ผลต่างระหว่างรุ่นของ "สมาคมช่างนักบุญลูกา"

'''สมาคมเซนต์ลูคช่างนักบุญลูกา''' ([[ภาษาอังกฤษ]]: '''{{lang-en|Guild of Saint Luke'''}}) เป็นชื่อที่ใช้กันโดยทั่วไปสำหรับสมาคมสำหรับช่างจิตรกรและศิลปินอื่นๆอื่น ๆ ทางตอนเหนือของยุโรปโดยเฉพาะในบริเวณ[[กลุ่มประเทศแผ่นดินต่ำ]] เป็นชื่อที่ตั้งเป็นเกียรติแก่[[นักบุญลูคอีแวนเจลลิส]][[ลูกาผู้นิพนธ์พระวรสาร]] ที่ตำนานกล่าวกันว่าเป็นผู้วาดภาพเหมือนของ[[พระแม่มารีรีย์]]<ref>Howe.</ref> ฉะนั้นนักบุญลูคลูกาจึงกลายมาเป็นนักบุญผู้พิทักษ์องค์อุปถัมภ์จิตรกรและศิลปินโดยทั่วไป

สมาคมเซนต์ลูคช่างนักบุญลูกาที่มีชื่อเสียงที่สุดก่อตั้งขึ้นที่[[อันทเวิร์พ]].<ref>Ford-Wille.</ref> และมีบทบาทต่อมาจนปี ค.ศ. 1795 เมื่อมาหมดอำนาจลง ในเมืองต่างๆ รัฐบาลท้องถิ่นมอบอำนาจให้สมาคมออกกำหนดเกี่ยวกับอาชีพภายในแต่ละเมืองที่สมาคมตั้งอยู่ ฉะนั้นสมาชิกของสมาคมจึงต้องเป็นมาสเตอร์ที่ต้องได้รับการศึกษาและการฝึกหรือขายภาพเขียนให้แก่สาธารณชน กฎที่คล้ายคลึงกันปฏิบัติที่เดลฟท์ที่ผู้ที่เป็นสมาชิกของสมาคมเท่านั้นที่จะมีสิทธิขายภาพเขียนหรือตั้งห้องเขียนภาพได้<ref>Montias (1977): 98.</ref> สมาคมแรกๆแรก ๆ ในอันทเวิร์พและบรูจส์สร้างหลักเกณฑ์ที่ใช้เป็นตัวอย่างในการก่อตั้งสมาคมในเมืองอื่นๆ แม้แต่กฏการตั้งห้องเขียนภาพหรือการตั้งแผงขายภาพโดยตรงต่อสาธารณชน<ref name="prak248">Prak (2003): 241.</ref>

สมาคมเซนต์ลูคช่างนักบุญลูกาไม่แต่เพียงเป็นผู้แทนจิตรกร, ประติมากร และทัศนศิลปิน แต่ยังรวมถึงผู้ค้าขายศิลปะ, ศิลปินสมัครเล่น และแม้แต่ผู้รักศิลปะ (liefhebbers)<ref name="prak249">Prak (2004): 249.</ref> ในยุคกลางสมาชิกส่วนใหญ่ของทุกสมาคมที่เกี่ยวกับศิลปะมักจะเป็น[[หนังสือวิจิตร|จิตรกรหนังสือวิจิตร]] ซึ่งเป็นสมาคมเดียวกับจิตรกรที่เขียนบนไม้และผ้า - ในบางเมืองก็จะอาจจะรวม “ผู้คัดเขียน” (scriveners) ด้วย นอกจากนั้นก็อาจจะรวมช่างทาสีบ้านและช่างตกแต่งด้วย แต่เมื่อศิลปินก่อตั้งเป็นสมาคมเซนต์ลูคขึ้นมาต่างหากโดยเฉพาะในเนเธอร์แลนด์ ความแตกต่างของผู้เป็นสมาชิกก็เปลี่ยนไป<ref name="smith432">Smith (1999): 432.</ref> นอกจากจากกฏทั่วไปเกี่ยวกับการอาชีพแล้วโดยทั่วไปสมาคมก็ยังมีอำนาจในการตัดสินข้อขัดแย้งระหว่างศิลปินกับศิลปิน หรือศิลปินกับลูกค้าด้วย<ref name="prak249" /> สรุปแล้วสมาคมก็มีอำนาจควบคุมอาชีพส่วนบุคคลของจิตรกรที่ในเมืองที่ไม่มีสมาคมศิลปินต้องแก่งแย่งกันเอง