ผลต่างระหว่างรุ่นของ "กุสทัฟ คลิมท์"
เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
Love Krittaya (คุย | ส่วนร่วม) ล แทนที่ " " → "" ด้วยสจห. |
|||
บรรทัด 1:
{{ต้องการอ้างอิง}}
{{ตรวจลิขสิทธิ์}}
[[ไฟล์: Gustav_Klimt.jpg|thumb|250px|กุสตาฟ คลิมต์]]
'''กุสตาฟ คลิมต์''' (เกิด [[14 กรกฎาคม]] [[พ.ศ. 2405]] ถึงแก่กรรม [[6 กุมภาพันธ์]] [[พ.ศ. 2461]]) จิตรกร[[ชาวออสเตรีย]]และ[[มัณฑนากร]]หัวก้าวหน้าแห่งออสเตรียในช่วงปลาย[[คริสต์ศตวรรษที่ 19]] อันเป็นช่วงเวลาที่ศิลปะแนวใหม่ หรือ [[Art Nouveau]] กำลังงอกงามใน[[ยุโรป]] ผลงานของเขาแสดงให้เห็นถึงจุดเหลื่อมระหว่าง[[ศิลปะประยุกต์]] ที่สร้างเพื่อ[[การตกแต่ง]] กับงาน[[วิจิตรศิลป์]]ที่[[ศิลปิน]]สร้างขึ้นเพื่อเสนอสาระและคุณค่าในตัวงาน
บิดาเป็นช่างแกะสลัก ชีวิตในวัยเด็กของ Klimt ลำบากมากเพราะครอบครัวยากจนและการจ้างงานในสมัยนั้นมีน้อย เมื่ออายุ 14 ปี Klimt ได้เข้าศึกษาที่
Vienna School of Arts and Crafts เป็นเวลา 7 ปี เมื่อสำเร็จการศึกษา Klimt กับพี่ชายและเพื่อนได้รับงานตกแต่งเพดานและผนังของพิพิธภัณฑ์
เส้น 12 ⟶ 13:
จากจักรพรรดิ Franz Josef ที่ 1 แห่งออสเตรียในฐานะผู้มีผลงานศิลปะดีเยี่ยม และได้รับเลือกเป็นสมาชิกกิตติมศักดิ์แห่งมหาวิทยาลัยมิวนิกและมหาวิทยาลัยเวียนนาด้วย
และรับภาระเลี้ยงดูครอบครัวของพี่ชายด้วย อาการซึมเศร้าทำให้ Klimt หมดความรู้สึกต้องการวาดภาพเป็นเวลานานถึง 5 ปี จนกระทั่งอายุ 35 ปี
จึงเริ่มหยิบแปรงวาดภาพอีก เมื่อ Klimt ได้รู้จัก Emilie Flöge ทั้งๆ ที่ Flöge รู้ดีว่า Klimt มีความสัมพันธ์กับสตรีอื่นอีกหลายคน
แต่เธอก็ยินดีเป็นทั้งนางแบบ ชู้รัก และเพื่อนรักของ Klimt จนตลอดชีวิตของเขา
และ Symbolism ประสบการณ์เหล่านี้ ได้กระตุ้นให้ Klimt คิดสร้างศิลปะรูปแบบใหม่ที่เป็นเอกลักษณ์ของชาวออสเตรียโดยเฉพาะ หลังจากนั้นไม่นานคนออสเตรียก็เริ่มรู้จักภาพวาดสไตล์
Art Nouveau Klimt เป็นคนที่มีความรักชาติสูง ในปี 1897 เขาจึงจัดตั้งสมาคม Vienna Secession เพื่อรวบรวมภาพของศิลปินมือใหม่ที่เป็นชาวออสเตรียมาจัดแสดงและขาย
เส้น 23 ⟶ 24:
และสมาคมได้ออกนิตยสาร สมาคมจึงมีอิทธิพลและเกียรติมาก ผลงานนี้เองที่ทำให้ Klimt ได้รับเลือกเป็นนายกสมาคมคนแรก
Philosophy, Medicine and Jurisprudence ถูกมหาวิทยาลัยปฏิเสธที่จะรับเพราะมีส่วนที่สื่อความ “อนาจาร” ของสตรีเปลือย Klimt
จึงลาออกจากการเป็นสมาชิกสมาคมแล้วเริ่มชีวิตวาดภาพอย่างอิสระโดยใช้สีฝุ่น ทองคำเปลวและเงินเปลวในภาพ และจัดภาพในลักษณะที่ช่องว่างระหว่างรูปวาดมีความสำคัญพอๆ
กับรูป อีกทั้งสีที่ใช้ก็เข้มและรุนแรงขึ้นดังภาพ Nuda Veritas ที่ Klimt วาดเมื่ออายุ 37 ปี เป็นภาพสตรีเปลือย ผมแดง ยืนถือกระจกส่องความจริง
และเริ่มได้รับการยอมรับว่ามีอิทธิพลต่อจิตรกรออสเตรียรุ่นใหม่ๆ เช่น Kokoschka และ Schiele
ก็ได้รับความนิยมนำไปติดประดับในหอพักนิสิต มหาวิทยาลัยในอเมริกายิ่งกว่าภาพ Sunflowers ของ van Gogh เสียอีก ในปี 2003 ภาพ Landhaus am Attersee
