ผลต่างระหว่างรุ่นของ "อนุศาสนาจารย์"

เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
ไม่มีความย่อการแก้ไข
ไม่มีความย่อการแก้ไข
บรรทัด 4:
บทบาทของอนุศาสนจารย์ในความหมายเดิมคือ Chaplain ในภาษาอังกฤษนั้น ทำงานทั้งในสถาบันศาสนา สถาบันการศึกษา โรงพยาบาล และกองทัพด้วย แต่ในภาษาไทย คำว่า อนุศาสนาจารย์ ใช้ค่อนข้างเป็นการเฉพาะจำกัดในกองทัพเท่านั้นก่อนเป็นหลัก มิได้ใช้ทั่วไปนอกกองทัพมากนัก (เว้นแต่ในราชการของกรมราชทัณฑ์) และมีความหมายต่างจาก ศาสนาจารย์ (Minister) ในศาสนาคริสต์บางนิกาย ซึ่งไม่ได้หมายถึงข้าราชการทหาร
 
ในยุคแรกเริ่มก่อตั้งในประเทสไทยประเทศไทย พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 6 ทรงพระกุรณาโปรดเกล้าฯ ให้จัดให้มีอนุศาสนาจารย์ออกไปประจำในกองทัพสยามที่ออกไปงานพระราชสงคราม ณ ทวีปยุโรป (คือสงครามโลกครั้งที่ 1) โดยจัดจากข้าราชการพลเรือนที่มีความรู้ทางพุทธศาสนาดีในระดับเปรียญ ต่อมาสมัยหลังจึงมีอนุศาสนาจารย์ที่เป็นนายทหาร มีอนุศาสนาจารย์ในกรมตำรวจ (สำนักงานตำรวจแห่งชาติ) และขยายไปทางราชการพลเรือน คือตำแหน่งอนุศาสนาจารย์ในกรมราชทัณฑ์ ซึ่งทำงานดูแลนักโทษ เพิ่มขึ้นมาด้วย
 
ในชั้นนี้ ในกองทัพไทยทั้งสามเหล่าและสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ยังไม่ปรากฏว่ามีตำแหน่งอนุศาสนาจารย์ศาสนาอื่นๆ นอกจากพุทธศาสนาเท่านั้น (ในกองทัพประเทศอื่นๆ บางประเทศ เช่น กองทัพสหรัฐฯ มีตำแหน่งอนุศาสนาจารย์ชาวคริสต์ อิสลาม ยิว ฮินดู และพุทธด้วย)