ผลต่างระหว่างรุ่นของ "นักพรต"

เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
MerlIwBot (คุย | ส่วนร่วม)
โรบอต เพิ่ม: be:Манах แก้ไข: eu:Monakotza
ไม่มีความย่อการแก้ไข
บรรทัด 1:
'''นักพรต''' ({{lang-en|monk}})<ref name="แก่นปรัชญายุคกลาง">กีรติ บุญเจือ, ''แก่นปรัชญายุคกลาง'', พิมพ์ครั้งที่ 2, กรุงเทพฯ: จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, 2550, หน้า 131</ref> คือผู้บำเพ็ญพรต หรือผู้ประพฤติตามข้อกำหนดการปฏิบัติทางศาสนาเพื่อข่มกาย ใจ ของตน<ref name="พจนานุกรม ฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ. ๒๕๔๒">ราชบัณฑิตยสถาน, ''พจนานุกรม ฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ. ๒๕๔๒'', กรุงเทพฯ: นานมีบุ๊คพับลิเคชั่นส์, 2546, หน้า 131</ref> นักพรตมีทั้งแบบที่อาศัยอยู่โดดเดี่ยวซึ่งเรียกว่า[[ฤๅษี]] (hermit) และอาศัยอยู่ร่วมกันเป็นหมู่คณะใน[[อาราม]] (monastery) ลักษณะการดำรงชีวิตของนักพรตเรียกว่า'''ลัทธิพรตนิยม''' (monachism)<ref>กีรติ บุญเจือ, หน้า 89</ref> หรือ[[ระบบสำนักสงฆ์ชีวิตอารามวาสี|ลัทธิอารามวาสี]]<ref name="ประวัติศาสตร์ศาสนาคริสต์">เคนเน็ธ สก๊อตท์ ลาทัวเร็ทท์, ''ประวัติศาสตร์ศาสนาคริสต์'', แปลโดย ธนาภรณ์ ธรรมสุจริตกุล และสิธยา คูหาเสน่ห์, พิมพ์ครั้งที่ 2, กรุงเทพฯ: พระคริสตธรรมกรุงเทพฯ, 2551, หน้า 297</ref> (monasticism)
 
==นักพรตในพุทธศาสนา==
บรรทัด 5:
[[ไฟล์:Phutthamonthon Buddha.JPG|200px|thumb|[[สามเณร]]ชาวไทย ที่พุทธมณฑล]]
 
ใน[[พุทธศาสนา]]มีทั้งนักพรตชาย (monk) และ[[นักพรตหญิง]] (nun) นักพรตชายเรียกว่า[[ภิกษุ]]และ[[สามเณร]] นักพรตหญิงเรียกว่า[[ภิกษุณี]] [[สิกขมานา]] และ[[สามเณรี]] นอกจากนี้ยังมีนักพรตในรูปแบบอื่นๆ เช่น [[โยคี]] [[แม่ชี]] เป็นต้น
 
ภิกษุเกิดขึ้นครั้งแรกเมื่อ[[พระพุทธเจ้า]]ประทานเอหิภิกขุอุปสัมปทาแก่[[ปัญจวัคคีย์]]ที่ป่าอิสิปตนมฤคทายวัน นับจากนั้นก็ทรงอุปสมบทกุลบุตรอื่นๆ เรื่อยมา ทั้งยังทรงอนุญาตการบวชแบบ'''ติสรณคมณูปสัมปทา'''และ'''จตุตถกัมมอุปสัมปทา''' ซึ่งเป็นการบวชที่สาวกดำเนินการได้ด้วยตนเองโดยที่ไม่ต้องกราบทูลให้พระองค์ทราบ ติสรณคมณูปสัมปทาปัจจุบันใช้สำหรับการบวชสามเณร ส่วนจตุตถกัมมอุปสัมปทาใช้กับการบวชพระภิกษุ
บรรทัด 15:
==นักพรตในคริสต์ศาสนา==
[[ไฟล์:Vietnamese Cistercians.jpg|200px|thumb|นักพรตคณะซิซเตอร์เชียน]]
ใน[[คริสตจักร]][[โรมันคาทอลิก]] นักพรตหมายถึง[[คณะนักบวชคาทอลิก|นักบวช]] (religious) ไม่ว่าชายหรือหญิงที่อุทิศตนกับ[[การอธิษฐาน]] [[การเข้าเงียบ]] [[การชดใช้บาป]] และ[[การทำพลีกรรม]]<ref>คณะกรรมการคาทอลิกเพื่อคริสตศาสนธรรม แผนกคริสตศาสนธรรม, '''คู่มือแนะแนวการสอนคำสอนในประเทศไทย''', พิมพ์ครั้งที่ 3, 2553, หน้า 109</ref>
คำว่านักพรตหรือ '''monk''' ในภาษาอังกฤษ มาจากคำภาษากรีก monachos ซึ่งแปลว่า ผู้อยู่โดดเดี่ยว แต่ต่อมาได้ใช้ในความหมายที่กว้างขึ้นคือหมายถึงนักพรตโดยรวม อาจอยู่โดดเดี่ยวในป่าซึ่งเรียกว่า[[ฤๅษี]] (hermit) หรืออยู่ร่วมกันเป็นกลุ่มในอาราม (monastic monk)<ref name="CATHOLIC ENCYCLOPEDIA: monk">[http://www.newadvent.org/cathen/10487b.htm monk]. CATHOLIC ENCYCLOPEDIA เรียกข้อมูลวันที่ 27 ม.ก. พ.ศ. 2554</ref>
 
