ผลต่างระหว่างรุ่นของ "พระครูวรเวทมุนี (อี๋ พุทฺธสโร)"

'''หลวงพ่ออี๋ พุทธสโร''' ([[1 ตุลาคม]] [[พ.ศ. 2408]] — [[20 กันยายน]] [[พ.ศ. 2489]]) ท่านเป็นอดีตเจ้าอาวาส[[วัดสัตหีบ]] จังหวัดชลบุรี ท่านเป็นที่พึ่งในสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 ซึ่งตรงกับสมัย[[รัชกาลที่ 8]]ของไทย อาจมีคนที่ยังไม่ลืมภาพอดีตนั้น ภาพของหลวงพ่ออี๋ที่ยกผ้าเหลืองโบกไปโบกมา พร้อมทั้งยืนบริกรรมพระคาถาอย่างสงบนิ่ง ลูกระเบิดที่หย่อนมาจากเครื่องบินฝ่ายสัมพันธมิตรหมายถล่มตลาดและฐานทัพเรือให้ราบเป็นจุล กลับเบี่ยงเบนปลิวไปตกในทะเลจนหมดสิ้น ไม่อาจทำลายฐานทัพเรือและชีวิตของประชาชนลาวอำเภอสัตหีบได้ นับแต่นั้นมาหลวงพ่ออี๋จึงได้รับการกล่าวนามถึงในความเข้มขลังศักดิ์สิทธิ์ ช่วยรักษาชีวิตให้รอดปลอดภัยกันถ้วนหน้า ท่านเป็นอาจารย์ของพระเกจิอาจารย์ไทยชื่อดังมากมายเช่น [[หลวงปู่ทิม วัดละหารไร่]] (อดีตเจ้าอาวาสวัดละหารไร่)

== ประวัติ ==

 

'''หลวงพ่ออี๋ พุทธสโร''' ท่านเป็นชาวจังหวัดชลบุรี ท่านเกิดเมื่อปี [[พ.ศ. 2408]] ตรงกับปลายรัชสมัยของ[[พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว]] เป็นบุตรของนายขำ และนางเอียง ทองขำ อุปสมบทเมื่ออ่ยุเบญจเพส ณ วัดอ่างศิลานอก อำเภอศรีราชา โดยมีพระอุปัชฌาย์จั่น วัดเสม็ด เป็นพระอุปัชฌาย์ [[พระครูภาวนาภิรัต (ทิม อิสริโก)|พระอาจารย์ทิม]] เป็นพระกรรมวาจาจารย์ พระอาจารย์แดง เป็นพระอนุสาวนาจารย์ ได้รับฉายาว่า '''พุทธสโร''' ได้อยู่ศึกษาธรรมมะและเวทมนตร์ต่างๆกับพระอาจารย์แดงถึง 6 พรรษา กอ่นไปฝากตัวเป็นศิษย์กับ หลวงพ่อปาน วัดคลองด่าน ซึ่งช่วงนั้นมีชื่อเสียงมาก และท่านยังได้ออกธุดงควัตรไปทั่วทุกภาคของประเทศไทย เมื่อบังเกิดความกล้าแข็งทางจิต สัมฤทธิ์ในธรรมแล้ว จึงเดินทางกับมาสร้างวัดสัตหับขึ้น ใช้เวลาเพียง 5 ปีจึงสมบูรณ์ ท่านได้ใช้วิชาอาคมอันแก่กล้ามาสร้างและปลุกเสกเครื่องรางของขลังต่างๆมาแจกกับศิษยานุศิษย์ โดยเฉพาะปลัดขิกนั้นโด่งดังที่สุดในเมืองไทย เป็นที่เลื่องลือในคุณวิเศษมาจนถึงทุกวันนี้ ท่านมรณภาพในท่านั่งสมาธิเมื่อวันที่ [[20 กันยายน]] [[พ.ศ. 2489]] ตรงกับช่วงเวลาระหว่างรัชสมัยของ[[พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรมหาอานันทมหิดล พระอัฐมรามาธิบดินทร]] ถึง [[พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช]] (รัชกาลปัจจุบัน)สิริอายุได้ 81 ปี 61 พรรษา