ผลต่างระหว่างรุ่นของ "โทกูงาวะ อิเอมิตสึ"

เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
NewFrontierHistoryThai (คุย | ส่วนร่วม)
ไม่มีความย่อการแก้ไข
NewFrontierHistoryThai (คุย | ส่วนร่วม)
ไม่มีความย่อการแก้ไข
บรรทัด 18:
 
== ปฐมวัย ==
โทกุงาวะอิเอะมิสึกำเนิดในปีค.ศ. 1604 ที่[[ปราสาทเอโดะ]] เป็นบุตรชายคนแรกของ[[โทะกุงะวะ ฮิเดะทะดะ]] และนางโก (Go, 江 หลานสาวของ[[โอดะ โนะบุนะงะ]]) มีชื่อว่า '''ทะเกะชิโยะ''' (Takechiyo, 竹千代) อันเป็นชื่อบังคัีบของบุตรชายคนแรกของตระกูลโทะกุงะวะ มีพี่สาวทั้งหมดสี่คน มีน้องชายหนึ่งคนและน้องสาวอีกหนึ่งคน ปีต่อมาในค.ศ. 1605 ปฐมโชกุน[[โทะกุงะวะ อิเอะยะสุ]] ได้สละตำแหน่งโชกุนให้แก่โทะกุงาวะ ฮิเดะทาดะ บิดาของทะเกะชิโยะ ทะเกะชิโยะไม่เป็นที่โปรดปรานของนางโกมารดาของตน จึงถูกปล่อยให้[[นางคะสุงะ]] (Kasuga-no-Tsubone, 春日局) แม่นมเป็นผู้ดูแล นางโกได้ชักจูงให้โชกุนฮิเดะทะดะสามีของตนแต่งตั้งโทกุงะวะ ทาดะนะงะ (Tokugawa Tadanaga, 徳川忠長) บุตรชายคนโปรดของตนเป็นทายาทแทนพี่ชาย แต่''โอโงโช''อิเอะยะสุยังคงยืนกรานที่จะให้อิเอมิสึสืบทอดตำแหน่งโชกุน ในค.ศ. 1617 ทะเกะชิโยะได้ทำพิธี''เง็นปุกุ''และรับชื่อว่า '''โทะกุงะวะ อิเอะมิสึ''' และโชกุนอิเดะทะดะได้แต่งตั้งให้อิเอมิสึเป็นทายาทอย่างเป็นทางการ
 
== โชกุนอิเอะมิสึ ==
ในค.ศ. 1623 โชกุนฮิเดะทะดะได้สละตำแหน่งโชกุนให้แก่อิเอมิสึ อิเอมิสึจึงได้สืบทอดตำแหน่งโชกุนต่อจากบิดาแต่อำนาจอันแท้จริงยังคงอยู่ที่บิดาคือฮิเดะทะดะในฐานะ''โอโงโช'' ในค.ศ. 1624 ''โอโงโช''ฮิเดะทะดะและโชกุนอิเอะมิสึได้จัดขบวนอย่างใหญ่โตเดินทางไปยังเมือง[[เกียวโต]] พำนักที่ปราสาทนิโจ (Nijō-ji, 二条城) เพื่อเจริญสัมพันธไมตรีกับราชสำนัก ในโอกาสที่น้องสาวของโชกุนอิเอะมิสึคือ พระจักรพรรดินีัมะซะโกะ (Masako, 和子) ในพระจักรพรรดิโก-มิซุโน (Go-Mizunoo, 後水尾) ได้ประสูติพระธิดาในปีนั้น (ภายหลังคือ พระจักรพรรดินีเมโช) ซึ่งเป็นติดต่อกันครั้งสุดท้าย ระหว่างเอะโดะ''บะกุฟุ''กับราชสำนักที่เกียวโตในรอบสองร้อยปี จนกระทั่งเกิดเหตุการณ์จีวรสีม่วง (Shie-jiken, 紫衣事件) ในค.ศ. 1629 ซึ่งทาง''บะกุฟุ''ได้กล่าวหาราชสำนักเกียวโตว่า ได้ทำการมอบจีวรสีม่วงอันเป็นเครื่องประดับยศของพระสงฆ์ระดับสูง ให้แก่พระสงฆ์เกินจำนวนที่''บะกุฟุ''ได้จำกัดไว้ ''บะกุฟุ''จึงได้ยกเลิกเกียรติยศของพระสงฆ์เหล่านั้นและเนรเทศไป ทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างราชสำนักเกียวโตและ''บะกุฟุ''ต้องขาดสะบั้นลง
 
ในค.ศ. 1631 โชกุนอิเอะมิสึตัดสินใจที่จะกักบริเวณน้องชายของตนเอง คือ ทะดะนะงะ ไว้ในแคว้นของตนคือแคว้นโคะฟุ (Kofu, 甲府) ในค.ศ. 1632 ''โอโงโช''ฮิเดะตะดะถึงแก่อสัญกรรม ทำให้โชกุนอิเอะมิสึมีอำนาจปกครองญี่ปุ่นได้อย่างเต็มที่ เมื่อ''โอโงโช''ฮิเดะตะดะถึงแก่กรรมไปแล้ว โชกุนอิเอมิสึจึงได้มีคำสั่งให้ทะดะนะงะน้องชายของตนกระทำการ''เซ็ปปุกุ''เสียชีวิตไปในค.ศ. 1634
 
ในค.ศ. 1635 โชกุนอิเอะมิสึได้แแกกฎหมายซะมุไร หรือ ''บุเกะ ชุฮัตโตะ'' (Buke-Shuhatto, 武家諸法度) ฉบับใหม่ โดยได้นำหลัก ''ซันกิน-โคไต'' (Sankin-kōtai, 参勤交代) เป็นการลดอำนาจของไดเมียว โดยการบังคับให้ไดเมียวของทุก''ฮัน'' (แคว้น) จะต้องพำนักอยู่ในเมืองเอะโดะเป็นเวลาหนึ่งปี และออกไปพำนักอยู่ที่แคว้นของตนเป็นเวลาอีกหนึ่งปี สลับกันไปทุกปี โดยที่ภรรยาเอกและทายาทพำนักอยู่ในเมืองเอะโดะตลอดเวลา การเดินทางไปกลับจากแคว้นของตนและเมืองเอโดะ ด้วยขบวนที่ใหญ่โตอลังการทำให้ไดเมียวต้องเสียค่าใช้จ่ายมาก และไม่สามารถสั่งสมอำนาจในแคว้นของตนได้ อีกทั้ง''บะกุฟุ''ยังบังคับให้ไดเมียวสร้างคฤหาสน์ใหญ่ในเมืองเอโดะอีกอย่างน้อยคนละสามหลัง นโยบายนี้บังคับใช้ไปตลอด[[สมัยเอะโดะ]]
 
===กบฎชิมะบะระ===