ผลต่างระหว่างรุ่นของ "โทกูงาวะ อิเอนาริ"

เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
NewFrontierHistoryThai (คุย | ส่วนร่วม)
ไม่มีความย่อการแก้ไข
NewFrontierHistoryThai (คุย | ส่วนร่วม)
ไม่มีความย่อการแก้ไข
บรรทัด 17:
ในค.ศ. 1740 โชกุน[[โทะกุงะวะ โยะชิมุเนะ]] ได้แต่งตั้งบุตรชายคนที่สี่คือ โทะกุงะวะ มุเนะตะดะ (Tokugawa Munetada, 徳川宗尹) ให้เป็นหัวหน้าตระกูลโทะกุงะวะสาขาฮิโตะสึบะชิ (Hitotsubashi-Tokugawa-ke, 一橋徳川家) เป็นหนึ่งใน''โงะซันเกียว'' (Gosangyō, 御三卿) ทั้งสามตระกูลที่สามารถสืบทอดตำแหน่งโชกุนได้ในกรณีที่ตระกูลโทะกุงะวะสาขาหลักได้สูญสิ้นไป
 
โทะกุงะวะ อิเอะนะริ เป็นบุตรชายคนโตของ โทะกุงะวะ ฮะรุซะดะ (Tokugawa Harusada, 徳川治済) บุตรชายของโทะกุงะวะ มุเนะตะดะ เท่ากับว่าอิเอะนะริเป็นเหลนของโชกุนโทะกุงะวะ โยะชิมุเนะนั่นเอง หลังจากที่บุตรชายเพียงคนเดียวของโชกุน[[โทะกุงะวะ อิเอะฮะรุ]]ได้เสียชีวิตลง ทำให้โชกุนอิเอะฮะรุไม่มีทายาทสืบทอดตำแหน่งโชกุน ในค.ศ. 1781 โชกุนอิเอะฮะรุและขุนนางในบะกุฟุจึงตัดสินใจเลือกโทะกุงะวะ อิเอะนะริ ให้เป็นทายาทและบุตรบุญธรรมของโชกุนอิเอะฮะรุ โชกุนอิเอะฮะรุถึงแก่อสัญกรรมในค.ศ. 1786 ในปีต่อมาค.ศ. 1787 อิเอะนะริจึงได้สืบทอดตำแหน่งเป็นโชกุนคนต่อมา ในค.ศ. 1789 เกิดกบฎของชาว[[ไอนุบนแคว้นนุ]]บนแคว้น Menashi บนเกาะ[[ฮอกไกโด]] และบนเกาะ Kunashir (Menashi-Kunashir Rebellion)
 
ในช่วงต้นสมัยของโชกุนอิเอะนะริ การปกครองของญี่ปุ่นอยู่ภายใต้อิทธิพลของ''โรจู''[[มะสึไดระ ซะดะโนะบุ]] (Matsudaira Sadanobu, 松平定信) ผู้ซึ่งเป็นผู้นำใน[[การปฏิรูปปีคันเซ]] (Kansei-no-kaikaku, 寛政の改革) ยกตัวอย่างเช่นการประกาศให้ลัทธิขงจื้อเป็นศาสนาประจำชาติญี่ปุ่นอย่างเป็นทางการในค.ศ. 1790 ในค.ศ. 1792 ญี่ปุ่นมีการติดต่อกับ[[จักรวรรดิรัสเซีย]] (Russian Empire) เป็นครั้งแรก โดยเรือรัสเซียนำโดยอดัม แลกซ์แมน (Adam Laxman) มาเทียบท่าเมืองมะสึมะเอะ (Matsumae, 松前) บนเกาะฮอกไกโด เพื่อส่งตัวชาวญี่ปุ่นพลัดหลงคืนและเจรจาขอทำการค้าขายกับญี่ปุ่นจากเกาะฮอกไกโด แต่เนื่องจากนโยบายปิดประเทศที่ดำเนินมานาน ''โรจู''มะสึไดระ ซะดะโนะบุ จึงปฏิเสธไป แต่ให้อนุญาตให้เรือสินค้ารัสเซียไปเทียบท่าที่[[นางาซากิ]]แทน การยอมให้สิทธิการค้าแก่รัสเซียทำให้''โรจู''มะสึไดระ ซะดะโนะบุ เป็นที่ตำหนิติเตียนมาก จนต้องลาออกจาก''บะกุฟุ''ไปในค.ศ. 1793
 
สิ้นสมัยของมะสึไดระ ซะดะโนะบุแล้ว ก็มีมะสึไดระ โนะบุอะกิระ (Matsudaira Nobuakira, 松平信明) มารับช่วงต่อโดยได้รับแต่งตั้งให้เป็น''โรจู'' ในค.ศ. 1804 รัสเซียพยายามที่จะเปิดประเทศญี่ปุ่นอีกครั้งนำโดยนิโคไล เรซานอฟ (Nikolai Rezanov) แต่ไม่สำเร็จ ในค.ศ. 1808 เกิดเหตุการณ์เรือรบอังกฤษชื่อว่าแฟทอน (Phaeton) บุกเข้าเมืองท่านางาซากิใช้กำลังบังคับเอาเสบียงและอาวุธ เมื่อโนะบุอะกิระถึงแก่อสัญกรรมในค.ศ. 1817 ก็มีมิซุโนะ ทะดะอะกิระ (Mizuno Tadaakira, 水野 忠成) ในค.ศ. 1825 บะกุฟุออกกฎหมายขับไล่เรือต่างชาติ (Ikokusen-Uchiharai-rei, 異国船打払令) ให้โจมตีขับไล่และสังหารเรือต่างชาติและชาวต่างชาติทันทีเมื่อพบเห็น ในค.ศ. 1834 มิซุโนะ ทะดะอะกิระ เสียชีวิต มีมิซุโนะ ทะดะคุนิ (Mizuno Tadakuni, 水野 忠邦) รับช่วงต่ออีกครั้ง
 
== อ้างอิง ==