ผลต่างระหว่างรุ่นของ "ดีมีตาร์ เบร์บาตอฟ"

เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
ไม่มีความย่อการแก้ไข
ไม่มีความย่อการแก้ไข
บรรทัด 31:
ฤดูกาล 2007-08 เบอร์บาตอฟ ต้องเผชิญหน้ากับข่าวการย้ายทีมอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ในช่วงเปิดตลาดซื้อขายนักเตะรอบ 2 ในเดือนม.ค. 2008 ซึ่งแม้ว่า ฆวนเด้ รามอส กุนซือของทีม จะออกมายืนยันหลายครั้งว่าสเปอร์ส ไม่มีความคิดที่จะขายศูนย์หน้าตัวเก่งรายนี้ แต่ดูเหมือนว่าจะไม่สามารถลดกระแสข่าวลงได้เลย [[เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน]] ยอดผู้จัดการทีมของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ไม่เคยปิดบังว่าเขาชื่นชอบทักษะและสัญชาตญาณการทำประตูของ เบอร์บาตอฟ มากแค่ไหน แต่ความพยายามที่จะดึงตัวดาวยิงบัลแกเรียน มาร่วมทีมอาจจะไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะ เชลซี ทีมเจ้าบุญทุ่มของเมืองผู้ดี ก็พร้อมที่จะประเคนเงินก้อนโตให้ สเปอร์ส ยอมใจอ่อนเช่นกัน เรื่องราวการย้ายทีมยังมีอย่างไม่ลดละ เบอร์บาตอฟก็ได้แสดงออกอย่างชัดเจนในการยย้ายมาร่วมทีมแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ถึงขั้นเซ็นชื่อในเสื้อของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด และในที่สุดเขาก็ได้ย้ายมาร่วมทีมกับ [[สโมสรฟุตบอลแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด]] ด้วยค่าตัว 30.75 ล้านปอนด์ (หรือประมาณ 1,968 ล้านบาท)
 
ในฤดูกาลแรกเขาต้องแย่งชิงตำแหน่งกับ [[คาร์ลอส เตเบซ]] หัวหอกชาวอาร์เจนติน่า แต่หัวหอกชาวบัลแกเรียก็ยังไม่สามารถทำได้จนในปีต่อมาหลังจากที่ คาร์ลอส เตเวซ ย้ายไปร่วมทีม แมนเชสเตอร์ ซิติ้ด้วยค่าตัว 25 ล้านปอนด์ เขาจึงได้ตำแหน่งตัวจริงมาครอบครอง แต่เขาก็ยังไม่สามารถระเบิดฟอร์มเก่งออกมาได้ทำให้มีเสียงวิพากย์วิจาณ์มากจนมีฉายาตามมาเช่น "ไอ้ช้า" ทำให้แฟนบอลรู้สึกว่าไม่คุมค่าตัว 30.75 ล้านปอนด์ที่[[สโมสรฟุตบอลแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด]]ได้เสียไปแต่ในฤดูกาล 2010-2011 หัวหอกหมายเลขเก้าระเบิดฟอร์มเก่งด้วยความขยันซ้อมและการพูดคุยกับ
[[เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน]] โดยนำสามารถทำ 3 ประตูในเกมชนะ ลิเวอร์พูล 3-2 ทำให้เขาเป็นที่ยอมรับในสายตาแฟนบอลมากขึ้น รวมถึงยังโชว์ฟอร์มสุดยอดทำคนเดียว 5 ประตูในเกมชนะแบล็คเบิร์น โรเวอร์สไปอย่างขาดลอย 7-1 ทำให้เขากลายเป็นผู้เล่นคนที่ 4 ในพรีเมียร์ลีก ที่ยิง 5 ประตูในเกมเดียว ต่อจาก แอนดี้ โคล, [[อลัน เชียเรอร์]] และ [[เจอร์เมน เดโฟ]] และตอนนี้เป็นดาวชันโวของพรีเมียร์ลีกด้วย แต่ด้วยฟอร์มการเล่นที่ไม่คงที่แน่นอนจึงทำให้เขาตกเป็นตัวสำรองบ่อยครั้ง ไอปอน