ผลต่างระหว่างรุ่นของ "หลักการตั้งชื่อทางดาราศาสตร์"

เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
TXiKiBoT (คุย | ส่วนร่วม)
โรบอต เพิ่ม: bg, es, it, sl, zh
Tinuviel (คุย | ส่วนร่วม)
บรรทัด 7:
{{บทความหลัก|การตั้งชื่อดาวฤกษ์}}
 
ตามข้อกำหนดของสหพันธ์ดาราศาสตร์สากลแล้ว [[ดาวฤกษ์]]ไม่มีชื่อเฉพาะ นอกเหนือไปจากดาวฤกษ์สว่างเพียงไม่กี่ดวงที่มีชื่อเฉพาะมาแต่ยุคโบราณ ถ้าดาวฤกษ์นั้นมีชื่อเฉพาะมาแต่เดิม ชื่อเหล่านั้นจะนำมาจาก[[ภาษาอารบิก]] ซึ่งเป็นที่มาตั้งแต่ยุคบุกเบิกการศึกษาดาราศาสตร์
 
ดาวฤกษ์ที่สว่างจนสามารถมองเห็นได้ตาเปล่าบนท้องฟ้ายามค่ำคืนนั้นมีเพียงไม่กี่พันดวง ดังนั้นจำนวนชื่อเฉพาะของดาวฤกษ์ที่มีมาแต่วัฒนธรรมโบราณจึงมีจำนวนจำกัด เพียงสูงสุดที่ไม่เกิน 1 หมื่นดวงเท่านั้น
 
ประมาณการว่า จำนวนดาวฤกษ์ที่มีชื่อเฉพาะมีจำนวนอยู่ระหว่าง 300-350 ดวง ซึ่งเป็นดาวฤกษ์ที่สว่างที่สุดหรือเป็นดาวฤกษ์ที่รวมกลุ่มกันเป็นรูปร่าง[[กลุ่มดาว]] จำนวนชื่อของดาวนั้นมีมากกว่าจำนวนดาวที่มีชื่อ เพราะวัฒนธรรมที่แตกต่างกันอาจกำหนดชื่อดาวที่ต่างกันสำหรับดาวดวงเดียวกันนั่นเอง ตัวอย่างเช่น ดาวที่รู้จักกันว่า [[ดาวเหนือ]] มีชื่ออื่นที่แตกต่างไปตามสถานที่และยุคสมัยต่างๆ เช่น Alruccabah, Angel Stern, Cynosura, the Lodestar, Mismar, Navigatoria, Phoenice, the Pole Star, the Star of Arcady, Tramontana และ Yilduz
 
ด้วยความก้าวหน้าของการประดิษฐ์[[กล้องโทรทรรศน์]] ทำให้ดาวฤกษ์ที่เรามองเห็นมีจำนวนเพิ่มมากขึ้น มากเสียจนไม่สามารถจะตั้งชื่อเฉพาะให้กับทุกดวงได้ จึงมีรหัสกำหนดในการเรียกขานดาวเหล่านั้นด้วยระบบการตั้งชื่อดาวฤกษ์หลายระบบ ระบบเก่าๆ อาจตั้งชื่อโดยไม่มีกฎเกณฑ์แน่ชัด หรือใช้ระบบตั้งชื่อแบบง่ายๆ เช่นเอาชื่อกลุ่มดาวผสมกับตัว[[อักษรกรีก]] การที่มีระบบการตั้งชื่อดาวฤกษ์หลายระบบทำให้ดาวบางดวงมีรหัสมากกว่า 1 ชื่อ ตัวอย่างเช่น ดาวที่มีชื่อภาษาอารบิกว่า ริจิล เคนเทารัส (Rigil Kentaurus) มีชื่อใน[[ระบบการตั้งชื่อของเบเยอร์]]ว่า [[อัลฟาเซนเทารี]]
 
==แหล่งข้อมูลอื่น==