ของ Klimt ถูกนำออกขายได้ในราคา 29.1 ล้านดอลลาร์ และเมื่อเดือนกรกฎาคม ค.ศ.2006 ภาพ Portrait of Adele Bloch-Bauer I ที่ Klimt วาดในปี 1907
เส้น 44 ⟶ 45:
ไม่มีศิลปินคนใดดึงดูดผู้คนได้มากเท่า Klimt เลย
ภาพของ Klimt ไม่เป็นธรรมชาติร้อยเปอร์เซ็นต์ เพราะบางครั้งได้เน้นคุณลักษณะของสตรีบางประการเกินจริง และบางครั้งก็เน้นน้อยเกินไป
ภาพที่มีชื่อเสียงมักมีฉากหลังเป็นลวดลายคล้ายปีกผีเสื้อหรือหางนกยูง นอกจากนี้ภาพสตรีของ Klimt มักจะสื่อความรู้สึกของการมีเสรีภาพในการแสวงหากามรส
เส้น 50 ⟶ 51:
โอกาสเช่นนี้ทำให้เหล่าเธอสามารถมีสัมพันธ์กับ Klimt ได้ จนเป็นที่เลื่องลือว่า Klimt มีลูกถึง 14 คน
จนเมื่อ Klimt นำ Art Nouveau ออกสู่สายตาชาวโลกเมื่อ 100 ปีก่อน ทุกคนก็ตระหนักว่าศิลปะสมัยใหม่แห่งเวียนนาหมายถึงภาพที่แสดงเสรีภาพทางเพศของสตรี
แก่ทายาทที่ถูกต้องตามกฎหมายของมหาเศรษฐีนักธุรกิจชาวออสเตรียเชื้อสายเชโกสโลวาเกียชื่อ Ferdinand Bloch-Bauer ภาพทั้ง 5 ภาพได้แก่
Beech woods (1903), Apple Tree (1911-1912), Houses in Unterach on the attersee (1906), Adele Bloch-Bauer I (1907)
เส้น 63 ⟶ 64:
และเมื่อเขาทำได้สำเร็จ Lauder ได้ซื้อภาพ Adele Bloch-Bauer I จาก Altmann ไปในราคา 135 ล้านเหรียญ
ก็ถูก Georges Jorisch ผู้เป็นหลานของ Amalie Redlich อ้างว่า ภาพดังกล่าวได้ถูกปล้นไปจาก Amalie เมื่อทหารนาซีส่งเธอไปเข้าค่ายกักกันในโปแลนด์
และเธอได้เสียชีวิตที่นั่น ทั้งๆ ที่ Jorisch มีหลักฐานต่างๆ สนับสนุน แต่ Leonard Lauder ได้ปฏิเสธข้ออ้างทุกประเด็นโดยให้เหตุผลว่า
เขามีหลักฐานการเป็นเจ้าของภาพที่ถูกต้องตามกฎหมายทุกประการ การฟ้องร้องและการต่อสู้เรื่องนี้คงต้องใช้เวลาอีกนานกว่าจะรู้ผลสุดท้าย
ภาพเลสเบียนสองคนนอนเปลือยกายกอดกัน ภาพผู้หญิงกำลังสำเร็จความใคร่ ภาพสตรีมีครรภ์ และภาพสตรีที่มีฐานะสังคมเพราะได้สามีรวย
เช่น ภาพ Adele Bloch-Bauer I หญิงผู้มีสามีชื่อ Ferdinand Bloch-Bauer และขณะนั่งเป็นแบบเธอได้ลอบมีสัมพันธ์กับ Klimt
แต่เมื่อ Klimt วาดภาพ Adele Bloch-Bauer II ในปี 1912 เสน่ห์ของเธอได้ลดลงไปมากแล้ว และนั่นก็หมายความว่าสัมพันธ์สวาทระหว่างคนทั้งสองก็ได้จางสิ้นไปแล้วด้วย
เพราะเมื่อภาพถูกนำออกแสดงในสัปดาห์แรกของงานสถิติผู้เข้าชมได้เพิ่มขึ้น 25 เปอร์เซ็นต์ทันที
<!-- เกี่ยวกับผู้เขียน สุทัศน์ ยกส้าน ประวัติการทำงาน - ศาสตราจารย์ ระดับ 11 ภาควิชาฟิสิกส์ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ, นักวิทยาศาสตร์ดีเด่นและนักวิจัยดีเด่นแห่งชาติ สาขากายภาพและคณิตศาสตร์▼
ประวัติการศึกษา - ปริญญาตรีและโทจากมหาวิทยาลัยลอนดอน, ปริญญาเอกจากมหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนีย อ่านบทความ สุทัศน์ ยกส้าน ได้ทุกวันศุกร์ -->▼
▲ประวัติการทำงาน - ศาสตราจารย์ ระดับ 11 ภาควิชาฟิสิกส์ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ, นักวิทยาศาสตร์ดีเด่นและนักวิจัยดีเด่นแห่งชาติ สาขากายภาพและคณิตศาสตร์
▲ประวัติการศึกษา - ปริญญาตรีและโทจากมหาวิทยาลัยลอนดอน, ปริญญาเอกจากมหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนีย
== ผลงานที่มีชื่อเสียง ==
|