ผลต่างระหว่างรุ่นของ "เรสเซิลเมเนีย ครั้งที่ 27"

เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
เอิร์ธ (คุย | ส่วนร่วม)
บรรทัด 27:
==เบื้องหลัง==
[[ไฟล์:Hhhinraw2822011.png|thumb|right|200px|[[ทริปเปิล เอช]] จะต้องเจอกับ [[ดิ อันเดอร์เทคเกอร์]] ใน เรสเซิลเมเนี่ย ครั้งที่ 27]]
[[เดอะ มิซ]] จะเจอกับ [[จอห์น ซีนา]] หลังจากที่ ซีนาชนะในศึก [[อิลิมิเนชั่น แชมเบอร์ (2011)|อิลิมิเนชั่น แชมเบอร์]] เพื่อไปชิงแชมป์ '''WWE Champion''' ในศึกเรสเซิลเมเนี่ย ครั้งที่ 27<ref>{{cite web|url=http://www.wwe.com/shows/eliminationchamber/matches/16934620/results/|title=Oakland raider|first=Greg|last=Adkins|publisher=[[World Wrestling Entertainment]]|date=2011-02-20|accessdate=2011-02-21}}</ref>ในศึก Raw วันที่ 14 มีนาคม ท้ายรายการยังมี เดอะ มิซ ปลอมตัวเป็น เดอะ ร็อค ออกมาหลอกให้คนดูเฮ แล้วก็ขึ้นมาก่อกวนแมทช์ที่ ซีนา กำลังปล้ำกับ เดล ริโอ อีกจนทำให้ยุติไป ส่วนทางฝั่ง Smackdown [[อัลเบอร์โต เดล ริโอ]] ได้ท้าชิงแชมป์ [[World Heavyweight Champion]] จาก [[อดัม โคปแลนด์|เอดจ์]] จากการที่ อัลเบอร์โต ชนะในศึก [[รอยัลรัมเบิล (2011)|รอยัล รัมเบิล]] ซึ่ง อัลเบอร์โต ได้เลือกที่จะชิงเข็มขัดแชมป์นี้ เพื่อที่จะเจอกันในศึก '''เรสเซิลเมเนีย''' แต่หลังจาก อิลิมิเนชั่น แชมเบอร์ แล้ว อัลเบอร์โต ได้ทำร้าย เอดจ์ ตลอด จนตอนของวันที่ 4 มีนาคม ใน Smackdown ได้มีการเซ็นสัญญาแมทซ์การปล้ำ แต่หลังจากการเซ็นแล้ว เดล ริโอ ก็ทำร้ายเอดจ์ จนเลือดออกทางจมูก และพยายามจะเล่นงานที่แขนเมื่อกับที่เคยเล่นงาน [[คริสเตียน (นักมวยปล้ำ)|คริสเตียน]] เมื่อ กันยายน ปีที่แล้ว และ คริสเตียน ก็ออกมาช่วย เล่นงาน เดล ริโอ ด้วยความแค้น ตั้งแต่ อิลิมิเนชั่น แชมเบอร์ ตอนที่ เอดจ์ พึ่งชนะมาไม่นาน<ref>{{cite web|url=http://www.wwe.com/shows/royalrumble/matches/16630520/results/|title=Del Rio “sleazes” the opportunity|first=Ryan|last=Murphy|publisher=[[World Wrestling Entertainment]]|date=2011-01-30|accessdate=2011-01-31}}</ref><ref> name="WorldHeavyweightChampionship"</ref> Smackdown ตอนของวันที่ 12 มีนาคม จากการที่อัลเบอร์โต และ [[โบรดัส เคลย์]] เล่นงาน เอดจ์ ในตอนเริ่มรายการ ทำให้ [[ทีโอดอร์ ลอง]] ได้จัดแมทซ์คู่เอก ในคืนนั้น โดยบอกว่า '''"โบรดัส เคลย์ และ อัลเบอร์โต เดล ริโอ จะต้องเจอกับ สุดยอดแท็คทีมประวัติศาสตร์ของวงการ อดีต แชมป์แท็คทีม 7 สมัย ที่จะมารวมตัวกันในรอบ 10 ปี นี้ นั้นก็คือ เอดจ์ และ คริสเตียน (Edge & Christian)"''' ผลออกมา เอดจ์ และ คริสเตียน เป็นฝ่ายชนะ ในส่วนของการกลับมาของ [[ดิ อันเดอร์เทคเกอร์]] กับการเผชิญหน้ากับ [[ทริปเปิล เอช]] ในศึก Raw (ตอนวันที่ 21 กุมภาพันธ์ หรือ 2.21.11) ตามที่เคยมีวิดีโอโปรโมทในการกลับมาของ ดิ อันเดอร์เทคเกอร์ หลังจากการพักจากอาการบาดเจ็บที่ผ่านมา แล้ว 2 คนจะเจอกัน เพื่อท้าทายอันเดอร์เทคเกอร์ ว่าในเรสเซิลเมเนีย ครั้งนี้<ref>{{cite web|url=http://www.skysports.com/story/0,19528,14203_6772827,00.html|first=James|last=Coyle|title=Deadman set to face Triple H|publisher=[[Sky Sports]]|date=2011-02-22|accessdate=2011-02-26}}</ref> จะเป็นครั้งที่ 19 ที่อันเดอร์เทคเกอร์ชนะทุกคนในศึกเรสเซิลเมเนีย ที่ตัวเองลงแข่งติดต่อกัน 19 ครั้ง 19 ปี หรือไม่ และ ทริปเปิล เอช จะเป็นผู้ทำลายสถิติของเขาได้หรือไม่ สถิติของอันเดอร์เทคเกอร์จะเป็น 18-1 หรือ 19-0<ref>{{cite web|url=http://pwtorch.com/artman2/publish/WWE_News_3/article_48060.shtml|first=James|last=Caldwell|title=Undertaker vs. Triple H official for WrestleMania, WWE acknowledges back-story on feud|publisher=Pro Wrestling Torch|date=2011-02-25|accessdate=2011-02-26}}</ref> ต่อมาตอนของวันที่ 7 มีนาคม อันเดอร์เทคเกอร์ ได้ออกมาพูดและบอกว่า กฏการปล้ำ จะเป็นแบบ No Holds Barred ไม่มีนับเคาท์เอาท์, ไม่มีจับแพ้ฟาลว์ ใด ๆ ทั้งสิ้น และหลังจากที่มีเรื่องกันระหว่าง [[ไมเคิล โคล]] และ [[เจอร์รี ลอว์เลอร์]] ตั้งแต่เดือนธันวาคม 2553 เจอร์รี ได้มีโอกาสท้าชิงแชมป์โลก WWE กับ เดอะ มิซ ในรูปแบบการปล้ำ TLC Match แต่สุดท้าย เจอร์รี ลอว์เลอร์ ก็ไม่สามารถคว้าแชมป์มาได้ เพราะ ไมเคิล โคลล์ ได้เข้ามาขัดขวาง ทำให้ เดอะ มิซ ป้องกันแชมป์เอาไว้ได้ในที่สุด และต่อมาในศึก Raw ที่จัดขึ้นหลัง[[รอยัลรัมเบิล (2011)|รอยัล รัมเบิล]] 1 วัน ได้มีการปล้ำแบบ รอว์ รัมเบิล ซึ่งผู้ที่ชนะจะได้รับสิทธิ์ในการเจอกับ เดอะ มิซ ใน [[อิลิมิเนชั่น แชมเบอร์ (2011)|อิลิมิเนชั่น แชมเบอร์]] แต่ผลที่ออกมาก็คือ เจอร์รี่ เป็นฝ่ายแพ้ไป จากนั้นในวันถัดมา ในการสัมภาษณ์ระหว่าง