ผลต่างระหว่างรุ่นของ "หลอดไส้ร้อนแบบธรรมดา"

เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
Horus (คุย | ส่วนร่วม)
ไม่มีความย่อการแก้ไข
Horus (คุย | ส่วนร่วม)
บรรทัด 10:
 
== ประวัติศาสตร์ ==
ในการตอบคำถามว่าใครเป็นผู้ประดิษฐ์หลอดไส้ร้อนแบบธรรมดา นักประวัติศาสตร์โรเบิร์ต ฟรีเดล และพอล อิสราเอล ทำรายการนักประดิษฐ์หลอดไส้ร้อนแบบธรรมดา 22 คน ก่อนโจเซฟ สวอน และ[[โทมัส เอดิสัน]]<ref>Friedel, Robert, and Paul Israel. 1986. ''Edison's electric light: biography of an invention''. New Brunswick, New Jersey: Rutgers University Press. pages 115–117</ref> พวกเขาสรุปว่ารุ่นของเอดิสันนั้นล้ำหน้าของคนอื่น เพราะการประกอบกันของสามปัจจัย ได้แก่ (1) วัสดุเปล่งแสงที่มีประสิทธิภาพ, (2) สุญญากาศที่สูงกว่าที่คนอื่น ๆ สามารถทำสำเร็จ และ (3) [[ความต้านทานไฟฟ้า]]ที่สูงซึ่งทำให้การแจกจ่ายพลังงานจากแหล่งกลางทำงานได้อย่างประหยัด
 
ค.ศ. 1802 ฮัมฟรี เดวี ได้ประดิษฐ์สิ่งที่ในขณะนั้นเป็นแบตเตอรีไฟฟ้าที่ทรงพลังที่สุดในโลกที่[[ราชสมาคม]]แห่งบริเตนใหญ่ ซึ่งเขาสร้างหลอดไส้ร้อนแบบธรรมดาโดยส่งกระแสไฟฟ้าผ่าน[[แพลตินัม]]แถบบาง ซึ่งโลหะชนิดนี้ถูกเลือกเพราะมีจุดหลอมเหลวสูงอย่างยิ่ง แต่หลอดไส้นี้ไม่สว่างพอหรือทำงานได้นานพอที่จะนำไปใช้ได้จริง แต่ก็มีมาก่อนเบื้องหลังความพยายามการทดลองนับครั้งไม่ถ้วนอีก 75 ปีต่อมา<ref name=Davis>Davis, L.J. "Fleet Fire." Arcade Publishing, New York, 2003. ISBN 1-55970-655-4</ref>
 
โจเซฟ สวอนและโทมัส เอดิสันนั้นเป็นบุคคลแรก ๆ ที่ทำหลอดไส้เป็นธุรกิจ โดยโทมัส เอดิสันเริ่มการวิจัยอย่างจริงจังในการพัฒนาหลอดไส้ที่ใช้การได้ใน ค.ศ. 1878 เอดิสันจดสิทธิบัตรสิ่งประดิษฐ์สำหรับ "การปรับปรุงหลอดไฟฟ้า" เมื่อวันที่ 14 ตุลาคม ค.ศ. 1878<ref>[http://www.google.com/patents?vid=0214636 US patent 0214636]</ref> หลังจากทดลองหลายครั้งด้วยไส้หลอดที่ทำจากแพลตินัมและโลหะอื่น เอดิสันได้หันกลับไปใช้ไส้[[คาร์บอน]] การทดลองที่ประสบความสำเร็จครั้งแรกเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 22 ตุลาคม ค.ศ. 1879<ref>Paul Israel, ''Edison: a Life of Invention'', Wiley (1998), page 186.</ref> และใช้งานได้ 13.5 ชั่วโมง เอดิสันยังคงพัฒนาสิ่งประดิษฐ์ดังกล่าว และจนถึงวันที่ 4 พฤศจิกายน ค.ศ. 1879 จดสิทธิบัตรในสหรัฐอเมริกาสำหรับหลอดไฟฟ้าที่ใช้ "ไส้คาร์บอนหรือแถบขดและเชื่อม ... กับสายส่งแพลตินา"<ref name=Patent898>[http://www.google.com/patents?vid=0223898 US patent 0223898]</ref> แม้สิทิบัตรนั้นจะอธิบายหลายหนทางในการสร้างไส้คาร์บอนรวมทั้ง "เส้นใยฝ้ายและลินิน เศษไม้ กระดาษที่ขดในหลายวิธี"<ref name="Patent898"/> แต่กระทั่งอีกหลายเดือนต่อมาหลังได้รับสิทธิบัตรนั้นแล้ว เอดิสันและทีมของเขาจึงค้นพบว่า ไส้ไม้ไผ่ที่เปลี่ยนเป็นคาร์บอนสามารถใช้งานได้นานเกิน 1,200 ชั่วโมง
 
== อ้างอิง ==