ผลต่างระหว่างรุ่นของ "วิลเฟรโด โกเมซ"

เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
Akira Kouchiyama (คุย | ส่วนร่วม)
ฉันได้เพิ่มภาพ
Saeng Petchchai (คุย | ส่วนร่วม)
ไม่มีความย่อการแก้ไข
บรรทัด 27:
โกเมซเริ่มจากชก[[มวยสากลสมัครเล่น]]ได้เหรียญทองกีฬาอเมริกากลางและแคริบเบียนใน พ.ศ. 2517 ที่[[สาธารณรัฐโดมินิกัน]]และได้แชมป์โลกในปีเดียวกันที่คิวบา เขาเคยแข่งขันกีฬาโอลิมปิก พ.ศ. 2515 ที่เยอรมันแต่ไม่ได้เหรียญรางวัล โกเมซตัดสินใจที่จะไม่เข้าแข่งกีฬาโอลิมปิก พ.ศ. 2519 ที่แคนาดา จึงหันมาชกมวยอาชีพ
 
หลังจากที่การชกครั้งแรกไม่ประสบความสำเร็จนัก เขาขึ้นชกชนะน็อครวดถึง 32 ครั้ง รวมทั้งชกชนะฟูเอเตส และแชมป์โลกในอนาคตอย่าง อัลเบอร์โต ดาวีลา การชนะน็อครวด 32 ครั้งของเขาทำให้เขาเป็นแชมป์โลกที่ชนะน็อคติดต่อกันมากที่สุดและเป็นอันดับสามของโลกรองจาก ลามาร์ คลาก (43 ครั้ง) และบิลลี่ ฟอก (44 ครั้ง) ถ้านับจากนักมวยทั้งหมด เพราะทั้งคลากและฟอกไม่เคยครองแชมป์โลก
== เกียรติประวัติ ==
 
จากการชกชนะน็อครวด 32 ครั้งทำให้โกเมซได้ชิงแชมปืโลกรุ่นจูเนียร์เฟเธอร์เวทกับยุม ดองคยุม ที่มาป้องกันตำแหน่งที่ซานฟรานซิสโก การชกในช่วงแรก โกเมซถูกหมัดของยุมลงไปให้กรรมการนับก่อน แต่เขาลุกขึ้นมาได้ และเป็นฝ่ายชนะน็อคในยกที่ 12 ได้ครองแชมป์โลก โกเมซไปชกป้องกันตำแหน่งในทวีปเอเชีย ที่ญี่ปุ่น ชนะน็อคโคบายาชิ ยก 3 และเคยมาชกป้องกันตำแหน่งในประเทศไทยกับสกัด เพชรยินดีด้วย
 
โกเมซป้องกันแชมป์ด้วยการชกชนะน็อครวดถึง 12 ครั้ง ซึ่งนับรวมครั้งที่เขาชนะน็อค คาร์ลอส ซูราเต แชมป์โลกรุ่นแบนตัมเวทด้วย และชนะน็อเลโอนาร์โด ครูซ ผู้ที่ได้เป็นแชมป์โลกในเวลาต่อมาในยกที่ 13 เขาได้เลื่อนขึ้นไปชิงแชมป์โลกรุ่นเฟเธอร์เวทกับซัลวาดอร์ ซานเชส ชาวเม็กซิโก เมื่อ 21 สิงหาคม 2524 แต่เป็นฝ่ายพ่ายแพ้ โกเมซกลับมาชกในรุ่นซูเปอร์แบนตัมเวทอีกครั้ง และรอโอกาสที่จะแก้มือกับซานเชส แต่หลังจากซานเชสประสบอุบัติเหตุเสียชีวิตเมื่อ 12 สิงหาคม พ.ศ. 2525 ทำให้ความหวังของโกเมซที่จะชกแก้มือกับซานเชสหมดไป โกเมซได้มาร่วมไว้อาลัยในพิธีศพของซานเชสด้วย โกเมซป้องกันแชมป์ไว้ได้ 17 ครั้ง ก่อนจะสละตำแหน่งขึ้นไปชกในรุ่นเฟเธอร์เวท
 
โกเมซพยายาขึ้นไปชิงแชมป์โลกรุ่นเฟเธอร์เวทเป็นครั้งที่ 2 และประสบความสำเร็จเมื่อเป็นฝ่ายชนะฮวน ลาปอร์เต้ ก่อนที่จะเสียแชมป์ให้ อาซูมาห์ เนลสันจากกานา เมื่อ 8 ตุลาคม พ.ศ. 2527 โกเมซพยายามขอชกแก้มือกับเนลสัน แต่ในที่สุดก็ตัดสินใจชิงแชมป์โลกรุ่นซูเปอร์เฟเธอร์เวท WBA ชนะคะแนน ร็อคกี้ ล็อกริด ได้ครองแชมป์โลกสมัยที่ 3 แต่ก็เสียตำแหน่งแชมป์โลกให้กับอัลเฟรโด ลายเน ในการป้องกันตำแหน่งครั้งแรกเท่านั้น
 
หลังการพ่ายแพ้ในครั้งนั้น โกเมซหยุดชกไปช่วงหนึ่ง และกลับมาชกมวยอีกครั้งใน พ.ศ. 2531 - 2532 แต่เขาก็พบว่าช่วงเวลาที่นุ่งโรจน์ของเขาผ่านพ้นไปแล้ว จึงตัดสินใจแขวนนวมอย่างถาวร หลังจากเลิกชกมวย เขาได้ย้ายไปอยู่[[เวเนซุเอลา]] และมีข่าวพัวพันกับยาเสพติดและติดคุกอยู่หลายเดือน และต้องไปฟื้นฟูสมรรถภาพที่[[โคลัมเบีย]]หลังจากนั้น โกเมซกลับมาเปอร์โตริโก เป็นเทรนเนอร์ให้กับ[[เฮกเตอร์ คามาโช จูเนียร์]] ลูกชายของ[[เฮกเตอร์ คามาโช]] ในเดือนพฤษภาคม 2546 โกเมซได้รับเชิญให้ไป[[ปานามา]]และได้รับการเชื้อเชิญให้เป็นพลเมืองของปานามา ใน พ.ศ. 2549 เขาได้ซื้อบ้านและอพยพครอบครัวมาอยู่ฟลอริดา สหรัฐอเมริกา เขามีลูกสาว 3 คน ลูกชาย 1 คน ปัจจจุบันเขาได้รับการเสนอชื่อในหอเกียรติยศของนักมวย ใน พ.ศ. 2546 ชีวประวัติของเขาถูกนำไปสร้างเป็นภาพยนต์
== เกียรติประวัติ ==
* แชมป์โลกรุ่นซูเปอร์แบนตัมเวท WBC
** ชิง 21 พฤษภาคม 2520 ชนะน็อค ยุม ดองคยุม ยก 12 ที่ เปอร์โตริโก