เจอร์รี่ และ โคลล์ หลังจากการที่แพ้ เดอะ มิซ ในการปล้ำชิงแชมป์ โดยที่ โคลล์ได้พูดยั่วยวน เจอร์รี่สารพัด จน เจอร์รี่ท้าโคลล์ เพื่อที่จะเจอกันใน เรสเซิลเมเนีย ซึ่งในสัปดาห์ถัดมา คำตอบที่ได้คือ '''ไม่''' แต่มีข้อแม้คือถ้าจะเจอกัน จะต้องเจอแบบมีผู้จัดการอยู่ด้านล่างเวที และ มีกรรมการพิเศษตัดสินบนเวที โดยมีโคลล์เป็นคนเลือกเอง และได้เปิดตัวผู้จัดการส่วนตัวคือ [[แจ๊ค สแวกเกอร์]] เจอร์รี่จึงยอมที่จะเจอโคลล์ใน เรสเซิลเมเนี่ย และ 6 มีนาคม ในศึกรอว์ โคลล์ ได้ประกาศว่า ในเรสเซิลเมเนีย โคลล์ จะเจอกับ ลอว์เลอร์ โดยที่ [[จอห์น เลย์ฟิลด์|จอห์น "แบรดชอว์" เลย์ฟิลด์]] เป็นกรรมการพิเศษ เลย์ฟิลด์มาพร้อม ลีมูซีน และบอกว่า โคลล์คิดถูกแล้วที่เลือกเขา แต่ขณะที่กำลังจะเซ็นสัญญาการเป็นกรรมการนั้น [[สตีฟ ออสติน|สโตน โคลด์ สตีฟ ออสติน]] ก็ได้ออกมา จัดการ เลย์ฟิลด์ โดยท่า '''สตันเนอร์''' แล้วเซ็นสัญญา เป็นกรรมการพิเศษ ซึ่งโคลล์ได้บอกว่า เป็นวันที่เขารอคอย และเป็นคืนของเขา แต่ สโตน โคลด์ ก็เอาเบียร์ ราดหัว ไมเคิล โคลล์ ขนาดที่ทำหน้าที่เป็นผู้บรรยาย เพราะจากที่โคลล์ได้พูดจาถึง สโตน โคลด์ และประกาศว่า '''"[[เจอร์รี ลอว์เลอร์]] จะเจอกับ [[ไมเคิล โคล]] โดยมี [[สตีฟ ออสติน|สโตน โคลด์ สตีฟ ออสติน]] เป็นกรรมการพิเศษ"''' และเมื่อวันที่ 14 มีนาคม ในศึกรอว์ ที่ผ่านมา จิม รอส ก็มาออกมาพูดช่วย รอว์เลอร์ เพื่อนรักเขา แล้วโคล ก็ทำท่าพูดยั่ว จนสักพัก สแวกเกอร์ก็ลอบทำร้าย ลอว์เลอร์จากด้านหลัง แล้วเล่นงาน จิม รอสส โคล พูดบังคับให้ JR ตบพื้นยอมแพ้ สักพัก ลอว์เลอร์จะมาช่วย แต่ก็โดน สแวกเกอร์เล่นงานอีก โดยท่า แองเกิลล็อก (Angle Lock) และ โคล ก็ใช้ท่านี้เล่นงาน JR ด้วย ส่วนทางด้านของ [[แรนดี ออร์ตัน]] จะเจอกับ [[ซีเอ็ม พังค์]] ตามคำสั่งของผู้จัดการทั่วไปของ Raw โดยออร์ตันจะเจอกับกลุ่ม [[เดอะเน็กซัส]] ในทุกสัปดาห์ โดยถ้าออร์ตันแพ้ กลุ่ม เน็กซัสจะมีสิทธิ์ในการยืนคุมด้านล่างเวที แต่ถ้าแพ้ กลุ่มของ เน็กซัส จะถูกแบนในแมทซ์ที่จะต้องเจอใน เรสเซิลเมเนีย โดยเริ่มจากการเจอ [[ไมเคิล แมคกิลลิคัตตี]] ประเดิมเป็นสัปดาห์แรก ต่อด้วย [[เดวิด โอทังก้า]] เป็นสัปดาห์ที่สอง ถึงแม้จะโดนเล่นงานก่อนหน้าที่จะแมทซ์ก็ตาม แต่ว่า ออร์ตันก็สามารถชนะ โดยการใช้ท่า RKO ใส่โอทังก้า จนชนะในที่สุด และ สัปดาห์ที่ 3 ออร์ตันจะต้องเจอกับ [[แบร์รี