ผลต่างระหว่างรุ่นของ "อนุตตรธรรม"

เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
Wiriya007 (คุย | ส่วนร่วม)
ไม่มีความย่อการแก้ไข
ป้ายระบุ: ผู้ใช้แก้หน้าเปลี่ยนทาง
Tinuviel (คุย | ส่วนร่วม)
ย้อนการแก้ไขของ Wiriya007 (พูดคุย) ไปยังรุ่นก่อนหน้าโดย Horus
บรรทัด 1:
#REDIRECT [[หมวดหมู่:ลัทธิอนุตตรธรรม]]
[[ไฟล์:Xiantianism symbol yellow.PNG|thumb|200px|สัญลักษณ์]]
 
วิถีอนุตตรธรรม อนุตตรธรรม แปลตามอักษรว่า ธรรมะที่สูงที่สุดเหนือสิ่งอื่นใด เป็นหลักสัจธรรมที่มีอยู่ตั้งแต่ก่อนฟ้าดินจะกำเนิด การถ่ายทอดหลักสัจธรรมนี้สู่ผู้คนมีต้นกำเนิดมาจากประเทศจีน สืบทอดพงศาธรรมสืบเนื่องต่อในประเทศอินเดียเมื่อสองพันกว่าปีก่อน และกลับสู่ประเทศจีนอีกครั้งในช่วงของพระโพธิธรรมตั๊กม้อ เมื่อมีการแพร่ธรรมนี้ไปยังในไต้หวัน จึงทำให้ญาติธรรมคนบุญในไต้หวันมีมากขึ้น จนได้รับการยอมรับจากรัฐบาลว่า วิถีธรรมนี้ สามารถช่วยให้พลเมืองเป็นคนดีและร่วมพัฒนาประเทศไต้หวันอีกด้วย และในปัจจุบัน ผู้ที่เข้ามาเผยแผ่ธรรมะในประเทศไทยจึงเป็นอาวุโสชาวไต้หวันเป็นส่วนใหญ่
== จุดประสงค์การเผยแผ่อนุตตรธรรม ==
# เคารพฟ้าดิน
# บูชาสิ่งศักดิ์
# รักชาติซื่อสัตย์ต่อหน้าที่
# เชิดชูจริยธรรม
# กตัญญูต่อบิดามารดา
# เคารพอาจารย์
# ถือสัจวาจาต่อเพื่อน
# มีไมตรีต่อเพื่อนบ้าน
# ละการกระทำบาป เสริมการทำความดี
# รู้ปฏิบัติใน คุณสัมพันธ์ 5 (กษัตรกับขุนนาง, บิดากับบุตร, สามีกับภรรยา, พี่กับน้อง, และเพื่อนกับเพื่อน) คุณธรรม 8 (กตัญญู พี่น้องปรองดอง จงรักภักดี สัตยธรรม จริยธรรม มโนธรรม สุจริตธรรม และละอายต่อบาป)
# จรรโลงคุณวิเศษในพระธรรมคำสอนของศาสดาทั้ง 5 (พระพุทธเจ้า-ศาสนาพุทธ, พระเยซุ-ศาสนาคริสต์, พระนบีมุฮัมมัด-ศาสนาอิสลาม, ท่านเหล่าจื้อ-ศาสนาเต๋า, ท่านขงจื้อ-ศาสนาปราชญ์)
# ปฏิบัติตาม หลักการปกครอง 4 (จริยะธรรม, มโนธรรม, สุจริตธรรม,ละอายต่อบาป) และประเพณีโบราณอันดีงาม
# ชำระจิตใจให้ผ่องแผ้ว
# อาศัยกายเนื้อบำเพ็ญธรรมจริง
# ฟื้นฟูสภาวะธรรมของธรรมญาณแห่งตน
# ช่วยตนและผู้อื่นให้เป็นคนที่สมบูรณ์
# ช่วยตนและผู้อื่นให้บรรลุธรรม
# ช่วยโลกให้สงบสุข
# กล่อมเกลาจิตใจผู้คนในสังคมให้ดีงาม
# เพื่อเอกภาพแห่งสันติธรรมของโลก
 
