ผลต่างระหว่างรุ่นของ "พระธรรม (ศาสนาพุทธ)"

เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
มือใหม่ (คุย | ส่วนร่วม)
มือใหม่ (คุย | ส่วนร่วม)
บรรทัด 11:
* สวากขาโต (Pali: Svakkhato). พระธรรมไม่ใช้ปรัชญาที่ปรุงแต่งขึ้น แต่เป็นกฎธรรมชาติที่พระพุทธเจ้าท่านวิเคราะห์, สรุป, และอธิบาย ออกมาอย่างเที่ยงตรง ดังนั้นจึงเป็นคุณทั้งจุดเริ่มต้น--ศีล (Sīla หลักการของความถูกต้อง), เป็นคุณทั้งตอนกลาง--สมาธิ (Samadhi ความมุ่งมั่นจดจ่อ) และ เป็นคุณทั้งตอนปลาย--ปัญญา (Pańña — ความเฉลียดฉลาด การรู้คิด การไตร่ตรอง ความรู้ซึ้ง).
* สันทิฏฐิโก (Pali: Sanditthiko). พระธรรม สามารถถูกทดสอบ/ตรวจสอบได้ด้วยการปฎิบัติ ดังนั้นผู้ที่ปฎิบัติจะเห็นผลได้ด้วยตนเอง
* อะกาลิโก (Pali: Akāliko). พระธรรม นั้นมีคุณค่า และผลของการปฎิบัติสามารถรับรู้ได้ โดยไม่จำกัดกาลเวลา (พระธรรม มีคุณประโยชน์ 2,500 ปีก่อน มีคุณประโยชน์ในปัจจุบัน และ จะยังมีคุณประโยชน์ในอนาคต)
* เอหิปัสสิโก (Pali: Ehipassiko). พระธรรม นั้นมีคุณค่าไม่จำกัดกับบุคคล สามารถปฏิบัติและรับรู้ผลได้ทุกๆผู้คน (พระธรรม มีคุณประโยชน์กับผู้ปฎิบัติ ไม่ว่าผู้ปฎิบัติจะเป็นหญิง เป็นชาย เกิดในชาติตระกูลใด มีสถานะเป็นอย่างไร)
* โอปะนะยิโก (Pali: Opāneyiko). พระธรรม นั้นปฎิบัติได้ และดังนั้น ควรนำมาปฎิบัติเพื่อประโยชน์ของตนเอง (พระธรรม เป็นหลักการที่นำมาปฎิบัติได้ ไม่ได้ยากเกินไป)
* ปัจจัตตัง เวทิตัพโพ วัญญูหิติ (Pali: Paccattam veditabbo viññūhi). พระธรรมนั้น จะรู้แจ้งได้ก็เฉพาะตนผู้ปฎิบัติเองจนรู้แจ้ง (อริยะ Pali: ariyas) ดังนั้นเพื่อเข้าใจพระธรรมอย่างแท้จริง จึงควรปฎิบัติเอง (การอ่านหรือฟังธรรมจากอริยะก็ไม่อาจทำให้เข้าใจแจ้งได้ หากไม่นำการพระธรรมไปปฎิบัติ)
 
การปฎิบัติพระธรรมจะนำมาซึ่ง ความสงบ และ ความสุข แก่ตนผู้ปฎิบัติ ดังนั้นจึงเป็นความรับผิดชอบของตนเองในการปฎิบัติพระธรรม