กริฟฟิทส์|เมสัน ไรอัน]] ก็ชนะ ไรอันได้อีก ในทางของ [[เรย์ มิสเตริโอ จูเนียร์|เรย์ มิสเตริโอ]] ที่มีปัญหากับ [[โคดี้ โรดส์]] ใน Smackdown เมื่อเดือนมกราคมก่อน รอยัล รัมเบิล ที่ทำให้ โคดี้ ถอนตัวจากการปล้ำทั้ง 40 คน รอยัล รัมเบิล แมทซ์ รวมถึงศึก อิลิมิเนชั่น แชมเบอร์ ที่ไม่ได้ลงแข่ง และในตอนของวันที่ 25 กุมภาพันธ์ ใน Smackdown หลังจากการปล้ำชนะของ มิสเตริโอ แล้ว ก็มีเพลงของ "ดิ อเมริกัน ดรีม" [[ดัสตี้ โรดส์]] พ่อของโคดี้ออกมาพูดให้ โคดี้ออกมาขอโทษ เรย์ แล้ว โคดี้ก็ออกมาแล้วพูดขอโทษ จากนั้นเมื่อเรย์ จะลงจากเวที ดัสตินก็ดึงมือ เรย์ไว้ แล้ว โคดี้ก็เล่นงาน เรย์ จับอัดใส่มอนิเตอร์ แล้วถอดหน้ากากของเรย์ออก ซึ่งกรรมการก็ต้องรีบนำผ้าปิดหน้าเรย์ ก่อนที่จะเริ่มแมทซ์ต่อไปใน Smackdown ในสัปดาห์ต่อมา วันที่ 4 มีนาคม โคดี้ ได้ล้อเลียน เรย์ โดยการเปิดเพลง ของเรย์ ทำท่าเลียนแบบ รวมถึงใส่หน้ากากที่ดึงมาจากเรย์อีกด้วย แล้วพูดท้าทายเรย์ว่าเจอต้องเจอกันใน เรสเซิลเมเนียกัน และล่าสุด เมื่อ [[วิคกี เกอร์เรโร]] ถูกท้าทายด้วยแมทซ์การปล้ำที่จะต้องปล้ำกับ [[ทริส สตราตัส]] ใน Raw ตามคำสั่งของ ผู้จัดการทั่วไป WWE Raw ถ้าวิคกี้แพ้ จะไม่ได้ทำงานในรอว์ ในตอนของวันที่ 14 มีนาคม Raw ได้ประกาศเมื่อสัปดาห์ที่แล้วว่าจะมีแขกรับเชิญจากเรียลลิตี้ของ MTV คือ [[นิโคล "สนุ๊กกี้" โพลิซซี]] และได้พูดก่อนที่จะมีแมทซ์การปล้ำ ของ ทริส และ วิกกี้ ในแบบ ไม่มีการจับแพ้ฟาล์ว ขณะที่ปล้ำอยู่นั้น [[ดอล์ฟ ซิกก์เลอร์]] คนที่เป็นแฟนของวิกกี้ หลังจากที่โดน [[ทีโอดอร์ ลอง]]ไล่ออกใน Smackdown ก่อน อิลิมิเนชั่น แชมเบอร์ 2 วัน ซึ่งตอนนี้ก็ได้ทำงานใน Raw แล้วจากการชนะ [[จอห์น มอร์ริสัน]] เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว เพื่อตำแหน่งงานของ ดอล์ฟ ใน แบรนด์ Raw ก็ออกมาบนเวที และ มอร์ริสัน ก็ขึ้นมาเล่นงานดอล์ฟ ลงจากเวที และใช้ท่า Starship Pain ลงมาบนพื้น และเหตุการณ์ วุ่นวายมาก เพราะ เลย์คูล ([[เลย์ล่า อีล|เลย์ลา]] กับ [[มิเชล แมคคูล]]) ดันขึ้นมาช่วยวิกกี้ โดยเล่นงานทริส จนทริสต้องแพ้และ วิกกี้ได้งานใน Raw นิโคล แขกรับเชิญใน Raw ทนไม่ไหว วิ่งกระโดดใส่วิกกี้ เล่นงานวิกกี้จนวุ่นวายสุด ๆ วิกกี้เลยท้าว่า '''ทริส สตราตัส, นิโคล สนุ๊กกี้ และ จอห์น มอร์ริสัน จะเจอกับ ดอล์ฟ และ ทีมเลย์คูล ใน เรสเซิลเมเนีย'''
 
==แมทซ์การปล้ำ==