ผลต่างระหว่างรุ่นของ "พระมหาปชาบดีโคตมีเถรี"

เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
Mixvasuvadh (คุย | ส่วนร่วม)
ไม่มีความย่อการแก้ไข
Robosorne (คุย | ส่วนร่วม)
ไม่มีความย่อการแก้ไข
บรรทัด 23:
'''พระนางมหาปชาบดี''' ทรงเป็นพระราชธิดาใน [[พระเจ้าอัญชนาธิปราช]]แห่งกรุงเทวทหะ และทรงเป็นพระขนิษฐภคินี (น้องสาว) ของ[[พระนางสิริมหามายา]]พระพุทธมารดา ดังนั้นพระนางมหาปชาบดีโคตมี จึงทรงเป็นพระมาตุจฉาของ[[พระโคตมพุทธเจ้า]] ทรงเป็น[[ภิกษุณี]]รูปแรกใน[[พระพุทธศาสนา]] และทรงได้เรียนกรรมฐานและทรงปฏิบัติอย่างจริงจัง จนได้บรรลุพระ[[อรหันต์]] พระพุทธจ้าทรงยกย่องท่านว่าเป็น[[เอตทัคคะ]] คือ เลิศกว่าผู้อื่นในทางรัตตัญญู (คือ ผู้มีประสบการณ์มาก)
 
พระนางมหาปชาบดีโคตมี ทรงเป็นพระมาตุจฉาของพระพุทธเจ้า และเมื่อพระนางสิริมหามายาสิ้นพระชนม์แล้ว หลังจากที่เจ้าชายสิทธัตถะประสูติได้ 7 วัน ในกาลต่อมา [[พระเจ้าสุทโธทนะ]]ได้ทรงตั้งพระนางมหาปชาบดีโคตมีไว้ในตำแหน่งพระอัครมเหสี ซึ่งพระนางได้ทรงเลี้ยงดูเจ้าชายสิทธัตถะ เสมือนเป็นพระราชโอรสของพระนางเอง พระนางทรงมีพระราชโอรสพระองค์หนึ่งพระนามว่า [[พระนันทเถรศากยะ|นันทะ]] และมีพระราชธิดาพระองค์หนึ่งพระนามว่า รูปนันทา
 
พระนางได้ทรงแสดงความประสงค์จะบวชต่อพระพุทธเจ้าในคราวที่พระองค์เสด็จไปโปรดพระพุทธบิดาและพระประยูรญาติ ณ [[กรุงกบิลพัสดุ์]] แต่พระพุทธเจ้ามิได้ทรงอนุญาตให้พระนางอุปสมบท เนื่องจากยังไม่เคยทรงอนุญาตให้สตรีอุปสมบทในพระพุทธศาสนา ต่อมาเมื่อพระพุทธเจ้าเสด็จไปเมือง[[เวสาลี]]และประทับอยู่ที่ กูฏาคารศาลา[[ป่ามหาวัน]] พระนางปชาบดีโคตมีพร้อมด้วยนางสากิยานีจำนวนมาก จึงได้ปลงพระเกศา ห่มผ้ากาสายะ เป็นการแสดงเจตนาที่จะบวชอย่างแรงกล้า โดยเสด็จไปยังกูฏาคารศาลาป่ามหาวัน เมืองเวสาลี เพื่อทรงทูลขออุปสมบท โดยพระนางได้ทรงแจ้งพระประสงค์ต่อ[[พระอานนท์]]ให้นำความไปกราบทูลพระพุทธเจ้า ขอให้พระนางพร้อมทั้งเหล่านางสากิยานีได้อุปสมบทเป็นภิกษุณีในพระพุทธศาสนา ซึ่งพระอานนท์ใช้ความพยายามอยู่หลายหน พระพุทธเจ้าจึงทรงออกหลัก ปฏิบัติเป็นพิเศษสำหรับสตรีผู้ที่จะเข้ามาบวชในพระพุทธศาสนา คือ[[ครุธรรม 8]] ซึ่งพระนางมหาปชาบดีโคตมี ทรงยินดีปฏิบัติตามครุธรรม ทั้ง 8 ประการ จึงได้รับการอุปสมบทในพระพุทธศาสนา พร้อมทั้งเหล่านางสากิยานี