== คุณานุคุณในวิถีอนุตตรธรรม ==
# อนุตตรธรรมคือ'''รากฐานของศาสนา มิใช่ลัทธิศาสตร์ หรือศาสนาใดๆ''' มีพงศาธรรมและพระบรรพจารย์ที่สืบทอดยาวนานกว่าห้าพันปีจากประเทศจีนและประเทศอินเดีย จนถึงปัจจุบันเป็นช่วงยุคที่มีการเผยแพร่ธรรมปกแผ่อย่างกว้างขวาง เป็นการรับรู้หนทางการหลุดพ้นการเวียนว่ายตายเกิด ดั่งคำกล่าวที่ว่า "หมื่นพันคัมภีร์ศาสตร์ มิอาจเทียบเท่าวิสุทธิอาจารย์ประทานจุด"
# พระวิสุทธิอาจารย์ในยุคกาลท้ายนี้คือ พระพุทธะจี้กงและพระโพธิสัตว์จันทรปัญญา
# รับธรรมะคือการรับรู้หนทางกลับคืนสู่ต้นธาตุต้นธรรมเดิม ชี้ให้เห็นถึงจิตเดิมแท้แต่เดิมของตน รับรู้แก้ววิเศษสามประการที่อยู่ในตน เรียกว่าไตรรัตน์ แล้วบำเพ็ญเพียร ขัดเกลาจิตใจให้ใสสะอาด ยกระดับจิตใจ เปลี่ยนแปลงตนเอง แปรเปลี่ยนโลกให้สันติสุข
# ส่งเสริมให้รับประทานอาหารเจ เพื่อลดการสร้างหนี้บาปเวร เพื่อฝึกจิตเมตตา เพื่อสุขภาพ ลดการก่อหนี้กรรมใหม่
# ผู้รับธรรมะแล้วบรรพบุรุษเจ็ดชั้น ลูกหลานเก้าชั่วคน ได้รับรัศมีธรรม บรรพชนที่เสียชีวิตไปแล้ว เมื่อลูกหลานมา ฟังธรรม ช่วยงานธรรม จะได้รับอานิสงส์ผลบุญกุศลจากจิตที่เพียรบำเพ็ญด้วย
# การเชิญบุคคลอื่นมารับธรรมะ เป็นการฉุดช่วยพี่น้องของเราให้กลับคืนสู่ต้นธาตุต้นธรรมเดิม ให้รู้ตัวตนที่แท้จริง มิใช่การชวนเพื่อให้เปลี่ยนศาสนา หรือชี้ชวนเพื่อรับลัทธิศาสตร์ใด
# ผู้ที่มารับธรรมะทุกคนสามารถสร้างบุญกุศลและความดีได้ ตามหลักของศาสนาทั้ง 5 ได้แก่ พุทธ คริสต์ อิสลาม เต๋า และขงจื้อ ได้เหมือนเดิม
# การเข้ารับวิถีธรรมและตั้งใจบำเพ็ญขัดเกลาจิตใจ สร้างบุญกุศลเท่านั้นถึงจะหลุดพ้นจากทะเลทุกข์ หลุดพ้นจากการเวียนว่ายตายเกิดได้ ในยุคที่เรียกว่า บ้านเมืองวุ่นวาย จิตใจคนตกต่ำ
# คนในอดีต ไม่ได้รับธรรมะง่าย ๆ ท่านจะต้องบำเพ็ญธรรม ปฏิบัติธรรมจนสภาวะธรรมถึงพร้อมก่อน แล้วจึงได้รับรู้วิถีธรรมทีหลัง ปัจจุบันกาลเวลาคับขันบ้านเมืองวุ่นวาย จิตใจคนตกต่ำ วิถีอนุตตรธรรมนั้นจึงได้ปรกโปรด เป็นการรับรู้หนทางธรรมก่อนแล้วเริ่มฝึกบำเพ็ญขัดเกลา เพื่อเปลี่ยนแปลงให้เกิดคนดีขึ้นในสังคม วิถีธรรมจึงได้เผยแพร่ไปในวงกว้าง
# วิถีอนุตตรธรรมเป็นรากของทุกศาสนา เพราะทุกศาสนาล้วนเป็นกิ่งก้านสาขาของรากธรรมะ ที่ผลิดอกออกผลงอกงาม ทุกศาสนามีที่มาจากต้นธาตุต้นธรรมต้นกำเนิดเดียวกัน เพราะวิถีธรรมมีมาก่อนที่จะเกิดศาสนา เฉกเช่น ธรรมะ ธรรมชาติหรือหลักสัจธรรมของฟ้าดิน ที่พระพุทธองค์ได้ตรัสรู้"อนุตตรสัมมาสัมโพธิญาณ" พระองค์จึงนำธรรมะนี้ไปปรกโปรดแก่เวไนยสัตว์ได้ดำเนินปฏิบัติ ประกาศศาสนาซึ่งมีรากเหง้าจากธรรมะอันยิ่งใหญ่ของฟ้าดินหรือ"หลักสัจธรรมนั่นเอง" ที่กล่าวมาคือ ความสัมพันธ์ระหว่างวิถีธรรมกับศาสนา (ศึกษาเพิ่มเติมได้ในหนังสือไกลวัลยธรรม ของท่านพุทธทาสได้)'''วิถีอนุตตรธรรมจึงมิใช่พระศาสนา ลัทธิอุบาทว์ ศาสนามารที่หวังหลอกลวงเงินทางท่าน''' แต่เป็นหลักสัจธรรมที่นำไปปฏิบัติใช้ในชีวิตประจำวัน นำธรรมะเข้าสู่ครัวเรือน
# ประจักษ์หลักฐานที่สำคัญในวิถีอนุตตรธรรมคือ เมื่อผู้ที่ได้รับวิถีธรรมแล้ว ร่างกายจะร้อนไม่เน่า หนาวไม่แข็ง เนื่องจากผู้ได้รับวิถีธรรมได้รับการถอนชื่อจากบัญชียมโลก จิตญาณมุ่งสู่สุขคติภูมิ
# โอกาสในการรับวิถีธรรมของแต่ละคนขึ้นอยู่กับบุญและเหตุปัจจัยที่ได้สั่งสมในอดีตชาติ และรากบุญที่ได้สั่งสมของบรรพชน
 