คำว่านักพรตหรือ '''monk''' ในภาษาอังกฤษ มาจากคำภาษากรีก monachos ซึ่งแปลว่า ผู้อยู่โดดเดี่ยว แต่ต่อมาได้ใช้ในความหมายที่กว้างขึ้นคือหมายถึงนักพรตโดยรวม อาจอยู่โดดเดี่ยวในป่าซึ่งเรียกว่า[[ฤๅษี]] (hermit) หรืออยู่ร่วมกันเป็นกลุ่มในอาราม (monastic monk)<ref name="CATHOLIC ENCYCLOPEDIA: monk">[http://www.newadvent.org/cathen/10487b.htm monk]. CATHOLIC ENCYCLOPEDIA เรียกข้อมูลวันที่ 27 ม.ก. พ.ศ. 2554</ref>
 
ใน[[คริสต์ศาสนา]]มีพื้นฐานแนวคิดแบบพรตนิยมมาตั้งแต่สมัย[[พระเยซู]] ดังปรากฏพระวจนะที่ตรัสกับชายหนุ่มคนหนึ่งว่า ''“...จงไปขายบรรดาสิ่งของซึ่งท่านมีอยู่แจกจ่ายให้คนอนาถา แล้วท่านจะมีทรัพย์สมบัติในสวรรค์”'' <ref name="พระคริสตธรรมคัมภีร์">''พระคริสตธรรมคัมภีร์ ภาคพันธสัญญาเดิมและพันธสัญญาใหม่ ฉบับ ๑๙๗๑ (ฉบับเรียงพิมพ์ใหม่ ๑๙๙๘)'', กรุงเทพฯ: สมาคมพระคริสตธรรมไทย, 2543, หน้า 98</ref> (มธ. 19:21) แต่การดำเนินชีวิตแบบนักพรตเริ่มมีบทบาทอย่างชัดเจนในศตวรรษที่ 4 คือภายหลังสิ้นสุดการเบียดเบียนคริสตชน เพราะ[[จักรพรรดิคอนสแตนติน]]ประกาศกฤษฎีกาแห่งมิลาน (Edict of Milan) ในปี ค.ศ. 313 ให้ประชาชนมีเสรีภาพในการนับถือศาสนา<ref>กีรติ บุญเจือ, หน้า 72</ref>
เส้น 24 ⟶ 26:
# นักพรตที่อยู่โดดเดี่ยว (eremite) หรือ[[ฤๅษี]] (hermit) เช่น นักบุญ[[แอนโทนีแห่งอียิปต์]]
# นักพรตที่อยู่กึ่งโดดเดี่ยว (semi-eremite) คือนักพรตแต่ละรูปอาศัยเดี่ยว แต่ในวันเสาร์และอาทิตย์จะมาประกอบ[[พิธีบูชาขอบพระคุณ]] (Eucharistic celebration) และฟังเทศน์ด้วยกัน เช่น กลุ่มนักพรตของนักบุญ[[อัมโมน]]<ref>สมชัย พิทยาพงษ์พรม บาทหลวง, หน้า 42</ref>
# นักพรตที่อยู่เป็นคณะ (cenobite) นักพรตทุกรูปต้องปฏิบัติตามวินัยคณะ (rules) และเชื่อฟัง[[คุณพ่ออธิการ]] (abbot) ซึ่งเป็นหัวหน้าอาราม นักพรตแบบนี้มีจุดเริ่มต้นมาจากนักบุญ[[ปาโคมีอุส]] (Pachomius) นักบุญ[[บาซิลแห่งซีซาเรีย]] (Basyl of Caesarea)
 
จะเห็นว่าลัทธิอารามวาสีในคริสต์ศาสนาเริ่มจากคริสตจักรตะวันออกก่อน ฝ่ายคริสตจักรตะวันตกเริ่มพบการสนับสนุนลัทธิอารามวาสีในปลายศตวรรษที่ 4 จากการที่นักบุญ[[อาทาทะนาซีอุส]]แห่งอเล็กซานเดรีย]]ได้แปลประวัตินักบุญ[[แอนโทนีแห่งอียิปต์]]เป็นภาษาลาตินละตินซึ่งเป็นภาษาที่ใช้ในคริสตจักรตะวันตก เพื่อแผยแพร่วิถีอารามวาสีให้คริสตชนที่นั่น ที่เขตมิสซังแวร์เชลี (Vercelli) นักบุญ[[เอวเซบีอุส]]ซึ่งขณะนั้นดำรงตำแหน่งเป็น[[บิชอป]]ก็เป็นบุคคลแรกที่นำวิถีนักพรตมาใช้กับนักบวชในเขตมิสซังของตน<ref>สมชัย พิทยาพงษ์พร, บาทหลวง, หน้า 60</ref> ต่อมานักบุญหลายท่านก็ตั้งกลุ่มนักพรตของตนและวางวินัยเอาไว้เป็นหลักปฏิบัติซึ่งต่อมาได้พัฒนามาเป็น[[คณะนักบวชคาทอลิก]]รุ่นแรก เช่น นักบุญ[[ออกัสตินแห่งฮิปโป]]ผู้ก่อตั้ง[[คณะออกัสติเนียน]]ในยุคแรก นักบุญ[[เบเนดิกต์แห่งเนอร์เซีย]]ผู้วางรากฐาน[[คณะเบเนดิกติน]] เป็นต้น
 
==นักพรตในศาสนาเชน==
เข้าถึงจาก "https://th.wikipedia.org/wiki/นักพรต"