้น้ำมากเกินไป และได้รับแสงแดดน้อยเกินไป หรือเป็นเพราะให้ปุ๋ยไนโตรเจนมากเกินไป ทำให้ที่โคนต้นมีรอยคล้ายรอยช้ำ และเน่าบริเวณคอดิน วิธีป้องกันกำจัดคือ ใช้ยาแคปแทนเอ็ม 45 หรือเบมเลทฉีดพ่นต้นกล้า สัปดาห์ละ 1 ครั้งจนกว่าจะหาย
3. '''โรคแอนแทรกโนต''' สาเหตุเกิดจากเชื้อราเข้าทำลายเมื่อผลมีความชื้นมาก ลักษณะอาการที่พบจะเป็นจุดฉ่ำน้ำ
4. '''โรคราน้ำค้าง''' สาเหตุเกิดจากเชื้อราเข้าทำลายทางใบ ลักษณะอาหารที่พบจะเป็นจุดสีเหลืองหรือสีน้ำตาลขนาดเล็ก และค่อยขยายเป็นวงใหญ่จนเต็มใบ เราจะสังเกตเห็นสปอร์สีดำที่รอยแผลในตอน
5. '''เพลี้ยไฟ''' สาเหตุเกิดจากเพลี้ยไฟเข้าดูดกินน้ำเลี้ยงที่ยอด ลักษณะอาการที่พบคือ ต้นจะชะงักการเจริญเติบโต ยอดหงิกงอ ผิวของผลแคนตาลูปมีตำหนิไม่สวยงาม วิธีป้องกันกำจัดคือ ให้ใช้ยาอโซลดรินหรือทาราโซนฉีดพ่นสลับกับยาแลนเพทในขณะที่อากาศไม่ร้อนจัด
== รวมภาพ ==
|
การแก้ไข