หลักธรรมที่ร่วมศึกษาในวิถีอนุตตรธรรม จะเน้นเรื่องของบำเพ็ญศีล คุณธรรม คุณสัมพันธ์ หลักจริยธรรม สัตยธรรม มโนธรรม ที่ต้องสำรวจตนปฏิบัติ และปฏิบัติธรรมได้โดยไม่ต้องบวชหรือละทางโลก ซึ่งสามารถปฏิบัติธรรมอยู่ในครัวเรือนร่วมกันได้ และไม่แบ่งแยกโจมตีกันถึงเรื่องการนับถือศาสนาต่าง ๆ ซึ่งเป็นเรื่องส่วนบุคคล คือ ไม่แบ่งแยกศาสนา เพราะ"ทุกศาสน์ล้วนเอกสัจธรรม"
 
"จริยานำพาสู่เอกภาพ" หลักจริยธรรม นำพาสู่ความเป็น เอกภาพของโลก
 
นอกจากการศึกษาธรรมะแล้ว ยังมีการจัดค่ายพัฒนาเยาวชน อบรมจริยธรรม เพื่อให้เยาวชนประพฤติปฏิบัติตนเป็นคนดีของสังคม
นำธรรมะไปใช้ ปลูกฝังเมล็ดพันธุ์คนดี สร้างโลกให้เกิดสันติสุข
 
== บรรพจารย์แห่งอนุตตรธรรม ==
 
'''พระบรรพจารย์แห่ง[[อนุตตรธรรม]]''' มีด้วยกัน 18 ท่าน
 
วิถีอนุตตรธรรมสืบสายชีพจรธรรมของสามศาสนาหลัก คือ[[พุทธ]] [[ขงจื๊อ]] และ[[เต๋า]] จึงสืบสายบรรพจารย์ตั้งแต่พระอริยเจ้า[[ฝูซี]] ท่าน[[เสินหนง]] [[หวงตี้]] [[เหล่าจือ]] [[ขงจื๊อ]] [[เมิ่งจื่อ]] อีกทั้งท่าน[[เว่ยหลาง]] มหาสังฆปรินายก หรือธรรมจารย์สมัยที่หก นิกาย[[เซน]] ในศาสนาพุทธ เพียงแต่การรวมตัวชาวธรรมเริ่มเกิดครั้ง
ได้มีการรวบรวมตั้งแต่ท่านที่เก้าถึงสิบแปด ได้ไว้บางท่าน ดังนี้
 
* พระธรรมาจารย์[[หวงเต๋อฮุ่ย]] สมัยที่เก้า ชาว[[เจียงซี]] (ค.ศ. 1624) เป็นภาคหนึ่งของมหา[[ปฐม]][[พรหมราชเจ้า]] ดำรงตำแหน่งตั้งแต่ ค.ศ. 1667 จนถึง ค.ศ. 1690
* พระธรรมาจารย์สมัยที่สิบอู๋จื่อเสียง ชาว[[เจียงซี]] สมัยคังซี (ค.ศ. 1715) เป็นภาคหนึ่งของพระวิชญะรุจน์พรหมราชเจ้าเหวินชัง ดำรงตำแหน่งถึง ค.ศ. 1784
* พระธรรมจารย์สมัยที่สิบเอ็ดท่านเหอยั่ว ชาวเจียงซี สมัย[[เฉียนหลง]] เป็นภาคหนึ่งจิ่วเทียนโต่วหมู่
* พระธรรมจารย์สมัยที่สิบสองท่านเอวี๋ยนจื้อเชียน ชาว[[กุ้ยโจว]] (ค.ศ. 1760) แพร่ธรรม 1802 จนถึงปี 1834
* พระธรรมาจารย์ที่สิบสามท่านสวีจี๋หนาน ชาว[[เฉิงตู]] พระภาคหนึ่งพระศรีอาริยเมตไตร สืบทอดธรรมตั้งแต่ ค.ศ. 1826 ถึงปี 1845
 
