ผลต่างระหว่างรุ่นของ "ปมเอดิเพิส"

เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
Xqbot (คุย | ส่วนร่วม)
โรบอต เพิ่ม: ku:Kompleksa oidîpûsê; ปรับแต่งให้อ่านง่าย
ไม่มีความย่อการแก้ไข
บรรทัด 1:
[[ไฟล์:Gustave Moreau 005.jpg|200px|right|thumb|ภาพ "เอดิเพิสกับสฟิงห์" วาดโดย [[Gustave Moreau|กุสตาฟ มอโร]] เมื่อ [[ค.ศ. 1864]] ปัจจุบันถูกจัดแสดงที่[[Metropolitan Museum of Art|พิพิธภัณฑสถานทางศิลปะเมโทรโพลิแทน]]]]
 
ในประเด็นด้านทฤษฎีทางจิตวิทยานั้น '''ปมเอดิเพิส''' ({{lang-en|Oedipus complex}}; {{IPA-en|ˈɛdəpəs-ˈkɒmplɛks}}) เป็นเหล่าความคิดและความรู้สึกกังวลอย่างหนักหน่วงที่บุคคลเริ่มใฝ่ใจเชิงสังวาสในบิดาหรือมารดาเพศตรงข้ามกับตน และเริ่มขัดใจในบิดาหรือมารดาเพศเดียวกับตน อาการเช่นนี้จะพัฒนาขึ้นในเด็กวัยระหว่างสามถึงห้าปี โดยเด็กจะแสดงอาการหึงหวง และมีปฏิกิริยาในเชิงต้องการครอบครองแม่ไว้เป็นของตัวเองคนเดียว เกิดความรู้สึกชิงชัง อิจฉา และไม่พอใจพ่อของตัวเอง และต้องการที่จะแทนที่ในตำแหน่งของพ่อ ซึ่งระยะนี้ เด็กจะพยายามเลียนแบบพฤติกรรมต่างๆ ของพ่อ ไม่ว่าจะเป็นคำพูด การกระทำ หรือรูปแบบการใช้ชีวิตต่างๆ เพื่อคาดหวังที่จะเป็นตัวแทนของพ่อ และได้อยู่กับแม่ตลอดไป อาจกล่าวได้ว่า ระยะนี้ เป็นระยะที่สำคัญมาก ต่อพัฒนาการการเรียนรู้ของเด็ก และเหมาะที่จะปลูกฝังเรื่องต่างๆ ให้เด็กก็ว่าได้ โดยปกติ ปมนี้จะคลายไปเองเมื่อเติบโตขึ้น จึงไม่เป็นปัญหาต่อไป
 
ซึ่งชื่อของทฤษฎีนี้ [[ซิกมุนด์ ฟรอยด์]] นักจิตวิทยาชาวออสเตรีย ผู้ที่เป็นผู้คิดค้นทฤษฎีนี้ได้มาจาก[[เทพปกรณัมกรีก]]เรื่องของ "[[อีดิปุส|เอดิเพิส]]" ที่ฆ่า[[เลเอิส]] บิดาของตนเอง และ[[แต่งงาน]]กับ [[โจคาสตา]] ซึ่งเป็นมารดาแท้ ๆ ของตนโดยเข้าใจผิด ซึ่งต่อมาได้นำความหายนะมาสู่เมืองทั้งเมือง มีผู้เปรียบเทียบปกรณัมกรีกเรื่องนี้กับตำนานพื้นบ้านไทย เรื่องพระยากงพระยาพาน (ผู้ศึกษาเกี่ยวกับทฤษฎีจิตวิเคราะห์และยกตัวอย่างนิทานพื้นบ้านไทยประกอบ มีอาทิ น.พ. ยรรยง โพธารามิก จิตแพทย์แห่งโรงพยาบาลสมเด็จเจ้าพระยา)
โดยเด็กจะแสดงอาการหึงหวง และมีปฏิกิริยาในเชิงต้องการครอบครองแม่ไว้เป็นของตัวเองคนเดียว เกิดความรู้สึกชิงชัง อิจฉา และไม่พอใจพ่อของตัวเอง และต้องการที่จะแทนที่ในตำแหน่งของพ่อ ซึ่งระยะนี้ เด็กจะพยายามเลียนแบบพฤติกรรมต่างๆ ของพ่อ ไม่ว่าจะเป็นคำพูด การกระทำ หรือรูปแบบการใช้ชีวิตต่างๆ เพื่อคาดหวังที่จะเป็นตัวแทนของพ่อ และได้อยู่กับแม่ตลอดไป
 
อาจกล่าวได้ว่า ระยะนี้ เป็นระยะที่สำคัญมาก ต่อพัฒนาการการเรียนรู้ของเด็ก และเหมาะที่จะปลูกฝังเรื่องต่างๆ ให้เด็กก็ว่าได้ และโดยปกติ ปมนี้จะคลายไปเองเมื่อเติบโตขึ้น จึงไม่เป็นปัญหาต่อไป
 
ซึ่งชื่อของทฤษฎีนี้ [[ซิกมุนด์ ฟรอยด์]] นักจิตวิทยาชาวออสเตรีย ผู้ที่เป็นผู้คิดค้นทฤษฎีนี้ได้มาจาก[[เทพปกรณัมกรีก]]เรื่องของ "[[อีดิปุส|เอดิเพิส]]" ที่ฆ่า[[เลเอิส]] บิดาของตนเอง และ[[แต่งงาน]]กับ [[โจคาสตา]] ซึ่งเป็นมารดาแท้ ๆ ของตนโดยเข้าใจผิด ซึ่งต่อมาได้นำความหายนะมาสู่เมืองทั้งเมือง
 
อย่างไรก็ดี ทฤษฎีนี้ถูกคัดค้านและปฏิเสธจากนักจิตวิทยาหลายต่อหลายคน แต่ตัวฟรอยด์เองกลับเชื่อมั่น พร้อมกับทำการทดลองจนเผยแพร่ออกมาได้ในที่สุด