''พระอาจารย์ธาตุทั้ง 5 ปกครอง[[ธรรมจักรวาล]]'' ถึงปี ค.ศ. 1873
 
* พระธรรมาจารย์ที่สิบสี่ท่านเหยาเฮ่อเทียน ชาว[[ซันซี]] พระภาคหนึ่งพระองค์มารดาทองแห่ง[[สระโบกขรณี]] เหยาฉือจินหมู่ บุกเบิกธรรมปีจนถึงปี ค.ศ. 1984
* พระธรรมาจารย์สมัยที่สิบห้าหวังเสวียเมิ่ง ชาวซันตง (ค.ศ. 1821) พระภาคหนึ่งของพระโพธิสัตว์จันทรปัญญาแพร่ธรรมจนถึงปี ค.ศ. 1884
* พระธรรมาจารย์สมัยที่สิบหกท่านหลิวฮว่าผู่ ชาวซันตง พระภาคหนึ่งของผู้สำเร็จธรรมวิเศษ[[ไท่เก๊ก]] แพร่ธรรมถึง ค.ศ. 1886
* พระธรรมาจารย์สมัยที่สิบเจ็ดท่านลู่จงอี ชาวซันตง (ค.ศ. 1849) จนถึงปี ค.ศ. 1925
 
''ท่านน้องท่านลู่จงอี [[พระพุทธบรรพจารย์จินกง]] ช่วยดูแลงานธรรมแทนชั่วคราว''
 
* พระธรรมาจารย์สมัยที่สิบแปดท่านจางขุยเซิง หรือ[[พระบรรพจารย์เทียนหยาน]] ชาว[[ซันตง]] รับช่วงธรรมจักรวาลตั้งแต่ปี ค.ศ. 1915 จนปี 1947
* พระธรรมจารย์สมัยที่สิบแปดท่านซุนซู่เจิน หรือ[[พระอริยมาตาจงฮว๋า]] ชาวซันตง ศึกษาธรรมคู่กับท่านจางขุยเซินจนถึงปี 1975 ตราบสิ้นชีวิต ได้มีศิษย์เช่น [[เหล่าเฉียนเหยิน]] [[เฉียนเหยิน]] จนแพร่[[อนุตตรธรรม]]สมบูรณ์ ไปทั่วโลก
* ที่สำคัญพระธรรมาจารย์นั้นสิ้นสุดลงเพียงรุ่นที่สิบแปดสองพระองค์เท่านั้น ไม่มีรุ่นที่สิบเก้าหรือผู้รักษาการใด ๆ อีกต่อไป นับแต่พระธรรมจารย์สมัยที่สิบแปดท่านซุนซู่เจินสิ้นชีวิตลง งานธรรมกิจก็ดำเนินแยกไปตามแต่ละสายงานธรรมภายใต้การปกครองของท่าน ธรรมปรินายก ธรรมธิการ รองธรรมธิการ โดยไม่มีพระธรรมาจารย์อีกต่อไป'' แต่ได้มีคำทำนายไว้แล้วว่าภายหลังสิ้นพระธรรมจารย์สมัยที่สิบแปดท่านซุนซู่เจินแล้ว จะมีพระธรรมาจารย์ และพระบรรพจารย์ปลอมเกิดขึ้นอีกมากมาย''
== อ้างอิง ==
{{รายการอ้างอิง}}
{{เริ่มอ้างอิง}}
* [http://www.mindcyber.com สังคมธรรมะออนไลน์]
* [http://xn--m3cajb7bkba7f9e.com อนุตตรธรรม.com]
{{จบอ้างอิง}}
 
[[หมวดหมู่:อนุตตรธรรม]]
{{โครงความเชื่อ}}
 
[[az:?quanadao]]
[[de:Yiguan Dao]]
[[en:I-Kuan Tao]]
[[es:I-Kuan Tao]]
[[fr:Ikuan Tao]]
[[id:Ikuanisme]]
[[it:Ikuantao]]
[[ja:???]]
[[nl:Ikwanisme]]
[[ru:?????????]]
[[zh:???]]
[[zh-yue:???]]